การเดิน คือกระบวนการเกี่ยวกับความสมดุลที่มีความสลับซับซ้อน เนื่องจากเป็นการเคลื่อนไหวที่อยู่บนฐานของการทำงานอย่างถูกต้องของส่วนต่างๆ ในร่างกาย รวมไปถึงหู ดวงตา สมอง กล้ามเนื้อ และประสาทรับรู้ หากเกิดปัญหาขึ้นกับอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งข้างต้น ก็อาจส่งผลต่อการเดินที่ผิดปกติ ซึ่งอาจทำให้เสียการทรงตัว และหกล้มได้
อาการของปัญหาการเดินและสมดุลผิดปกติ
อาการที่บ่งชี้ถึงปัญหาการเดินและสมดุลผิดปกติ ได้แก่ เดินลำบาก ทรงตัวลำบาก และอยู่ไม่นิ่ง และผู้ป่วยมักจะมีอาการดังต่อไปนี้ร่วมอยู่ด้วย
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
- วิงเวียน หน้ามืด
- เวียนศีรษะบ้านหมุน (Vertigo)
- เมาการเคลื่อนไหว
- เห็นภาพซ้อน
สาเหตุของการเกิดปัญหาการเดินและสมดุลผิดปกติ
สาเหตุที่อาจทำให้เกิดปัญหาการเดินและสมดุลผิดปกติ ได้แก่ การบาดเจ็บ การกระทบกระแทกการอักเสบ และการได้รับความเจ็บปวด หากมีปัญหาในด้านนี้ระยะยาว อาจเกิดจากปัญหาด้านระบบประสาทและกล้ามเนื้อต่างๆ ดังนี้
- ภาวะปวดข้อต่อ เช่น โรคข้ออักเสบ (Arthritis)
- โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis (MS))
- โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน (Meniere's Disease)
- เลือดออกในสมอง (Brain Hemorrhage)
- เนื้องอกในสมอง (Brain Tumor)
- โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s Disease)
- โรค Arnold-Chiari Malformation หรือโรคซีเอ็ม
- การกดทับที่ไขสันหลัง
- กลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร่ (Guillain Barre)
- ปลายประสาทอักเสบ (Peripheral Neuropathy)
- โรคของกล้ามเนื้อ (Myopathy)
- โรคสมองพิการ (Cerebral Palsy)
- โรคเก๊าท์ (Gout)
- โรคกล้ามเนื้อเสื่อม (Muscular Dystrophy)
- ภาวะอ้วน (Obesity)
- ภาวะติดสุราเรื้อรัง (Chronic Alcohol Abuse)
- ภาวะขาดวิตามิน B12 (Vitamin B12 Deficiency)
- โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
- อาการเวียนศีรษะบ้านหมุน (Vertigo)
- ไมเกรน (Migraines)
- ความพิการ
- การใช้ยาบางประเภท รวมไปถึงยาลดความดันโลหิตสูง
การวินิจฉัยปัญหาการเดินและสมดุลผิดปกติ
แพทย์จะทำการตรวจร่างกายและระบบประสาท เพื่อวินิจฉัยปัญหาการเดินและสมดุลร่างกาย โดยอาจทดสอบการได้ยิน ทดสอบหูชั้นใน และทดสอบสายตา เพื่อวินิจฉัยเพิ่มเติมในบางกรณี
หากแพทย์สงสัยว่าปัญหาการเดินและสมดุลผิดปกติ เกิดจากปัญหาของระบบประสาท ก็อาจมีการสแกนคลื่นสะท้อนแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic Resonance Imaging (MRI)) หรือสแกนคอมพิวเตอร์ (Computed Tomography (CT)) เพื่อตรวจสอบสมองและไขสันหลัง นอกจากนี้แพทย์อาจตรวจการชักนำประสาท (Nerve Conduction Study) และวัดคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ (Electromyogram) เพื่อประเมินปัญหากล้ามเนื้อกับปัญหาระบบประสาทส่วนปลาย
การรักษาปัญหาการเดินและสมดุลผิดปกติ
วิธีรักษาปัญหาการเดินและสมดุลผิดปกติจะขึ้นอยู่กับสาเหตุ ซึ่งก็มีทั้งการรักษาด้วยยาและกายภาพบำบัด บางกรณีผู้ป่วยอาจต้องเข้ารับการบริหารฟื้นฟูการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อเพิ่มเติม เพื่อชดเชยกับช่วงเวลาที่การทรงตัวไม่ดี และเรียนรู้วิธีป้องกันการล้ม
สำหรับปัญหาการทรงตัวที่เกิดจากอาการบ้านหมุน ผู้ป่วยอาจต้องเรียนรู้วิธีการจัดวางตำแหน่งของศีรษะเพื่อฟื้นคืนสมดุลร่างกายของตนเอง
ทำไม่ ต้องอ้วนลงพุ่งค่ะ