Pantoprazole (controloc) อยู่ในกลุ่มยาที่ชื่อ
proton-pump inhibitors (PPIs) ออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างกรดในกระเพาะอาหาร รักษาอาการที่เกี่ยวกับกรดในกระเพาะ เช่น อาการแสบร้อนกลางอกจากโรคกรดไหลย้อน แผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น ภาวะหลอดอาหารอักเสบหรือภาวะที่กระเพาะอาหารสร้างกรดมากผิดปกติ
(Zollinger-Ellison syndrome) และสามารถใช้ร่วมกับยาปฏิชีวนะะรักษาภาวะติดเชื้อในกระเพาะอาหารได้ เป็นต้น
มักใช้รักษาอาการเป็นระยะเวลาสั้นๆ 4 - 8 สัปดาห์ หรือหากจำเป็นต้องใช้ระยะยาว ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง แต่โดยปกติแล้วยานี้มักถูกสั่งจ่ายจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ยานี้ควรใช้อย่างระมัดระวัง เพราะอาจมีผลข้างเคียงที่รุนแรงต่อร่างกายได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
คำเตือนในการใช้ยา pantoprazole(controloc)
- ไม่ควรใช้ในผู้ที่มีประวัติแพ้ยาแพนโทพราโซล หรือยาที่มีลักษณะใกล้เคียง เช่น แลนโซพราโซล (Lansoprazole) โอมีพราโซล (Omeprazole) เอสโอมีพราโซล (Esomeprazole) หรือราบีพราโซล (Rabeprazole)
- ผู้ป่วยโรคตับร้ายแรง
- ผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) หรือโรคกระดูกบาง (Osteopenia) การใช้ยาแพนโทพราโซล อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเปราะแตกของกระดูกในบริเวณกระดูกสันหลัง ข้อมือ หรือสะโพกได้ ทั้งนี้ยังไม่มีงานวิจัยรองรับแน่นอนว่ายาแพนโทพราโซลคือสาเหตุที่ทำให้เกิดกระดูกเปราะแตกหรือไม่ แต่สามารถเกิดขึ้นได้ในผู้ที่ใช้ยาในปริมาณมากๆ หรือระยะเวลายาว รวมถึงผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไปด้วย
- ระวังการใช้ยาแพนโทพราโซลในผู้ที่มีภาวะแมกนีเซียมในเลือดต่ำ (Hypomagnesemia) เนื่องจากยานี้ทำให้ระดับแมกนีเซียมในกระแสเลือดลดลงมากกว่าปกติ
- ห้ามใช้ยาแพนโทพราโซลในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี
- สตรีมีครรภ์ หรือผู้ที่วางแผนมีบุตรในอนาคต ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาแพนโทพราโซล
- ห้ามให้นมเด็กทารกหากมารดากำลังใช้ยาแพนโทพราโซล เนื่องจากยาชนิดนี้อาจปะปนออกมากับน้ำนมและเป็นอันตรายต่อทารกได้
- การใช้ยาแพนโทพราโซล เป็นเวลานานอาจทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินบี 12 ได้ลดลงและทำให้ขาดวิตามินบี 12 ได้
- ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรให้ทราบทุกครั้ง หากมีการใช้ยาชนิดอื่นๆ ร่วมกับการใช้ยาแพนโทพราโซล โดยเฉพาะยาต่อไปนี้
- ยาแอมพิซิลลิน(Ampicillin)
- ยาคีโตโคนาโซล (Ketoconazole)
- ยาเมโธเทรกเซท (Methotrexate)
- ยาไมโคฟีโนเลต โมฟีทิล (Mycophenolate Mofetil)
- ยาวาร์ฟาริน (Warfarin) หรือยาคูมาดิน (Coumadin)
- ยาอะทาซานาเวียร์ (Atazanavir) หรือยาเนลฟินาเวียร์ (Nelfinavir) เป็นยาต้านไวรัสเอชไอวีหรือรักษาโรคเอดส์
- ยาที่มีส่วนผสมของธาตุเหล็กอย่าง เฟอรัสฟูมาเรต (Ferrous Fumarate) เฟอรัสซัลเฟต (Ferrous Sulfate) หรือเฟอรัสกลูโคเนต (Ferrrous Gluconate)
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา pantoprazole(controloc)
ผลข้างเคียงทั่วไปที่สามารถพบได้
และควรมาพบแพทย์ทันทีหากมีอาการระดับรุนแรง ต่อไปนี้
- เกิดภาวะพร่องแมกนีเซียมในเลือด อาจแสดงอาการ เช่น หัวใจเต้นเร็วหรือช้าผิดจังหวะ กล้ามเนื้อหดตัวเรื้อรัง หรืออาการชัก (Seizures)
- อาการท้องร่วง (Clostridium Difficile-Associated Diarrhea) ซึ่งเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง หากพบว่าอาการท้องเสียยังไม่หายไป ร่วมกับมีอาการเจ็บปวดบริเวณท้องหรือกระเพาะอาหาร มีไข้ และมีเลือดหรือมูกในอุจจาระ ผู้ป่วยควรพบแพทย์ทันที
- ปวดกระดูก หรือ กล้ามเนื้อ
- เกิดภาวะขาดวิตามินบี 12 อาจแสดงอาการ เช่น อาการเจ็บปวดที่ลิ้น รู้สึกอ่อนเพลียผิดปกติ รวมทั้งรู้สึกชาหรือเป็นเหน็บที่มือและเท้า
- อาการภูมิแพ้รุนแรง หากพบว่ามีผื่นลมพิษขึ้นที่ผิวหนัง รู้สึกคันโดยเฉพาะที่ใบหน้า ลำคอ และลิ้น เวียนหัวอย่างรุนแรง รวมทั้งมีปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของไต เช่น ปริมาณของปัสสาวะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากปกติ ควรรีบติดต่อแพทย์เพื่อรับคำปรึกษากับผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นให้เร็วที่สุด
ขนาดของยา pantoprazole(controloc) ที่ใช้ในการรักษา
Pantoprazole มีในรูปแบบยาเม็ดที่ออกฤทธิ์ได้นานขนาด 20 และ 40 มิลลิกรัม และรูปแบบยาฉีดเข้าเส้นเลือดดำสำหรับใช้ในโรงพยาบาล โดยทั่วไป แพทย์จะสั่งจ่ายยาขนาด 40 มิลลิกรัมต่อวัน นาน 4-8 สัปดาห์ในการรักษา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอาการและโรคที่เป็นด้วย ยานี้ควรรับประทานในเวลาเดียวกันทุก ๆ วัน ควรรับประทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่งแม้ว่าอาการของคุณอาจจะดีขึ้นก่อนหน้านั้นก็ตาม
รูปแบบยาและการออกฤทธิ์ของยา pantoprazole(controloc)
ยา pantoprazole ในรูปแบบเม็ดนั้นเคลือบด้วยสารที่ทนต่อกรดในกระเพาะอาหาร (Gastro-resistant Tablet) ทำให้ยาแตกตัวและดูดซึมได้ที่บริเวณลำไส้เล็ก แล้วจึงไปออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างกรดที่กระเพาะอาหาร จึงแนะนำให้รับประทานยาก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง ขณะท้องว่าง ที่สำคัญ คือ ห้ามเคี้ยว แบ่งยาหรือบดยา เพราะจะทำให้สารที่เคลือบเม็ดยาเสียคุณสมบัติในการออกฤทธิ์ได้
การได้รับยา pantoprazole(controloc) เกินขนาด
ปัจจุบัน มีข้อมูลเกี่ยวกับการได้รับยา pantoprazole เกินขนาดค่อนข้างจำกัด ซึ่งในการศึกษาผลของการได้รับยานี้เกินขนาดในหนูและสุนัขพบว่า จะมีอาการซึม เดินเซ และมือสั่น หากคุณสงสัยว่าคุณ หรือคนใกล้ตัวได้รับยาเกินขนาด ควรไปพบแพทย์ทันทีหรือติดต่อศูนย์พิษวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี โทร. 1367
หากลืมรับประทานยา pantoprazole(controloc) ควรทำอย่างไร?
หากคุณลืมรับประทานยา ให้รับประทานทันทีที่นึกได้ แต่หากกำลังจะถึงเวลาที่ต้องรับประทานยาครั้งถัดไป ให้ข้ามยาที่ลืมเม็ดนั้นได้เลย และไม่ควรรับประทานยาเกินกว่าที่แพทย์สั่ง