ความหมายของโรคปลายประสาทอักเสบ
โรคปลายประสาทอักเสบ (Peripheral neuropathy) เป็นภาวะที่เส้นประสาทซึ่งเชื่อมต่ออวัยวะต่างๆ ในร่างกายไปยังสมองและไขสันหลังเกิดความเสียหาย
โดยปกติเส้นประสาทมีหน้าที่รับความรู้สึก และข้อมูลส่งมายังระบบประสาทส่วนกลาง คือสมองและไขสันหลัง และนำคำสั่งกลับไปยังอวัยวะเป้าหมายให้เกิดการตอบสนอง หากเส้นประสาทได้รับความเสียหาย จะทำให้เกิดความผิดปกติทั้งการรับความรู้สึกและการตอบสนองต่อสิ่งเร้า อาการที่พบได้บ่อยในโรคปลายประสาทอักเสบ ได้แก่
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- รู้สึกชาตามส่วนต่างๆ โดยเฉพาะมือและเท้า
- มีอาการปวดแปลบ หรือปวดจี๊ดๆ
- รู้สึกร้อนวูบวาบ หรือแสบร้อนใต้ผิวหนัง
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง เคลื่อนไหวลำบาก และบางครั้งอาจเสียการทรงตัว
นอกจากนี้ อาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ความดันโลหิตต่ำ เหงื่อออกมาก และเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ หากไม่รีบรักษาอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา เช่น เกิดบาดแผลไหม้บนผิวหนัง หกล้มบ่อย เนื่องจากทรงตัวไม่อยู่ เป็นต้น
สาเหตุของโรคปลายประสาทอักเสบ
ปลายประสาทอักเสบเกิดได้จากหลายสาเหตุ และอาจเป็นผลข้างเคียงจากโรคต่างๆ เช่น
- เกิดจากโรคเบาหวาน : เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด เนื่องจากการมีน้ำตาลในเลือดสูง มักทำให้เกิดความเสียหายต่อเส้นประสาทส่วนต่างๆ ผู้ป่วยเบาหวานจึงมักมีอาการชาตามมือและเท้าด้วย
- เส้นประสาทถูกกดทับ : เป็นสาเหตุที่มักพบในผู้สูงวัย และผู้ที่ทำกิจกรรมในอิริยาบถเดิมๆ เป็นเวลานาน เช่น การนั่งหรือนอนตลอดทั้งวัน รวมถึงเส้นประสาทได้รับบาทเจ็บด้วย เช่น จากอุบัติเหตุหรือเกิดขึ้นระหว่างการผ่าตัด
- เกิดอุบัติเหตุ : ทำให้เกิดบาดแผลและความเสียหายต่อเส้นประสาท เช่น การบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา หรืออุบัติเหตุอื่นๆ
- โรคมะเร็งบางชนิด: มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (lymphoma) และ มัลติเพิล ไมอีโลมา ซึ่งเป็นมะเร็งของไขกระดูก (multiple myeloma)
- เกิดการติดเชื้อ : เชื้อไวรัสและแบคทีเรียหลายชนิด สามารถสร้างความเสียหายต่อเส้นประสาทได้ เช่น
- ขาดสารอาหาร : โดยเฉพาะวิตามิน บี 1 วิตามิน บี 6 และ วิตามิน บี 12 หากขาดสารอาหารดังกล่าว อาจทำให้เส้นประสาททำงานผิดปกติ
- ความผิดปกติทางพันธุกรรม : เช่น เป็นโรค Charcot-Marie-Tooth ซึ่งเป็นโรคผิดปกติของเส้นประสาทชนิดหนึ่ง โรคความผิดปกติอื่นที่ส่งผลต่อเส้นประสาทสั่งการ และเส้นประสาทรับความรู้สึก ซึ่งสามารถถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรม (hereditary motor sensory neuropathy)
- โรคภูมิคุ้มกันผิดปกติ : ทำให้เกิดการทำลายเนื้อเยื่อในระบบประสาทของตัวเอง เช่น
- โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis)
- โรคลูปัส (lupus)
- โรคโจเกรน (Sjogren's Syndrome)
- โรคแอมีลอยด์ (amyloidosis): เป็นกลุ่มของอาการที่พบได้น้อยแต่มีความรุนแรง เกิดขึ้นจากการสะสมของโปรตีนผิดปกติที่ชื่อว่า แอมีลอยด์ (amyloid) ในเนื้อเยื่อและอวัยวะภายในร่างกาย
- Guillain-Barré syndrome: หรือกลุ่มอาการกูเลนแบร์ เป็นความผิดปกติของระบบประสาทที่พบได้น้อยมาก ลักษณะอาการ คือกล้ามเนื้ออ่อนแรงลงอย่างรวดเร็วในไม่กี่วัน
- จากยาบางชนิด
- ยาเคมีบำบัดสำหรับรักษาโรคมะเร็งบางชนิด โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ มะเร็งระบบน้ำเหลือง หรือ ไมอีโลมา
- ยาปฏิชีวนะบางชนิด ถ้าหากรับประทานนานเป็นเดือนๆ เช่น ยา metronidazole หรือ nitrofurantoin
- ยา phenytoin สำหรับรักษาโรคลมชัก (หากรับประทานเป็นเวลานาน)
- ยา amiodarone และ thalidomide
- เกิดจากสาเหตุอื่นๆ : เช่น
- การใช้ยาเคมีบำบัด
- การอักเสบของเส้นเลือด (vasculitis)
- เนื้องอกทับเส้นประสาท
- โรคตับเรื้อรัง หรือโรคไตเรื้อรัง
- ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยเกินไป (hypothyroidism)
- การสัมผัสกับพิษโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท
- การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปเป็นเวลาหลายปี
โรคปลายประสาทอักเสบจากโรคเบาหวาน
โรคปลายประสาทอักเสบมีสาเหตุมาจากโรคเบาหวานมากที่สุด ทั้งจากโรคเบาหวานทั้งชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2 ซึ่งเราเรียกว่า "โรคเส้นประสาทจากโรคเบาหวาน" (diabetic polyneuropathy) เกิดขึ้นจากระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงจนไปทำลายหลอดเลือดขนาดเล็กที่เลี้ยงเส้นประสาท
ยิ่งเป็นโรคเบาหวานเป็นระยะเวลานาน จะยิ่งมีความโอกาสเป็นโรคปลายประสาทอักเสบมากขึ้น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน 1 ใน 4 จะประสบกับอาการปวดบางอย่าง ที่มีสาเหตุมาจากการทำลายของเส้นประสาท
ถ้าคุณเป็นโรคเบาหวานและไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างเหมาะสม ความเสี่ยงของการเกิดโรคปลายประสาทอักเสบจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น หรือถ้าคุณมีพฤติกรรมดังต่อไปนี้
- เป็นผู้สูบบุหรี่
- ดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากเป็นประจำ
- อายุมากกว่า 40 ปี
ถ้าคุณเป็นผู้ป่วยเบาหวาน คุณควรตรวจเท้าของคุณเป็นประจำเพื่อดูว่ามีบาดแผลเกิดขึ้นที่เท้าหรือไม่
การรักษาโรคปลายประสาทอักเสบ
การรักษาปลายประสาทอักเสบ สามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค เช่น
- รักษาด้วยยา ซึ่งยาที่ใช้บ่อย ได้แก่
- ยาบรรเทาอาการปวด หากอาการไม่รุนแรงอาจใช้ยาลดการอักเสบกลุ่ม NSAIDs แต่หากมีอาการปวดและชารุนแรง ก็อาจต้องใช้ยาอื่นๆ เช่น Oxycodone และ Tramadol ซึ่งมีโอปิออยด์เป็นส่วนประกอบ และต้องจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น
- ยาทาเฉพาะที่ เช่น ยา Capsaicin ซึ่งเป็นครีมทาลดอาการปวดส่วนที่เกิดปลายประสาทอักเสบ แต่อาจมีผลข้างเคียงคือเกิดอาการแสบและระคายเคืองผิวหนังได้
- ยาอื่นๆ เช่น ยา Gabapentin สำหรับต้านชัก ซึ่งใช้รักษาโรคเกี่ยวกับเส้นประสาทด้วย แต่อาจมีผลข้างเคียงคืออาการเวียนศีรษะ นอกจากนี้ ยังมียากลุ่มแก้โรคซึมเศร้า เช่น Tricyclic และ Doxepin ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงานของสารสื่อประสาท และสามารถลดความเจ็บปวดได้
- การผ่าตัด เป็นวิธีรักษาสำหรับผู้ที่เส้นประสาทถูกกดทับ เช่น มีเนื้องอก หรือหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ซึ่งการผ่าตัดจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดอย่างถาวร
- การบำบัดอื่นๆ ใช้เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด รักษาการบาดเจ็บเสียหายของเส้นประสาท และช่วยให้การเคลื่อนไหวดีขึ้น เช่น การใช้ไฟฟ้ากระตุ้นเส้นประสาท (Transcutaneous Electrical Nerve Stimulation: TENS) การทำกายภาพบำบัด และการใช้ไม้ค้ำพยุง หรือเครื่องช่วยเดิน เป็นต้น
การป้องกันโรคปลายประสาทอักเสบ
- ป้องกันและควบคุมโรคที่เป็นสาเหตุ เช่น โรคเบาหวาน การติดเชื้อไวรัส และแบคทีเรียต่างๆ
- ทานอาหารที่มีประโยชน์ และอาหารที่มีวิตามินบี 12 สูง เช่น ผักใบเขียว ธัญพืช ข้าวซ้อมมือ อาหารที่มีโปรตีนไขมันต่ำ
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อเส้นประสาทถูกกดทับ เช่น การยกของหนัก การก้มๆ เงยๆ ในท่าเดิมนานๆ
- ออกกำลังเป็นประจำ และควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ