5 วิธีแก้ท้องเสียที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

แก้ท้องเสีย วิธีแก้ท้องเสีย ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคืออะไร?
เผยแพร่ครั้งแรก 21 ต.ค. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 ตรวจสอบความถูกต้อง 8 เม.ย. 2019 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
5 วิธีแก้ท้องเสียที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • ท้องเสีย เป็นอาการป่วยที่เกิดจากกลไกของร่างกาย ในการรับมือกับความผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร ผ่านการขับอาหารที่ผิดปกติ หรือไม่สามารถย่อยให้มีประโยชน์ได้ออกมาจากร่างกายให้เร็วที่สุด
  • สาเหตุของอาการท้องเสียมีหลากหลาย แต่ส่วนมากมักเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย และสิ่งสกปรกต่างๆ เช่น การติดเชื้อโปรโตซัว การติดเชื้อพยาธิ รับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรค รวมถึงอาการแพ้ยา การเริ่มใช้ยาปฏิชีวนะ
  • คุณสามารถแก้อาการท้องเสียโดยดื่มน้ำ หรือเครื่องดื่มเกลือแร่ให้เพียงพอ เพื่อป้องกันอาการขาดน้ำซึ่งเป็นอันตราย หรือรับประทานอาหารที่มีจุลินทรีย์มีชีวิต เช่น ชีส ช็อกโกแลต โยเกิร์ต
  • คุณควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีเส้นใยอาหารสูง อาหารทอด และมันในระหว่างท้องเสีย แต่ขณะเดียวกันก็สามารถรับประทานอาหารบางประเภท เพื่อทดแทนสารอาหารที่หายไป ได้แก่ ข้าวขาว ซอสแอปเปิ้ล ขนมปัง กล้วย
  • เพื่อป้องกันอาการท้องเสีย คุณควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ สะอาด และปรุงสุก อีกทั้งควรหลีกเลี่ยงอาหารที่เสี่ยงทำให้เกิดอาการแพ้ เพราะหนึ่งในอาการแพ้อาหาร คือ อาการท้องเสีย (ดูแพ็กเกจตรวจภูมิแพ้ และภาวะแพ้ได้ที่นี่)

อาการท้องเสีย เป็นอาการที่หลายคนคงไม่อยากเผชิญกันทั้งนั้น เพราะคุณจะต้องวิ่งเข้าออกห้องน้ำเป็นว่าเล่น ยิ่งถ้าท้องเสียในระหว่างเดินทางล่ะก็ คุณยิ่งลำบากหนักกว่าเดิมแน่ 

และหากมีอาการอาเจียน หรือเวียนหัวร่วมด้วย มันคงเป็นอาการท้องเสียที่ทรมานหนักกว่าเดิม และนำไปสู่คำถามยอดนิยม คือ ต้องกินยาท้องเสียแบบไหนจึงจะหาย กินอย่างไรให้ปลอดภัย แล้วในระหว่างท้องเสียเราสามารถรับประทานอาหารอะไรได้บ้าง 

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

ท้องเสีย เป็นกลไกหนึ่งของร่างกาย ในการจัดการกับความผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร โดยการขับอาหารที่ผิดปกตินั้นออกจากร่างกายให้เร็วกว่าปกติ  

อาการท้องเสียที่พบบ่อย คือ การถ่ายบ่อย ถ่ายเหลว ปวดท้อง ปวดบิด ถ่ายปนมูกเลือด ท้องอืด โดยท้องเสียเฉียบพลันนั้นอาจเกิดได้นานถึง 2 สัปดาห์ และอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ  

สาเหตุการท้องเสีย

  • การติดเชื้อไวรัส
  • การติดเชื้อแบคทีเรีย
  • การติดเชื้อโปรโตซัว
  • การติดเชื้อพยาธิ
  • อาหารเป็นพิษ
  • การเริ่มใช้ยาปฏิชีวนะ
  • อาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรค
  • การแพ้ยาและอาหารบางชนิด
  • โรคลำไส้อักเสบ
  • โรคต่อมไทรอยด์  

ท้องเสียจากการติดเชื้อนั้นเป็นโรคที่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก และมักเกิดจากเชื้อไวรัส รองลงมาคือ การติดเชื้อแบคทีเรีย 

นอกจากนี้ หากคุณเดินทางไปยังบริเวณที่มีน้ำปนเปื้อนเชื้อโรคแล้วบริโภคน้ำนั้นเข้าไป ก็อาจท้องเสียได้ รวมทั้งอาจได้รับเชื้อแบคทีเรียจากอาหารที่ปรุง หรือจัดเก็บไม่เหมาะสม สามารถทำให้เกิดภาวะอาหารเป็นพิษได้ 

มาดูกันว่า มีวิธีแก้ท้องเสียได้อย่างไรบ้าง 

วิธีแก้ท้องเสีย

1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ และจำกัดการดื่มเครื่องดื่มบางชนิด

  • เมื่อมีอาการท้องเสียการดื่มน้ำนั้นสำคัญมาก เพราะการขาดน้ำจากท้องเสียนั้นอาจทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ในเด็กเล็ก และผู้สูงอายุ จึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอ 
  • ระหว่างที่เด็กเล็กมีอาการท้องเสียควรให้รับประทานนมตามปกติ ร่วมกับการดื่มน้ำเกลือแร่สำหรับเด็ก และให้ดื่มน้ำบ่อยๆ
  • งานวิจัยพบว่า ในผู้ใหญ่ที่มีอาการท้องเสียเล็กน้อยนั้น การดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับน้ำเกลือที่ใช้รักษาอาการขาดน้ำในผู้ที่ท้องเสีย

2. รับประทานอาหารที่มีจุลินทรีย์มีชีวิต

จุลินทรีย์ที่มีชีวิต หรือโปรไบโอติกส์ (Probiotics) นั้นเป็นแบคทีเรียชนิดดีที่ช่วยปรับสภาพแวดล้อมในทางเดินอาหารให้ดีต่อสุขภาพ  และสามารถช่วยแก้ท้องเสียได้ จุลินทรีย์เหล่านี้สามารถพบได้ในอาหารบางชนิด เช่น

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

  • ชีส
  • น้ำบีทรูทสีแดง (Beet kvass)
  • ชีสสด (Cottage cheese)
  • ช็อกโกแลตแบบเข้ม
  • มะกอกสีเขียว
  • คีเฟอร์ (Kefir)
  • กิมจิ
  • ชาหมักคอมบุชา (Kombucha)
  • ซาวเคราท์ (Sauerkraut)
  • มิโซะ
  • ถั่วเน่าญี่ปุ่น (Natto)
  • แตงกวาดอง
  • ขนมปังเปรี้ยว หรือขนมปังที่ทำจากยีสต์ธรรมชาติ (Sourdough bread)
  • เทมเป้ (Tempeh)
  • โยเกิร์ต
  • โปรไบโอติกส์ในแบบผง หรือเม็ด

อย่างไรก็ตาม หากคุณมีอาการท้องเสีย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อความปลอดภัยก่อนที่จะรับประทานจุลินทรีย์เพื่อช่วยบรรเทาอาการ 

ยาแก้ท้องเสีย

คุณสามารถรับประทานยาแก้ท้องเสียเหล่านี้เพื่อบรรเทาอาการ หรือแก้ท้องเสียแบบฉับพลันได้  หากมีอาการท้องเสียไม่รุนแรง และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์

ถึงแม้ว่ายาแก้ท้องเสียเหล่านี้จะสามารถบรรเทาอาการ หรือแก้ท้องเสียได้แต่ก็ไม่ได้รักษาที่สาเหตุ หากคุณมีอาการท้องเสียเรื้อรังไม่ควรใช้ยาแก้ท้องเสียเหล่านี้โดยที่แพทย์ไม่ได้สั่งจ่าย 

โดยอาการท้องเสียเรื้อรังนั้น คือ การมีอาการท้องเสียนานกว่า 14 วัน ซึ่งมักจะมีสาเหตุไม่เหมือนกับอาการท้องเสียแบบฉับพลัน

คุณควรระมัดระวังเด็กที่มีอาการท้องเสียเป็นพิเศษ เพราะเด็กอาจเกิดอาการขาดน้ำจากท้องเสียจนเป็นอันตราย และอาการนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วในเด็กเล็ก 

การขาดน้ำอย่างรุนแรงนั้นอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ และไม่แนะนำให้ซื้อยาแก้ท้องเสียรับประทานเอง แต่ควรพาไปพบแพทย์จะดีกว่า สำหรับเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 3 เดือนซึ่งมีอาการท้องเสียควรรับไปพบแพทย์ทันที

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

หากคุณมีอาการท้องเสียที่เป็นเลือด มีไข้ มีอาการนานกว่า 7 วัน ปัสสาวะออกลดลง เวียนหัว ปวดท้องรุนแรง หรือท้องเสียมากขึ้นควรไปพบแพทย์โดยเร็ว

อาหารที่ควรรับประทาน

อาจจะฟังดูแปลกๆ ที่จะรับประทานอาหารในระหว่างที่ท้องเสีย แต่การรับประทานอาหารบางชนิดอาจจะช่วยบรรเทาอาการ แก้ท้องเสีย และทำให้ได้รับสารอาหารเพียงพอ 

ผู้ที่มีอาการท้องเสียควรรับประทานอาหารในกลุ่ม BRAT (Bananas, Rice, Applesauce, Toast) ซึ่งมีเส้นใยอาหารต่ำ และจะช่วยให้อุจจาระเป็นก้อน อาหารในกลุ่มนี้ประกอบด้วย

  • กล้วย
  • ข้าวขาว
  • ซอสแอปเปิ้ล
  • ขนมปัง

อาหารอื่นๆ ที่รับประทานได้ระหว่างที่มีอาการ เช่น

  • ข้าวโอ๊ต
  • มันฝรั่งต้ม หรืออบ (ปอกเปลือก)
  • ไก่อบแบบไม่มีหนัง
  • ซุปไก่ (ซึ่งจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ร่างกาย)

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

คุณควรหลีกเลี่ยงอาหารทอด และมันในระหว่างที่มีอาการท้องเสีย และควรจำกัดปริมาณอาหารที่มีเส้นใยอาหารสูง เช่น ผัก และผลไม้ เพราะอาจทำให้ท้องอืดได้ หรือเครื่องดื่มบางชนิดที่ทำให้ร่างกายเสียน้ำมากขึ้น อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงประกอบด้วย

  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นม น้ำอัดลม และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ เพราะอาจทำให้อาการนั้นแย่ลง
  • สารให้ความหวานเทียม (พบในหมากฝรั่ง น้ำอัดลมที่ไม่มีน้ำตาล และสารให้ความหวานแทนน้ำตาล
  • ถั่ว
  • เบอร์รี่
  • บร็อคโคลี่
  • กะหล่ำปลี
  • ดอกกะหล่ำ
  • ถั่วลูกไก่
  • ข้าวโพด
  • ไอศครีม
  • ผักใบเขียว
  • นม
  • พริกไทย
  • พรุน

หากบรรเทาอาการ หรือแก้ท้องเสียด้วยวิธีต่างๆ แล้วแต่อาการยังไม่ดีขึ้น  หรือมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย เช่น อุจจาระมีมูกปน คลื่นไส้อาเจียนรุนแรง มีไข้สูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส อ่อนเพลียมาก ควรรีบไปพบแพทย์ทันที  

ยิ่งในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว ยิ่งต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ เพราะจะเกิดอาการแทรกซ้อนภายหลังได้ 

ดูแพ็กเกจตรวจภูมิแพ้ และภาวะแพ้ เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจต่างๆ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


2 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป