โรคโบทูลิซึมเป็นโรคหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะอัมพาตได้ แต่ก็พบได้น้อย โดยเกิดจากสารพิษจากเชื้อ Clostridium ที่ส่งผลต่อระบบประสาท ซึ่งเชื้อนี้พบได้ในดินและน้ำที่ไม่ผ่านการกรอง เชื้อที่มักทำให้เกิดโรคนี้ชื่อว่า Clostridium botulinum แต่เชื้อชนิด C. butyricum และ C. Baratii ก็สามารถทำให้เกิดโรคนี้ได้เช่นกัน
รูปแบบของโรคโบทูลิซึม
ศูนย์ป้องกันโรคติดต่อในสหรัฐอเมริกา (CDC) ได้ทำการแบ่งโรค Botulism ออกเป็น 5 รูปแบบ ประกอบด้วย
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- Foodborne botulism botulinum toxin
- Wound botulism Botulinum
- Infant botulism
- Adult toxemia botulism
- Iatrogenic botulism
มีการประมาณว่ามีผู้ป่วยโรคนี้ประมาณ 145 รายต่อปีในสหรัฐอเมริกา โดยรูปแบบการติดเชื้อที่พบบ่อยที่สุดคือ Infant botulism คิดเป็น 65% ของทั้งหมด ตามด้วย foodborne และ wound botulism ที่ประมาณ 15 และ 20% ตามลำดับ ส่วน Adult toxemia botulism และ Iatrogenic botulism นั้นพบได้น้อยมาก
อาการของโรคโบทูลิซึม
สาร Botulinum toxin สามารถทำให้เกิดการเป็นอัมพาตของกล้ามเนื้อจำนวนมากได้ โดยจะทำให้เกิดอาการต่อไปนี้ในเด็กและผู้ใหญ่
- มองเห็นไม่ชัดและเห็นภาพซ้อน
- หนังตาตก
- พูดช้าและกลืนลำบาก
- ปากแห้ง
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ปวดท้อง
- คลื่นไส้และอาเจียน
Foodborne botulism มักทำให้เกิดอาการเหล่านี้ตั้งแต่ 18-36 ชั่วโมงหลังจากรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเข้าไป แต่ก็สามารถเกิดได้ตั้งแต่ช่วง 6 ชั่วโมงแรกจนถึง 10 วันหลังจากการกิน
อาการของโรคโบทูลิซึมในทารก ได้แก่
- กินอาหารได้น้อย
- อ่อนเพลียและดูอ่อนแรง
- ท้องผูก
- น้ำลายฟูมปาก
- ร้องเสียงเบา
- ความตึงตัวของกล้ามเนื้อและการควบคุมศีรษะลดลง
- การตอบสนองของระบบประสาทรีเฟลกซ์ลดลง
หากไม่ได้รับการรักษาจะทำให้เกิดอัมพาตที่แขน ขา ลำตัว และกล้ามเนื้อของการหายใจ ซึ่งสามารถทำให้เกิดการเสียชีวิตจากการที่ไม่สามารถหายใจได้
การรักษาโรคโบทูลิซึม
ยาที่ชื่อว่า Botulinum antitozin เป็นยาสามารถใช้ต้านพิษของแบคทีเรียที่อยู่ในร่างกายได้ โดยหากให้ยาต้านพิษนี้ก่อนที่จะเกิดอัมพาต จะสามารถป้องกันอาการรุนแรงที่จะเกิดขึ้นภายหลังได้ และช่วยลดระยะเวลาในการฟื้นตัวจากอาการของโรค
ในผู้ที่เป็นโรคโบทูลิซึมขั้นรุนแรงซึ่งมีอาการของอัมพาตและหายใจล้มเหลว จะต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเป็นระยะเวลาตั้งแต่หลายสัปดาห์หรือหลายเดือน นอกจากนั้นยังต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากอพทย์และพยาบาลจนกว่าอาการอัมพาตจะดีขึ้น ซึ่งจะดีขึ้นอย่างช้าๆ
ในผู้ที่เป็น Foodborne botulism นั้นแพทย์อาจกระตุ้นให้เกิดอาเจียนหรือถ่ายเพื่อให้อาหารที่ปนเปื้อนเชื้อและยังคงค้างอยู่ภายในลำไส้ออกมา และทำให้สามารถฟื้นตัวได้เร็วมากขึ้น ส่วนผู้ป่วยที่เป็น Wound botulism การรักษาแผลด้วยการผ่าตัดและให้ยาฆ่าเชื้อก็สามารถช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้นเช่นกัน