ประโยชน์ของมะขาม ไอเดียการกินการใช้มะขามเพื่อสุขภาพ ข้อควรระวัง

จะกินเปรี้ยวก็สะใจ กินหวานก็เพลิดเพลิน จะกินคาวก็อร่อยล้ำ หรือจะขัดผิวก็เจ๋งสุดๆ
เผยแพร่ครั้งแรก 8 ก.ย. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 ตรวจสอบความถูกต้อง 2 เม.ย. 2019 เวลาอ่านประมาณ 5 นาที
ประโยชน์ของมะขาม ไอเดียการกินการใช้มะขามเพื่อสุขภาพ ข้อควรระวัง

มะขาม เป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติทั้งความเปรี้ยว ความหวาน และยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมาย   เมื่อยังดิบเนื้อจะมีสีเขียวอ่อนๆ รสชาติเปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟัน  แต่เมื่อเริ่มห่ามจากเนื้อสีเขียวๆ ก็จะเริ่มมีสีอมเหลืองมากขึ้นๆ คลายรสเปรี้ยวลงมีรสหวานเพิ่มขึ้น  แต่หากสุกเต็มที่ เนื้อจะกลายเป็นสีน้ำตาลอมทองแทน ส่วนรสชาติก็หวานมากขึ้นตามสีที่เปลี่ยนไปเช่นกัน แต่จะหวานมาก หรือหวานน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่สายพันธุ์  

เราสามารถรับประทานได้ทั้งยอดอ่อน ผลหรือ ฝัก  อีกทั้งยังรับประทานได้ทั้งสดๆ และแบบแปรรูป เช่น แช่อิ่ม กวน อบ แม้กระทั่งเมล็ดก็สามารถนำมารับประทานได้เช่นเดียวกัน   

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

ทำความรู้จักกับมะขาม

มะขาม หรือชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Tamarindus indica  L. เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง-ใหญ่  มีกิ่งก้านสาขาปานกลาง ผลัดใบตลอดทั้งปี เปลือกต้นขรุขระสีอมเทา หรือน้ำตาลอมเทา มะขามมีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปแอฟริกา หลังจากนั้นได้มีการนำมาทดลองปลูกในประเทศเขตร้อนของเอเชียและเป็นที่นิยมทั่วไปในภูมิภาค   

คุณค่าทางโภชนาการของมะขาม

มะขามดิบ 100 กรัม ให้คุณค่าทางโภชนาการ ดังนี้

พลังงาน 239 กิโลแคลอรี่ ไขมัน 0.6 กรัม เส้นใย 5.1 กรัม โปรตีน 2.8 กรัม น้ำตาล 57.4 กรัม คาร์โบไฮเดรต 62.5 กรัม วิตามินเค 2.8 ไมโครกรัม วิตามินอี 0.1 มิลลิกรัม วิตามินซี 3.5 มิลลิกรัม แคลเซียม 74 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 2.8 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 113 มิลลิกรัม โคลีน 8.6 มิลลิกรัม สังกะสี 0.1 มิลลิกรัม และโซเดียม 28 มิลลิกรัม

ประโยชน์ของมะขาม

1.แก้อาการตาแห้ง

อาการตาแห้งเกิดจากมีน้ำตาไม่เพียงพอต่อการหล่อเลี้ยงดวงตา สาเหตุอาจเกิดจากร่างกายผลิตน้ำตาได้ไม่เพียงพอรวมถึงน้ำตาที่ผลิตได้อาจไม่มีคุณภาพ  ในมะขามมีสารชื่อว่า "มิวซิน"  เป็นสารประกอบในเยื้อเมือกที่พบในดวงตา ดังนั้นจึงมีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้นให้กระจกตาได้ มีการทดลองสกัดสารที่อยู่ในมะขามมาหยอดตาพบว่า อาการตาแห้งของผู้ทดลองดีขึ้น

2.ดูแลผิวให้สวย

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

มีกรด AHA ที่มีคุณสมบัติช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ทำให้เซลล์ผิวเก่าหลุดออกไปเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสมากขึ้นกว่าเดิม คนโบราณจึงนิยมใช้ขัดผิวโดยเฉพาะบริเวณข้อพับ ข้อศอก ตาตุ่ม หรือจุดที่ผิวหยาบกร้านให้จางลงได้  มะขามยังมีวิตามินซีซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเลิศโดยจะช่วยป้องกันผิวจากมลภาวะ ทำให้ผิวเรียนเนียนใส สุขภาพผิวดี ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ รอยสิว และรักษาสิวได้อีกด้วย

3.บำรุงกระดูก

จากการศึกษาพบว่า หากร่างกายได้รับฟลูออไรด์มากเกินไปจะทำให้กระดูกเปราะบางได้ แต่การรับประทานมะขามจะช่วยขับฟลูออไรด์ออกมาทางปัสสาวะมากขึ้นรวมทั้งยังลดการขับทองแดงและแคลเซียมออกจากร่างกายให้น้อยลงจึงชะลอการเสื่อมถอยของกระดูกและลดการเกิดข้ออักเสบได้  นอกจากนี้ยังมีแคลเซียมสูงจึงดีต่อสุขภาพกระดูกและฟันด้วยนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวยังต้องการการศึกษาเพิ่มเติม

4.ลดน้ำหนัก

มีการศึกษาในหนูทดลองพบว่า สารสกัดจากมะขามมีคุณสมบัติช่วยลดน้ำหนักได้ เนื่องจากมะขามเต็มไปด้วยใยอาหารและสารเคมีหลายชนิดที่ช่วยกระตุ้นระบบการขับถ่ายให้ดีขึ้น เส้นใยจะช่วยดักจับไขมันจากอาหารและลดการสะสมไขมันตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้

5.สร้างเม็ดเลือดและเสริมภูมิต้านทาน

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

มีธาตุเหล็กจึงมีส่วนช่วยสร้างเม็ดเลือดได้ และมีวิตามินซีสูงซึ่งช่วยเสริมภูมิต้านทานให้แก่ร่างกายได้

6.ช่วยบำรุงสายตา

มีวิตามินเอและสารเบต้าแคโรทีนจึงช่วยบำรุงสายตาได้

7.รักษานิ่ว

มีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ จึงมีสรรพคุณช่วยลดการเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ

ไอเดียการใช้มะขามเพื่อสุขภาพ

1.แก้ผดผื่นคัน   นำใบมะขามมาต้มกับน้ำเดือดแล้วปิดฝาเอาไว้ เคี่ยวประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นปิดไฟ ทิ้งไว้จนเย็น แล้วนำน้ำมาอาบจะทำให้ผิวหนังแข็งแรง และช่วยลดอาการผดผื่นคันตามผิวหนังได้

2.ฆ่าเชื้อราบนศีรษะ   นำมะขามเปียกมาผสมกับน้ำแล้วคั้นเอาน้ำข้นๆ ผสมกับน้ำสะอาด ใช้ชโลมทั่วศีรษะหลังจากสระผมเสร็จจากนั้นหมักทิ้งไว้ 30 นาทีแล้วล้างออกจะทำให้รากผมแข็งแรง ช่วยฆ่าเหา และฆ่าเชื้อราบนหนังศีรษะได้

3.ใช้ถ่ายพยาธิ   มีฤทธิ์ในการถ่ายพยาธิไส้เดือน และพยาธิตัวกลม วิธีใช้คือ นำเมล็ดมะขามมาคั่ว กะเทาะเปลือกออก แล้วแช่ในน้ำเกลือจนนิ่ม  นำมารับประทานครั้งละ 20 เม็ด

4.ใช้เป็นยาระบาย    มีกรดอินทรีย์หลายชนิดที่มีคุณสมบัติช่วยระบายท้องและลดความร้อนในร่างกาย โดยรับประทานมะขามเปียกจิ้มเกลือราว 3 – 4 ฝัก ดื่มน้ำอุ่นตามลงไปหลายๆ แก้วก่อนนอน  จะช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย แก้ปัญหาท้องผูกได้เป็นอย่างดี

5.ใช้ขัดผิว   เพียงนำมะขามเปียกมาขยำกับน้ำเปล่า อาจเติมนมสดและน้ำผึ้งลงไปผสมด้วยได้ หรือใช้เนื้อมะขามมาขัดผิวขณะอาบน้ำทิ้งไว้ 15-20 นาที ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ทาครีมกันแดดเป็นประจำก็จะช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส สูตรนี้สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกายได้

ไอเดียการกินมะขามเพื่อสุขภาพ

1.แกงส้มเนื้อย่างมะขามอ่อน

ย่างหมูเตรียมไว้ จากนั้นหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ผสมเครื่องแกงส้มกับน้ำปรุงรสด้วยกะปิและเกลือนำขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่เนื้อย่างลงไป รอจนเดือดจึงใส่ยอดมะขามอ่อนลงไป รอจนเดือดอีกครั้ง แล้วตักขึ้นเสิร์ฟ หากชอบรสเปรี้ยวสามารถปรุงรสเพิ่มเติมด้วยมะนาวได้ 

2.ต้มยำไก่ใบมะขามอ่อน

ซอยตะไคร้ หอมแดง ใบมะกรูด และใบหม่อนเตรียมไว้ เอาหม้อใส่น้ำขึ้นตั้งไฟ ใส่เครื่องต้มยำทั้งหมดลงไป เมื่อน้ำเริ่มเดือดใส่ไก่ลงไป รอจนไก่สุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา ใบกระเพรา ใบมะขามอ่อน และผักชี ปิดไฟ หากชอบรสเปรี้ยวสามารถปรุงรสเพิ่มเติมด้วยมะนาวได้ ใส่พริกขี้หนูบุบตบท้าย ยกขึ้นเสิร์ฟ

3.น้ำพริกมะขามผัด

นำมะขามอ่อนมาล้างตำให้ละเอียดแล้ว  ใส่เนื้อไก่ หรือหมูบดลงไปตำด้วย ตำจนทุกอย่างกลายเป็นเนื้อเดียวกัน นำกระทะขึ้นตั้งไฟใส่น้ำมันลงไป ตักน้ำพริกมะขามลงไปผัด ปรุงรสด้วยน้ำตาล และน้ำปลา ชิมรสตามชอบ ตักขึ้นเสิร์ฟรับประทานคู่กับผักสด

4.มะขามกวน

นำมะขามเปียกมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำไปแช่น้ำไว้จนมะขามเริ่มนิ่ม  เติมน้ำเพิ่มแล้วขยำจนได้น้ำข้นๆ ใส่น้ำตาลปี๊ปนำไปเคี่ยวด้วยไฟอ่อน แล้วกรองด้วยผ้าขาว จากนั้นนำมาตั้งไฟ ใส่เกลือป่นลงไป ค่อย ๆ เคี่ยวโดยใช้ไฟกลาง เมื่อน้ำเชื่อมเริ่มเหนียวข้นจึงปิดไฟ แล้วยกลง

5.น้ำมะขามเปียก

เป็นสูตรเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพมาก ช่วยลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็วทันใจ ทั้งยังช่วยลดไขมันในเลือดได้ด้วยจึงสามารถป้องกันความเสี่ยงจากภาวะหลอดเลือดหัวใจและสมองอุดตันได้ซึ่งการทำ  วิธีทำ ให้นำเนื้อมะขาม 25 กรัม ละลายในน้ำอุ่น 1 แก้ว จากนั้นดื่มเป็นประจำหลังอาหารเย็น เพียงเท่านี้ก็ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจแล้ว แต่ไม่ควรนำมาดื่มต่อเนื่องกันเกิน 30 วัน เพราะจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำจนเป็นอันตรายได้นั่นเอง

ข้อควรระวังการบริโภคมะขาม

1.เสี่ยงต่อการปวดท้องในคุณแม่ตั้งครรภ์  สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์และกำลังให้นมบุตร ไม่ควรรับประทานมะขามมากเกินไป เนื่องจากมะขามมีกรดค่อนข้างสูงจึงอาจทำให้คุณแม่มีอาการปวดท้องและกรดนั้นอาจส่งผลต่อทารกในครรภ์ได้ด้วยนั่นเอง

2.เสี่ยงทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำลง   ผู้ป่วยโรคเบาหวานไม่ควรรับประทานมะขามมากจนเกินไปเพราะอาจส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำมากเกินไป  ดังนั้นผู้ป่วยโรคเบาหวานจึงควรรับประทานอย่างพอดี

3.ผู้ป่วยผ่าตัดควรระวัง   การบริโภคมะขามอาจส่งผลทำให้น้ำตาลในเลือดลดลง เพื่อความปลอดภัย ผู้ป่วยที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัดควรงดการรับประทานมะขามประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด เพื่อให้ระดับน้ำตาลในเลือดเป็นปกติ

4.สารเคลือบฟันอาจถูกทำลาย   การรับประทานมะขามมากเกินไปจะทำให้สารเคลือบฟันถูกทำลาย เนื่องจากเป็นพืชที่มีกรดสูงตามธรรมชาติ กรดเหล่านี้จะทำลายสารเคลือบฟันได้

5.กรดจากมะขามอาจทำลายกระเพาะและลำไส้   อย่างที่ทราบว่ามะขามเป็นพืชที่มีกรดสูง ดังนั้นถ้ารับประทานในปริมาณมากๆ อาจส่งผลทำให้เกิดภาวะกรดไหลย้อนได้ กรดเหล่านี้ยังอาจทำลายกระเพาะอาหารและลำไส้ได้

6.ผู้ที่มีอาการไอควรเลี่ยงการรับประทาน   เพราะจะทำให้ระคายเคืองต่อทางเดินหายใจ ทำให้อาการที่เกี่ยวข้องกับการแย่ลง

มะขามเป็นผลไม้ที่มีทั้งรสหวานและรสเปรี้ยว มีประโยชน์ต่อร่างกายและมีสรรพคุณทางยาหลายอย่าง คนไทยจึงนิยมรับประทานมะขามมาช้านานในหลายๆ รูปแบบ  


2 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Maurizio R and Cristiana V, Establishing the tolerability and performance of tamarind seed polysaccharide (TSP) in treating dry eye syndrome: results of a clinical study (https://www.ncbi.nlm.nih.gov/p...), 29 March 2007
Arjun LK et al., Additional beneficial effect of tamarind ingestion over defluoridated water supply to adolescent boys in a fluorotic area (https://www.sciencedirect.com/...), May 2004

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
5 อาหารที่น่าตกใจสำหรับการมีสุขภาพฟันที่ดี
5 อาหารที่น่าตกใจสำหรับการมีสุขภาพฟันที่ดี

อาหารที่สามารส่งเสริมสุขภาพของช่องปากได้อย่างน่ามหัศจรรย์

อ่านเพิ่ม