ARDS หรือ Acute Respiratory Distress Syndrome เป็นปัญหาของระบบทางเดินหายใจที่รุนแรง ทำให้เกิดความเจ็บป่วยจนถึงแก่ชีวิตได้ การวินิจฉัยและการรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้นเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อยับยังไม่ให้ภาวะ ARDS รุนแรงขึ้นจนไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเกิดภาวะอวัยวะล้มเหลวหรือเสียชีวิตได้ การวินิจฉัยตั้งแต่ในระยะแรกและการรักษาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการช่วยชีวิตผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยด้วยภาวะนี้
การรักษาโดยทั่วไปสำหรับภาวะ ARDS
ออกซิเจน: การรักษาเริ่มด้วยการให้ออกซิเจนแก่ผู้ป่วยเพื่อช่วยรักษาระดับออกซิเจนในกระแสเลือด สิ่งนี้มักถูกทำโดยการใส่ท่อช่วยหายใจและใช้เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยยังหายใจได้แม้ว่าจะอ่อนแอจนหายใจเองไม่ไหวแล้วก็ตาม และยังให้ออกซิเจนได้มากกว่าการใช้ Nasal cannula (อุปกรณ์ให้ออกซิเจนเป็นสายยางคู่ขนาดเล็กต่อเข้าทางจมูก) หรือให้ทางหน้ากาก
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ยาปฏิชีวนะ: ผู้ป่วยด้วยภาวะ ARDS จะได้รับยาปฏิชีวนะเมื่อมีการติดเชื้อ เช่นปอดติดเชื้อ หรือการติดเชื้อชนิดอื่นๆ ในผู้ป่วยหลายราย ARDS เริ่มต้นมาจากภาวะปอดติดเชื้อ หรือปอดติดเชื้อที่เกิดจากการสำลัก การให้ยาปฏิชีวนะจึงเป็นสิ่งจำเป็น
สารน้ำทางเส้นเลือดดำ: สารน้ำมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายคงการทำงานที่สำคัญไว้ได้ แต่การให้สารน้ำอย่างสมดุลก็เป็นเรื่องยาก หากน้อยเกินไป ร่างกายก็จะขาดน้ำ ทำให้ส่งเลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงอวัยวะและแขนขาได้ยาก หากมากเกินไปก็จะเป็นอุปสรรคต่อการเพิ่มออกซิเจนในเลือดที่ปอด
ท่าทางของร่างกาย: ในผู้ป่วยบางราย การให้ผู้ป่วยนอนคว่ำช่วยเรื่องได้รับออกซิเจน แต่ในผู้ป่วยภาวะ ARDS ส่วนใหญ่จะป่วยมากเสียจนการเปลี่ยนท่าทางเล็กๆน้อยๆ ก็ทำให้ภาวะที่เป็นอยู่แย่ลงได้ ซึ่งทำให้การจัดท่าคว่ำเป็นไปได้ยาก เตียงที่ขยับให้ผู้ป่วยนอนคว่ำโดยขณะที่ยังได้รับสารน้ำและใช้เครื่องช่วยหายใจเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาโดยช่วยไป
ทำความรู้จักกับ Rotoprone ซึ่งเป็นเตียงที่ใช้สำหรับการรักษาภาวะ ARDS และภาวะความเจ็บป่วยของระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ ลักษณะภายนอกของเตียงนี้ดูไม่เหมือนเตียงปกติ และอาจทำให้สมาชิกในครอบครัวตกใจเมื่อเห็นคนที่พวกเขารักนอนเตียงนี้เป็นครั้งแรกได้
ยาที่ใช้ทางการหายใจ
Nitric oxide: Inhaled nitric oxide หรือ INO เป็นแก๊สไม่มีสีไม่มีกลิ่นที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วย ARDS โดยถูกใช้สำหรับการทำให้การไหลเวียนเลือดในปอดดีขึ้น เพื่อเพิ่มระดับออกซิเจน งานวิจัยหลายๆ งานยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ INO
Albuterol: ยาสูด Albuterol ถูกใช้โดยทั่วไปในการรักษาอาการหอบหืดโดยการขยายหลอดลม มันอาจถูกใช้ในการรักษา ARDS เพื่อช่วยเปิดหลอดลมไว้
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
Steroids: การให้สเตียรอยด์ทางหลอดเลือดดำแก่ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉับภาวะ ARDS เป็นประเด็นร้อนที่ยังถกเถียงกันอยู่ในทางอายุรศาสตร์ โดยแพทย์แบ่งออกเป็นสองฝ่ายว่า สเตียรอยด์เป็นการรักษาที่มีหรือไม่มีประสิทธิภาพสำหรับ ARDS
Levophed: ยานี้ใช้สำหรับเพิ่มความดันโลหิตโดยทำให้หลอดเลือดในร่างกายหดตัว ผู้ป่วย ARDS หลายรายมีปัญหาในการคงระดับความดันโลหิตของตัวเอง ซึ่งยานี้จะช่วยคงความดันโลหิต และเป็นยาที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดและมีปัญหาการได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ
ยานอนหลับและยาทำให้เป็นอัมพาต: ยานอนหลับจะถูกใช้เพื่อทำให้ผู้ป่วยผ่อนคลาย และทนต่อการใช้เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลได้มาก ส่วนยาที่ทำให้กล้ามเนื้อส่วนใหญ่ของร่างกายเป็นอัมพาต จะถูกใช้ต่อเมื่อผู้ป่วยมีภาวะต้านเครื่องช่วยหายใจ ยาดังกล่าวจะไม่ถูกใช้หากไม่ได้ใช้ยานอนหลับร่วมด้วย แต่สามารถใช้ยานอนหลับอย่างเดียวโดยไม่ต้องใช้ยาที่ทำให้กล้ามเนื้อเป็นอัมพาตร่วมด้วยได้
Surfactant: (สารลดแรงตึงผิวของปอด) เป็นสารที่ประกอบด้วยไขมันและโปรตีนที่พบอยู่ตามถุงลมปอด (alveoli) สารดังกล่าวช่วยเพิ่มการทำงานของถุงลมปอด ทำให้การเพิ่มออกซิเจนในเลือดดีขึ้น ปกติแล้วสารลดแรงตึงผิวของปอดที่สังเคราะห์ขึ้นจะใช้สำหรับทารกคลอดก่อนกำหนด ที่ไม่สามารสร้างสารนี้ด้วยตนเองได้เพียงพอ สารชนิดเดียวกันนี้ยังถูกใช้สำหรับผู้ป่วย ARDS ในเฉพาะบางรายเท่านั้น
หลังจากภาวะ ARDS
เมื่อผู้ป่วยถูกวินิจฉัยว่ามีภาวะ ARDS จะมีอัตราการเสียชีวิตสูงขึ้นได้ถึงประมาณ 40% ซึ่งหมายถึงว่าผู้ป่วย ARDS สี่คนจากสิบคนจะเสียชีวิต ผู้ป่วยที่รอดชีวิตได้มักเป็นเพราะการได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่ในระยะเริ่มแรกและการได้รับการรักษาอย่างเต็มที่และเหมาะสม แม้ในทางสถิติจะดูแย่ แต่การรักษาภาวะนี้ก็ดีขึ้นทุกปี และมีผู้ป่วยรอดชีวิตมากขึ้นเรื่อย ๆ
เป็นเรื่องปกติที่จะรู้สึกเหนื่อย หายใจไม่ทัน และรู้สึกไม่สบายหลังจากมีภาวะ ARDS โดยอาจใช้เวลาเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือนกว่าจะรู้สึกหายเป็นปกติ แม้แต่หลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้ว สำหรับผู้ป่วยบางราย รอยแผลเป็นในปอดอาจทำให้การได้รับออกซิเจนไม่ดีเท่ากับก่อนเจ็บป่วย และทำให้รู้สึกอ่อนเพลียได้