ภาวะตกเลือดหรือเลือดออก คือคำที่ใช้เรียกภาวะที่มีเลือดออกภายในร่างกาย (Internal Bleeding) การตกเลือดเกิดจากการมีเลือดรั่วไหลออกจากหลอดเลือดหรืออวัยวะที่เสียหาย สามารถเกิดขึ้นได้แทบทุกส่วนของร่างกาย
ส่วนเลือดออกภายนอก หมายถึงภาวะเลือดไหลออกจากผิวหนังที่ได้รับความเสียหาย หรือเกิดขึ้นจากช่องเปิดตามธรรมชาติของร่างกาย เช่น ปาก ช่องคลอด ทวารหนัก หรือจมูก เป็นต้น
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สาเหตุของการตกเลือด
การตกเลือด สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- การบาดเจ็บที่ทำให้เกิดเลือดออก (Traumatic Bleeding) ชนิดของการบาดเจ็บประเภทนี้ได้แก่
- การถลอกหรือขูดที่ไม่ลงไปยังใต้ผิวหนัง
- รอยฟกช้ำหรือภาวะเลือดออกในเนื้อเยื่อ (Hematoma)
- การฉีกขาดหรือกรีด
- แผลถูกสิ่งของแทง อย่างเข็มหรือมีด
- แผลจากการถูกกระแทก หรือถูกอัด
- แผลถูกปืนยิง
- ภาวะทางการแพทย์ มีภาวะทางการแพทย์บางอย่างที่ทำให้เกิดการตกเลือดภายใน แต่ภาวะตกเลือดที่เกิดจากภาวะทางการแพทย์จะพบได้ไม่บ่อยเท่าการบาดเจ็บ ตัวอย่างภาวะที่ทำให้เกิดเลือดออก ได้แก่
- โรคเลือดไหลไม่หยุด (Hemophilia)
- มะเร็งเม็ดเลือดขาว (Leukemia)
- โรคตับ (Liver Disease)
- ภาวะประจำเดือนมามากผิดปรกติ (Menorrhagia)
- ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ (Thrombocytopenia)
- โรควอนวิลลิแบรนด์ (von Willebrand Disease)
- ภาวะขาดวิตามิน K (Vitamin K Deficiency)
- การกระทบกระแทกที่สมอง
- ลำไส้ใหญ่อุดตัน
- โรคหัวใจล้มเหลว (Congestive Heart Failure (CHF))
- มะเร็งปอด
- หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน (Acute Bronchitis)
- ภาวะตัวเย็นเกินรุนแรง (Hypothermia)
- ภาวะเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis)
- การใช้ยา ยาบางชนิดสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการตกเลือด หรือทำให้เกิดการตกเลือดขึ้นได้ ตัวอย่างยาที่ทำให้เลือดออก ได้แก่
เมื่อไรที่ควรไปพบแพทย์?
หากเกิดอาการตกเลือดอย่างรุนแรง และมีอาการดังต่อไปนี้ ต้องขอความช่วยเหลือจากโรงพยาบาลทันที เพราะภาวะนี้อาจกลายเป็นเรื่องร้ายแรงถึงชีวิตได้
- ผู้ป่วยหรือบาดเจ็บเข้าสู่ภาวะช็อกหรือมีไข้
- ไม่สามารถควบคุมการไหลของเลือดด้วยการกดปากแผลได้
- มีบาดแผลต้องรักษาด้วยสายรัดห้ามเลือดทูนิเก้ (Tourniquet)
- มีเลือดออกจากการบาดเจ็บร้ายแรง
- อาจต้องมีการเย็บแผลเพื่อหยุดเลือด
- มีสิ่งแปลกปลอมติดเข้าไปในบาดแผล
- บาดแผลมีสัญญาณการติดเชื้อ เช่น อาการบวม มีน้ำสีเหลืองหรือน้ำตาลไหลออกมา และบาดแผลมีสีแดงเข้ม
- เป็นการบาดเจ็บที่เกิดจากการถูกสัตว์กัด
การปฐมพยาบาลภาวะตกเลือด
มนุษย์สามารถเสียชีวิตจากการสูญเสียเลือดได้ภายใน 5 นาที แต่ผู้เห็นเหตุการณ์ที่อยู่ใกล้เคียงอาจช่วยรักษาชีวิตของผู้บาดเจ็บได้นานกว่านั้น หรือจนถึงมือแพทย์ด้วยการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
เริ่มจากแนะนำให้ผู้มีเลือดออกพยายามทำใจให้สงบเพื่อลดความดันโลหิตและการเต้นของหัวใจลง เพราะหากการเต้นและความดันหัวใจมีมากเกินไป จะยิ่งทำให้เลือดออกมากขึ้น
จัดให้ผู้บาดเจ็บนอนราบเพื่อลดความเสี่ยงต่อการหมดสติ พยายามยกส่วนของร่างกายที่มีเลือดออกให้สูงกว่าส่วนอื่นๆ ของร่างกายหากสามารถทำได้
กำจัดสิ่งสกปรกต่างๆ ออกจากบาดแผล ยกเว้นสิ่งของขนาดใหญ่ที่ปักหรือแทงบริเวณที่มีเลือดออก เช่น ลูกธนู มีด หรืออาวุธต่างๆ เพราะการดึงของเหล่านั้นออกจะยิ่งสร้างความเสียหายให้กับแผล และยังเสี่ยงต่อการมีเลือดออกมากขึ้นด้วย ซึ่งในกรณีนี้ต้องใช้ผ้าพันแผลหรือตัวช่วยในการค้ำสิ่งของนั้นๆ ให้อยู่กับที่ตลอดพร้อมกับซับเลือดที่ออกมาไปในตัว
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
จากนั้นให้ใช้ผ้าสะอาด ผ้าพันแผล เสื้อผ้า หรือมือของผู้ปฐมพยาบาลกดลงบนบาดแผลด้วยแรงกดปานกลางจนกว่าเลือดจะไหลช้าและหยุดไหลไปเอง เมื่อเลือดหยุดแล้วให้ใช้ผ้าชิ้นอื่น หรือใช้เทปพันรอบสิ่งที่ใช้กดบาดแผลให้แน่น แล้วใช้ความเย็นประคบลงเหนือบาดแผล ห้ามดึงวัสดุที่กดอยู่ออกเด็ดขาด แม้จะชุ่มไปด้วยเลือดขนาดไหนก็ตาม เพราะอาจทำให้มีเลือดไหลออกจากแผลอีกครั้ง และอาจทำให้เนื้อเยื่อรอบบาดแผลถูกทำลายมากขึ้น
หากผู้มีเลือดออกได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ คอ หลัง และขา ห้ามเคลื่อนร่างกายของผู้ที่บาดเจ็บโดยเด็ดขาด ให้โทรศัพท์สายด่วน 1669 และปฐมพยาบาลเบื้องต้นจนกว่าความช่วยเหลือจะมาถึง
ให้ใช้สายรัดห้ามเลือดทูนิเก้เป็นตัวช่วยสุดท้าย หากบริเวณนั้นมีผู้ที่สามารถใช้งานทูนิเก้ได้อย่างถูกต้อง โดยข้อปฏิบัติในการใช้ทูนิเก้ มีดังนี้
- ตรวจหาตำแหน่งที่จะมีการวางทูนิเก้ โดยวางอุปกรณ์ไว้ระหว่างหัวใจกับตำแหน่งที่มีเลือดออก
- หากเป็นไปได้ควรใช้ผ้าพันแผลร่วมกับทูนิเก้ โดยพันผ้าไว้รอบๆ แขนหรือขาและมัดปมแบบหลวมๆ ไว้ก่อน เพื่อทำให้มีช่องว่างไว้มัดอีกปมไว้
- วางแท่งไม้หรือท่อระหว่างปมทั้งสอง
- หมุดแท่งหรือท่อที่ใช้เพื่อทำให้ผ้าพันแผลแน่นขึ้น
- จัดให้ทูนิเก้อยู่กับที่ด้วยเทปกาวหรือผ้าพันไว้
- ตรวจสอบทูนิเก้ทุกๆ 10 นาที หากการตกเลือดเริ่มช้าลงพอที่จะควบคุมได้ด้วยแรงกด ให้คลายทูนิเก้ออกและใช้วิธีกดแผลโดยตรงแทน
การรักษาภาวะตกเลือด
หน่วยปฐมพยาบาลจะพยายามห้ามเลือดไว้ก่อนจะรีบนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล ส่วนการรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้ตกเลือด หากมีอาการรุนแรงอาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเพื่อหยุดเลือดที่ไหลออกมา
หากผู้ป่วยมีเลือดออกที่เกิดจากการได้รับบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุ แล้วแผลที่เกิดขึ้นสามารถห้ามเลือดได้ด้วยการปฐมพยาบาลเบื้องต้น บาดแผลจะสมานตัวเองเองโดยไม่จำเป็นต้องได้รับการดูแลเพิ่มเติม
ส่วนการตกเลือดที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้รับการดูแลทางการแพทย์อาจกลายเป็นเรื่องร้ายแรงถึงชีวิต หากผู้บาดเจ็บสูญเสียเลือดไปมากกว่า 1 ใน 3 และอาจทำให้เสียชีวิตได้ แต่การเสียชีวิตจากเหตุนี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
การเสียชีวิตจากการตกเลือดสามารถเกิดขึ้นโดยไม่มีการเลือดออกภายนอกได้ โดยภาวะที่เรียกว่า Catastrophic Internal Hemorrhages จะทำให้มีการเสียเลือดปริมาณมากเช่นเดียวกับภาวะหลอดเลือดแดงโป่งพอง (Aneurysms)
เบาหวานขึ้นตามีวิธีรักษาอย่างไรบ้างค่ะ