August 29, 2019 21:42
ตอบโดย
กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.)
หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันมาก่อนมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ครับ จึงควรตรวจการตั้งครรภ์ตั้งแต่ภายหลังมีความเสี่ยงมากกว่า14วันขึ้นไปครับ
นอกจากนี้สาเหตุอื่นๆที่ทำให้ประจำเดือนขาดไปได้เช่น
ความเครียด ความกังวล
เนื้องอกที่ชั้นกล้ามเนื้อมดลูก
เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่
ซีสต์ที่รังไข่
ระดับฮอร์โมนเพศไม่สมดุล
การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
ต่อมไทรอยด์ทำงานไม่ปกติ
ภาวะอ้วน น้ำหนักเกิน
การตั้งครรภ์โดยไม่รู้ตัว
เป็นต้น
ฉะนั้น เบื้องต้นควรตรวจการตั้งครรภ์ก่อน หากไม่พบว่ามีการตั้งครรภ์ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย ตรวจภายใน อัลตร้าซาวน์ ตรวจเลือด เพื่อหาสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนขาดหายไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
การหลั่งข้างนอก ( withdrawal ) เป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพไม่ค่อยดีเมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆ ครับ
>>จากสถิติ ถ้าทำได้ถูกต้องเลยโอกาสจะตั้งท้องประมาณ 4% แต่โดยทั่วๆไป หรือตามความจริงแล้ว ขณะที่อวัยวะเพศชายสอดใส่ มักมีสเปิร์มออกมาพร้อมกับร้ำหล่อลื่นบ้างบางส่วนครับ ทำให้โอกาสจะตั้งครรภ์ในชีวิตจริงมีสูงถึง 22-27% ครับ
โดยปกติ รอบเดือนของเรา จะคลาดเคลื่อนอยู่ระหว่าง 21-35 วัน (บวกลบเจ็ดวันจากรอบก่อนๆ ) อยู่แล้วครับ ถ้ายังอยู่ในช่วงนี้ ก็ยังถือว่าปกติครับ แต่ถ้ามีความเครียด วิตกกังวล ซึ่งเกิดขึ้นได้ในคนทั่วไป ก็อาจทำให้คลาดเคลื่อนไปได้อีกครับ
ในกรณีประจำเดือนไม่มาตามปกติ หรือ ประจำเดือนขาดไป
-ถ้าคนไข้มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน การใช้ถุงยางอนามัย หรือการคุมกำเนิดวิธีอื่นๆไม่ถูกต้อง หรือ ผิดพลาด เช่น ถุงยางอนามัยรั่วซึม หรือ การหลั่งนอก ก็อาจตั้งครรภ์ได้ เบื้องต้นแนะนำว่า ให้ตรวจการตั้งครรภ์ก่อนนะครับ โดยการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะด้วยตนเอง สามารถตรวจได้ตั้งแต่ 14 วันหลังมีเพศสัมพันธ์ครับ
(การตรวจนั้น ต้องตรวจถุกต้องตามคำแนะนำและระยะเวลาที่เหมาะสมด้วยนะครับจึงจะเชื่อถือได้ครับ)
-ถ้าคนไข้ไม่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เลยหรือตรวจการตั้งครรภ์แล้วไม่พบการตั้งครรภ์. ปัจจัยที่จะทำให้ประจำเดือนที่เคยมา แล้วไม่มา หรือผิดปกติ มีหลายอย่างครับ ตัวอย่าง เช่น
1.ความเครียด การอดอาหารนานๆ และการออกกำลังกายอยางหักโหมมากเกินไป ทำให้ประจำเดือนขาดได้ครับ พบได้บ่อยที่สุด
2.การใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาคุมกำเนิด แบบฉีด หรือยาบางอย่าง เช่น ยารักษาโรคทางจิตเวช
3.โรคทางระบบสืบพันธ์บางชนิด เช่น ถุงน้ำรังไข่ ( PCOS) อาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ หรือ การ ติดเชื้อ ทางเพศสัมพันธ์ อาจมำให้มีอาการปวดท้อง หรือ ตกขาว ที่ผิดปกติได้ ซึ่ง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย
4.ฮอร์โมน ไทรอยด์ผิดปกติ ซึ่งจะต้องทีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ใจสั่น กินจุ น้ำหนักลด หรือ ฮอร์โมนจากรังไข่ผิดปกติ อาจทำให้ไม่เกิดการตกไข่ ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไม่มา หรือมาแบบกระปริบกระปรอย เป็นต้นครับ
5. โรคทางการกินที่ผิดปกติ (anorexia) ซึ่งเป็นโรคทางจิตเวชอย่างหนึ่ง หากอดอาหาร หรือทานอาหารไม่ถูกวิธีนานๆ จะทำให้ขาดประจำเดือนได้ครับ
ถ้าคนไข้มีอาการต่างๆที่ผิดปกติดังที่กล่าวไป แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายหรือตรวจภายในเพิ่มเติมนะครับ
หากประจำเดือนมาล่าช้ากว่าปกติ และไม่ได้เป็นมาติดต่อกันนานเกิน 3 ครั้ง ก็ให้รอดูอาการก่อนได้ครับ หากเกิน 3 เดือนประจำเดือนไม่มา แนะนำให้ไปตรวจร่างกาย และตรวจภายในเพิ่มเติมนะครับ
อนึ่ง การทำใจให้สบาย พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ระมัดระวังเรื่องการใช้ยาหรืออาหารเสริมที่แพทย์ไม่ได้สั่ง และออกกำลังกาย จะช่วยให้สมดุลฮอร์โมนดีและทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
การที่มีประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอนั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- มีปัญหาการตกไข่ที่ไม่สม่ำเสมอ
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- รังไข่ผิดปกติ เช่น การมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่
- ความเครียด/วิตกกังวล/อารมณ์แปรปรวน
- การออกกำลังกายที่หนักไป
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยไป
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- ตั้งครรภ์
เป็นต้นครับ
ถ้ามีความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ อาจลองตรวจการตั้งครรภ์ และแนะนำให้พักผ่อนมากๆ หลีกเลี่ยงความเครียด/ออกกำลังกายหักโหม พยายามลดน้ำหนัก ดีที่สุดอยากให้พบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัด เพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
โดยปกติแล้วถ้าหากมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นเยื่อบุโพรงมดลูกก็จะต้องเจริญหนาตัวขึ้นเรื่อยๆเพื่อรองรับการฝังตัวของตัวอ่อนและจะไม่หลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน ในกรณีนี้ที่ได้มีประจำเดือนมาครั้งหนึ่งแล้วหลังการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายจึงเป็นการบ่งบอกได้ว่าไม่น่ามีการตั้งครรภ์ครับ
การที่มีประจำเดือนมาช้านั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ความเครียด
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้ แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ
อย่างไรก็ตามถ้าหากต้องการความมั่นใจว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์จริงๆก็สามารถลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูให้แน่ใจได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะ คือประจำเดือนไม่มาตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค.และมีความรู้สึกเหมือนกำลังจะเป็นตลอด เดือนที่แล้วประจำเดือนมานะคะแต่มาเร็วกว่าทุกเดือนคือ. 14 ก.ค. ซึ่งจริงๆจะมาช่วง 25-27ของทุกเดือน เดือนนี้เลยคิดว่าต้องมา14 จนผ่านมาถึงตอนนี้ยังไม่มาค่ะ ช่วงเกือบกลางเดือนมีเลือดหรือตกขาวสีน้ำตาลออกมาเปื้อนกางเกงในวันนึงค่ะ มีอาการปวดท้องน้อยบ่อยมาสักพักประมาณ3-4เดือนแล้วค่ะ แต่เป็นๆหายๆ มีเพศสัมพันธ์กับแฟนล่าสุด ประมาณสิ้นเดือน มิ.ย.ค่ะหลั่งนอกนะคะ ช่วงนี้มีความเครียดค่ะตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ก.ค. ปัญหาส่วนตัว และนอนน้อยค่ะ นอนตี1-ตี2 ตื่นเช้าค่ะ บวกกับอาทิตย์นี่เป็นโรคกระเพาะ ทำให้พะอืดพะอมและเวียนหัวค่ะ อยากสอบถามว่ามีโอกาสตั้งครรภ์มั้ยคะ หรือเสี่ยงเป็นอะไรมั้ยคะ หรือควรดูต่อไปอีกสักพัก ขอบคุณค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)