ตุ่มที่ผิวหนัง อาการคัน ผิวหนังแดง และความผิดปกติทางผิวหนังอื่นๆ เป็นอาการที่พบได้บ่อยมาก ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ หนึ่งในนั้นก็คือ "โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง" นั่นเอง
รู้จักกับโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังเกิดจากร่างกายไวต่อสารกระตุ้นภูมิแพ้ต่างๆ โดยสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น แพ้ฝุ่น แพ้เหงื่อ แพ้เกสรดอกไม้ แพ้ขนสัตว์ แพ้ยา หรือแพ้อาหาร
ตรวจภูมิแพ้และภาวะแพ้วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 1,376 บาท ลดสูงสุด 69%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
โดยผื่นผิวหนังอักเสบ (Eczema) ผื่นลมพิษ (Hives) และผื่นแพ้ (Contact dermatitis) เป็นผื่นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด และสัมพันธ์กับอาการแพ้
อย่างไรก็ตาม บางครั้งอาการผื่นคัน แดง หรือลมพิษก็เกิดจากโรคอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับอาการแพ้ได้เช่นกัน เช่น โรคหัด หรือโรคอีสุกอีใส
ชนิดของผื่นที่พบบ่อยในผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
1. ผื่นผิวหนังอักเสบ (Eczema)
ผื่นผิวหนังอักเสบ หรือบางครั้งอาจเรียกว่า “ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic dermatitis)” เป็นโรคที่พบได้ประมาณ 10-20% ในเด็ก และ 1-3% ในผู้ใหญ่
อาการที่พบได้บ่อย คือ ผิวแห้ง แดง ระคายเคือง ตกสะเก็ด และมีอาการคัน หากมีการติดเชื้อร่วมด้วย ผิวหนังอาจมีลักษณะของตุ่มน้ำขนาดเล็ก มีน้ำใส หรือน้ำสีเหลืองซึมออกจากตุ่มน้ำนั้น
ตุ่มเหล่านี้สามารถมีได้ทั้งในช่วงที่มีอาการน้อยมากและช่วงที่มีอาการปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรง ผื่นผิวหนังอักเสบนี้สามารถหายไปได้เองเมื่อเวลาผ่านไป
ตรวจภูมิแพ้และภาวะแพ้วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 1,376 บาท ลดสูงสุด 69%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ผื่นผิวหนังอักเสบสามารถเกิดขึ้นได้กับผิวหนังทุกส่วนของร่างกาย แต่ที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดคือ ด้านในข้อพับ หรือด้านนอกของข้อเข่า ข้อศอก รอบคอ มือ แก้ม และหนังศีรษะ
โดยผู้ป่วยที่มีอาการของภูมิแพ้ผิวหนังแบบผื่นผิวหนังอักเสบมักจะมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคภูมิแพ้ร่วมด้วย
2. ลมพิษ (Hives)
ลมพิษ หรือเรียกอีกอย่างว่า “Urticaria” มีลักษณะเป็นผื่น หรือปื้นนูนแดงเกิดขึ้นตามผิวหนัง เมื่อออกแรงกดผื่นจะเปลี่ยนเป็นสีซีด หรือสีขาวที่ตรงกลางของผื่น
ผื่นลมพิษแบ่งได้เป็น 2 ระยะ ได้แก่
- ระยะเฉียบพลัน หมายถึง ผู้ป่วยเพิ่งมีอาการมาในระยะเวลาไม่เกิน 6 สัปดาห์
- ระยะเรื้อรัง หมายถึง ผู้ป่วยมีผื่นเรื้อรังนานเกิน 6 สัปดาห์
สาเหตุของผื่นลมพิษเฉียบพลันที่พบได้บ่อย คือ เกิดจากการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ผิวหนัง หรือเกิดจากการติดเชื้อ แต่ผื่นลมพิษเรื้อรังนั้นยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน
ตรวจภูมิแพ้และภาวะแพ้วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 1,376 บาท ลดสูงสุด 69%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
3. ผื่นแพ้สัมผัส (Contact dermatitis)
ผื่นแพ้สัมผัสเป็นภูมิแพ้ผิวหนังที่เกิดขึ้นเมื่อผิวหนังสัมผัสกับสารก่อระคายเคือง หรือสารก่อภูมิแพ้ ทำให้มีผื่นขึ้น ผิวหนังแดง คัน หรือมีตุ่มน้ำใส
ดังนั้นถ้าคุณมีผื่นแดงคันที่ผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณที่มีการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ หรือสารก่อระคายเคือง คุณอาจเป็นผื่นแพ้สัมผัสได้
สารทำความสะอาด และผลิตภัณฑ์เคมีต่างๆ ล้วนเป็นตัวการให้เกิดผื่นแพ้สัมผัสได้ทั้งสิ้น เช่น สบู่ ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม แชมพู หรือแม้กระทั่งการสัมผัสกับน้ำมากเกินไปก็อาจกระตุ้นให้เกิดผื่นชนิดนี้ได้
นอกจากนี้ผื่นแพ้สัมผัสยังมีสาเหตุจากการสัมผัสโลหะ เช่น นิกเกิล ที่เป็นส่วนประกอบของสแตนเลส และอัลลอยด์อื่นๆ ที่ใช้ในการทำเครื่องประดับ กาว ยาทาเล็บ ยาทาเฉพาะที่บนผิวหนัง พืช ต้นไม้ ถุงมือยาง
บางครั้งสารก่อภูมิแพ้จะไม่ทำให้เกิดปฏิกิริยาที่ผิวหนังจนกว่าผิวหนังจะสัมผัสกับแสงแดด
กรณีนี้เราเรียกว่า “ผื่นแพ้สัมผัสเนื่องจากแพ้สารร่วมกับแสง (Photoallergic contact dermatitis)” ซึ่งสามารถเกิดขึ้นเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์บางอย่าง เช่น ครีมโกนหนวด ครีมกันแดด และน้ำหอมบางชนิด
การวินิจฉัยโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
แพทย์มักสามารถวินิจฉัยโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังได้จากการสังเกตบริเวณผิวหนังที่มีอาการ และการสอบถามอาการจากคุณ
ตัวอย่างคำถาม เช่น
- บริเวณที่ผื่นขึ้นมีอาการคันหรือไม่
- ตำแหน่งของผื่นตามร่างกาย
- ช่วงเวลาที่เริ่มมีอาการ หรือมีอาการแบบเป็นๆ หายๆ หรือไม่
- คนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนังหรือไม่
- ผู้ป่วยมีโรค หรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ หรือไม่ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด เพราะโรคบางอย่างก็สัมพันธ์กับอาการแพ้ได้
ควรแจ้งแพทย์ทันที หากอาการผื่นแพ้เริ่มส่งผลต่อคุณภาพชีวิต เช่น นอนไม่หลับเพราะอาการคัน หรืออาการจากโรคภูมิแพ้ผิวหนังเริ่มรุนแรงจนไม่สามารถทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
แพทย์จะตรวจหาสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดผื่นภูมิแพ้ผิวหนังขึ้น โดยอาจใช้วิธีสอบถามอาการและพฤติกรรมการใช้ชีวิต เพื่อหาว่า สิ่งใดกระตุ้นให้เกิดอาการขึ้นได้บ้าง เช่น อาจมีอาการภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบหลังจากสัมผัสสบู่ แชมพู หรือผงซักฟอก
นอกจากนี้แพทย์ยังอาจแนะนำให้จดบันทึกการรับประทานอาหารเพื่อให้รู้ว่า มีอาหารชนิดใดที่กระตุ้นให้เกิดอาการภูมิแพ้ผิวหนัง หรือมีอาการภูมิแพ้ผิวหนังรุนแรงยิ่งขึ้นหลังจากรับประทานเข้าไปไหม
ถ้ายังไม่สามารถหาสาเหตุของภูมิแพ้ได้ด้วยวิธีการดังกล่าว แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจภูมิแพ้ เช่น ทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนังด้วยวิธีสะกิด (Skin Prick Test: SPT) หรือการตรวจเลือดหาสารก่อภูมิต้านทาน (Food specific IgG)
ล่าสุดบางโรงพยาบาล หรือบางสถานพยาบาล ก็มีบริการตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงให้บริการแล้ว ผลการตรวจน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการวินิจฉัยของแพทย์ได้ รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อผู้ตรวจโดยตรง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดอาการแพ้
วิธีบรรเทาอาการคันจากผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
การดูแล และบรรเทาอาการจากโรคภูมิแพ้ผิวหนัง มีหลักปฏิบัติดังนี้
1. หลีกเลี่ยงการเกา
การเกาที่บริเวณผื่น หรือลมพิษจะทำให้ระคายเคืองมากขึ้น และทำให้เกิดการติดเชื้อ หรือเกิดรอยแผลเป็นขึ้นได้
หากรู้สึกอยากเกามาก ให้ลองเปลี่ยนมาค่อยๆ ขัดผิวบริเวณที่คันด้วยนิ้วมือแทน รวมทั้งพยายามตัดเล็บมือให้สั้น และรักษาความสะอาด เพื่อลดความเสียหายของผิวหนังที่เกิดจากการเกาโดยไม่ตั้งใจ
ส่วนกรณีที่ทารก หรือเด็กเล็กป่วยเป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง คุณควรสวมถุงมือเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กเกาบริเวณที่มีอาการ
2. เลี่ยงสิ่งกระตุ้น
แพทย์จะพยายามตรวจหาว่า สิ่งใดเป็นตัวกระตุ้นให้คุณเกิดอาการโรคภูมิแพ้ผิวหนังมากขึ้น
เมื่อทราบว่า สิ่งใดเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการแล้วควรพยายามเลี่ยงสิ่งนั้นให้มากที่สุด เช่น
- หากผ้าบางประเภททำให้ระคายเคืองผิวหนังก็ควรพยายามเลี่ยงเครื่องนุ่งห่มที่ทอจากผ้าประเภทนั้นๆ และเปลี่ยนมาสวมเสื้อผ้าทอละเอียดที่นุ่ม หรือทอจากวัสดุตามธรรมชาติแทน
- หากความร้อนเป็นตัวกระตุ้นโรคผิวหนังอักเสบ ควรพยายามคงอุณหภูมิห้องที่บ้านให้เย็นพอ โดยเฉพาะในห้องนอน
- เลี่ยงการใช้สบู่ หรือสารชำระล้างร่างกายที่อาจระคายเคืองต่อผิวหนัง หรือเปลี่ยนไปใช้ครีมอาบน้ำแทนสบู่
3. ปรับเปลี่ยนอาหารการกิน
อาหารบางประเภท เช่น ไข่ หรือนมวัว สามารถก่อให้เกิดอาการของโรคผื่นผิวหนังอักเสบได้
อย่างไรก็ตาม ไม่ควรปรับเปลี่ยนอาหารการกินใดๆ โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะอาจส่งผลทำให้ขาดสารอาหารบางชนิดได้ โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ที่ต้องการสารอาหารและแร่ธาตุบางประเภทมากเป็นพิเศษ เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรค แคลเซียม
ทั้งเพื่อช่วยในการเจริญเติบโตและช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
4. ใช้สารเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง
หลังอาบน้ำเสร็จ ควรทาโลชั่นเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนัง และหมั่นทาโลชั่นเมื่อรู้สึกว่า ผิวเริ่มแห้ง สารเหล่านี้มักช่วยบรรเทาอาการผิวแห้ง หรือผิวแตกจากโรคผื่นผิวหนังอักเสบได้ อาจลองทดสอบผลิตภัณฑ์หลายๆ ตัวเพื่อหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
ยารักษาโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังมีอะไรบ้าง?
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิแพ้อาจสั่งจ่ายยาบางชนิดเพื่อบรรเทาอาการของคุณ ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะของภูมิแพ้ผิวหนังที่เกิดขึ้นด้วย ยาที่อาจได้รับมีดังนี้
1. ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เฉพาะที่
หากมีอาการอักเสบที่ผิวหนัง แพทย์อาจให้ใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เฉพาะที่สำหรับทาลงบนผิวหนังโดยตรง ยานี้จะช่วยลดการอักเสบของผิวหนังได้ภายในเวลาไม่กี่วัน
ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เฉพาะที่มีหลายระดับความเข้มข้นขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค โดยมีตั้งแต่ตัวยาอ่อนๆ อย่างยาไฮโดรคอร์ติโซน (Hydrocortisone) ตัวยาที่มีความแรงปานกลางอย่างโมเมทาโซน (Mometasone) และเบตาเมทาโซน (Betamethasone)
2. ยาแก้แพ้ หรือยาต้านฮีสตามีน
มีทั้งชนิดทา หรือชนิดรับประทาน ใช้สำหรับช่วยบรรเทาอาการคัน หรืออาการแพ้ที่ผิวหนังให้กับคุณ
หากมีอาการคันเฉยๆ แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาต้านฮิสตามีนชนิดไม่มีฤทธิ์กล่อมประสาท ซึ่งจะไม่ทำให้ง่วงนอน
แต่หากอาการคันที่เกิดขึ้นส่งผลต่อการนอนหลับ แพทย์จะแนะนำให้ใช้ยาต้านฮิสตามีนที่มีฤทธิ์กล่อมประสาทเพื่อช่วยให้นอนหลับได้ดียิ่งขึ้น
3. การใช้ผ้าพันแผล หรือผ้าชื้นๆ พัน
บางกรณีแพทย์อาจแนะนำให้ใช้ผ้าชื้นๆ พันบริเวณผิวหนังที่ป่วยเป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง หรืออาจเป็นการพันผ้าทับสารเพิ่มความชุ่มชื้น หรือยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เฉพาะที่ เพื่อป้องกันการเกา และปล่อยให้ผิวหนังฟื้นฟู
4. ยาทาขี้ผึ้ง
เป็นยาใช้ทาเพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยลดอาการระคายเคืองผิว และอาการผิวแห้ง
ปัจจุบันมียาทาขี้ผึ้งชนิดใหม่ให้เลือกใช้มากขึ้น เช่น ยาขี้ผึ้งที่จะช่วยบรรเทาอาการผื่นภูมิแพ้ผิวหนังที่มีอาการน้อยถึงอาการปานกลาง หรือยาชีววัตถุสำหรับผื่นภูมิแพ้ผิวหนังที่มีอาการปานกลางถึงอาการรุนแรงมากแล้ว
โดยคุณสามารถขอคำปรึกษาเรื่องการใช้ยาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิแพ้ได้เลย
5. โลชั่นบำรุงผิว
จะช่วยให้ความชุ่มชื่นและบรรเทาอาการคันจากผิวหนังอักเสบ เช่น
- Aveeno Dermexa ที่มีส่วนผสมพิเศษจากข้าวโอ๊ต
- Ezerra Cram ที่ให้ความชุ่มชื่น
- Eucerin omega soothing cream ที่ออกเเบบมาเพื่อรองรับผิวหนังอักเสบ
ผลกระทบจากโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
โรคภูมิแพ้ที่ส่งผลกระทบต่อผิวหนัง สามารถสร้างปัญหาทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ โดยก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้
1. การติดเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนัง
ผิวหนังที่แตก แห้ง จากโรคภูมิแพ้ผิวหนังจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังมากขึ้น โดยเฉพาะถ้าเกาบริเวณนั้นๆ หรือรับการรักษาที่ไม่ถูกต้อง
สัญญาณของการติดเชื้อแบคทีเรียสังเกตได้จากการมีของเหลวไหลออกมา เกิดสะเก็ดสีเหลืองบนผิวหนัง เกิดจุดสีเหลืองขาวบนบริเวณที่เป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ผิวหนังเกิดอาการบวมและปวดขึ้น มีไข้สูง และรู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว
ควรไปพบแพทย์ทันที หากคาดว่า ผิวหนังของตนเอง หรือลูกเกิดการติดเชื้อ
2. การติดเชื้อไวรัสบนผิวหนัง
อาการผื่นแพ้อาจทำให้ผิวหนังของคุณติดเชื้อไวรัสโรคเริม หรือไวรัสคล้ายเริมได้ โดยจะส่งผลให้รู้สึกเจ็บปวดและทรุดลงอย่างรวดเร็ว เกิดตุ่มหนองที่อาจแตกออก และทิ้งหลุมแผลเป็นไว้
ในบางกรณีอาจมีไข้สูงและรู้สึกไม่สบายด้วย
ควรติดต่อแพทย์ทันทีหากคาดว่า ตัวคุณ หรือลูกเริ่มมีภาวะผื่นผิวหนังคล้ายเริม
3. ปัญหาการนอนหลับ
ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ผิวหนังมักมีปัญหาในการนอนหลับจากอาการคัน และระคายเคือง
การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอย่อมส่งผลต่ออารมณ์และพฤติกรรมได้ อีกทั้งยังทำให้ระดับสมาธิในการจดจ่อกับการงาน การเรียนลดลง
4. ผลกระทบทางจิตใจ
โรคภูมิแพ้ผิวหนังบางโรคอาจส่งผลต่อสุขภาพทางจิตได้เช่นกัน โดยเฉพาะในเด็กก่อนวัยเรียนที่ป่วยเป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง อาจจะเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาด้านพฤติกรรม เช่น อยู่ไม่นิ่งเหมือนเด็กทั่วไป
ส่วนเด็กวัยเรียนนั้นอาจถูกเพื่อนๆ รังแก หรือล้อเลียนได้ ซึ่งจะสร้างบาดแผลทางจิตใจให้เด็ก และอาจทำให้เด็กกลายเป็นคนเงียบขรึม หรือเก็บตัว
คุณจึงควรทำความเข้าใจ หรือปรึกษาครูผู้ดูแลเด็กให้ช่วยดูแลความรู้สึกของลูกคุณ รวมทั้งส่งเสริมให้ลูกมีความมั่นใจในตนเอง และปรับเปลี่ยนทัศนคติต่อรูปลักษณ์ของตนเองให้ดีขึ้น
บางรายหากจำเป็น อาจต้องเข้าพบจิตแพทย์เพื่อปรับสภาพจิตใจต่อไป
Q&A
1. ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจนกว่าผื่น หรือลมพิษจะหายไป หรือไม่?
ถ้าขณะนี้ผิวหนังมีการระคายเคือง หรือมีความไวต่อสิ่งกระตุ้นผิดปกติ การสัมผัสกับรังสียูวี และผิวที่ไหม้จากแสงแดด (Sunburn) ก็อาจทำให้อาการของคุณแย่ลงได้
ดังนั้นการปกปิดผิวหนังบริเวณที่มีรอยโรค หรือลดระยะเวลาในการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จึงนับเป็นการป้องกันที่ดี
นอกจากนี้ผื่นบางชนิดสามารถเกิดจากแสงแดดได้ เช่น ผื่นแพ้สัมผัสเนื่องจากแพ้สารร่วมกับแสง (Photoallergic contact dermatitis) ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเกิดปฏิกิริยาทางผิวหนังกับสารก่อภูมิแพ้ หรือสารก่อระคายเคืองหลังสัมผัสกับแสงแดด
โดยการแพ้ หรือไวต่อเครื่องสำอาง ครีมกันแดด โลชั่นโกนหนวด น้ำหอม และครีมต่างๆ สามารถกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาดังกล่าวได้
เมื่อมีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้เพื่อหาสาเหตุของการเกิดปฏิกิริยาที่ผิวหนัง และวิธีการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
2. อาการผื่นภูมิแพ้ผิวหนังสามารถเกิดจากการแพ้อาหารได้ หรือไม่?
การแพ้อาหารสามารถแสดงอาการทางผิวหนังได้ เช่น ผื่นลมพิษ และมีหลากหลายสาเหตุทีเดียวที่ทำให้เกิดลมพิษ และผื่นคันขึ้นได้
ดังนั้นเพื่อให้แน่ใจ และสามารถดูแลรักษาอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้อง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังเพื่อหาสาเหตุของอาการ และวิธีการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจภูมิแพ้และภาวะแพ้ จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android
เปนภูมิแพ้ทั้งแม่ละลูกควรทำยังไงดีค่ะ