สรรพคุณของยา azithromycin
Azithromycin เป็นยา ปฏิชีวนะ (ยาฆ่าเชื้อ) ในกลุ่มแมโครไลด์ (macrolide) มีข้อบ่งใช้สำหรับการติดเชื้อแบคทีเรียที่ไวต่อยานี้ โดยยาจะออกฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย
ยา azithromycin ไม่ออกฤทธิ์ต่อการติดเชื้อไวรัส (เช่น โรคหวัด, โรคไข้หวัดใหญ่) การใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่มีความจำเป็น เป็นสาเหตุของการดื้อยาของเชื้อแบคทีเรียได้ (ประสิทธิภาพของยาลดลง)
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
วิธีใช้ยา azithromycin
อ่านคำแนะนำในการใช้ยาที่ได้รับจากเภสัชกรก่อนใช้ยานี้ และในทุกครั้งที่ได้รับยานี้ หากมีคำถามเพิ่มเติมหรือเกิดอาการข้างเคียงใดๆ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ขนาดรับประทานของยา azithromycin ขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของโรค จึงควรรับประทานยาตามแพทย์สั่งเสมอ สำหรับยา azithromycin ชนิด ผงสำหรับผสมเป็นยาน้ำแขวนตะกอนสำหรับรับประทาน สามารถรับประทานพร้อมอาหารหรือไม่ก็ได้ ในกรณีของ azithromycin ชนิดแคปซูลหรือชนิดเม็ด แนะนำให้ทานยา azithromycin ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง หรือ หลังอากร 2 ชั่วโมง โดยทั่วไปรับประทานวันละ 1 ครั้ง โดยแนะนำให้รับประทานในช่วงเวลาเดียวกันของทุกวัน และควรรับประทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่งแม้ว่าคุณจะมีอาการดีขึ้นแล้วก็ตาม การหยุดยาก่อนกำหนดอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียกลับมาเจริญเติบโตและทำให้การติดเชื้อกลับมาเป็นซ้ำได้
ถ้าบุตรหลานของคุณอาเจียนออกมาภายใน 1 ชั่วโมงของการรับประทานยา ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรว่าจำเป็นต้องรับประทานยาซ้ำหรือไม่
ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องรับประทานยาลดกรด (antacids) ที่มีส่วนประกอบของอะลูมิเนียม (aluminium) หรือ แมกนีเซียม (magnesium) ควรรับประทาน ยา azithromycin ก่อนหรือหลังยาลดกรดอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เนื่องจากยาลดกรด มีผลทำให้ การดูดซึมยา azithromycin ลดน้อยลง
อาการข้างเคียงของยา azithromycin
อาการข้างเคียงที่พบได้บ่อย ได้แก่ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน อุจจาระเหลว ท้องเสีย หากคุณมีอาการอบ่งใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้หลังจากรับประทานยา ถึงแม้ว่าอาการอาจจะเกิดได้น้อยมากแต่มีความรุนแรง ให้ปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
- การได้ยินเปลี่ยนไป เช่น การได้ยินลดลง, หูหนวก
- ปัญหาเกี่ยวกับตา เช่น หนังตาตก, ตาพร่ามัว
- การพูด หรือ กลืนลำบาก กล้ามเนื้ออ่อนแรง- มีปัญหาของโรคตับ เช่น อ่อนเพลียผิดปรกติ, คลื่นไส้หรืออาเจียนเรื้อรัง, ปวดท้องรุนแรง, ตัวเหลือง, ตาเหลือง,ปัสสาวะมีสีเข้ม
- หัวใจเต้นเร็วหรือผิดจังหวะ
ยานี้อาจเป็นสาเหตุของอาการทางลำไส้ที่ร้ายแรงแต่พบได้น้อย คืออาการท้องเสียที่สัมพันธ์กับเชื้อ Clostridium difficile (Clostridium difficile-associated diarrhea) โดยอาการนี้อาจเกิดขึ้นระหว่างการใช้ยา azithromycin หรือภายในสัปดาห์จนถึงเดือนหลังหยุดยาแล้ว ให้แจ้งแพทย์ทันทีหากคุณมีอาการเหล่านี้: ท้องเสียต่อเนื่อง, ปวดท้อง ท้องเกร็ง, อุจจาระมีมูก/เลือดปน อย่าใช้ยาแก้ท้องเสีย หรือยาแก้ปวดกลุ่มที่มีฤทธิ์เสพติด ถ้าคุณมีอาการดังกล่าว เนื่องจากอาจทำให้อาการแย่ลงได้
การใช้ยานี้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน หรือใช้ซ้ำหลายครั้ง อาจทำให้ติดเชื้อราในช่องปาก (oral thrush) หรือเกิดการติดเชื้อรา ให้ไปพบแพทย์หากคุณมีฝ้าสีขาว (คราบสีขาว) ในช่องปาก, มีตกขาวผิดปกติทางช่องคลอด หรือมีอาการอื่นๆ เกิดขึ้น
ปฏิกิริยาการแพ้ยานี้ เป็นเรื่องที่พบได้น้อย อย่างไรก็ตามถ้าเกิดอาการใดๆ ของการแพ้ยาให้รีบไปพบแพทย์ทันที ได้แก่ อาการไข้ที่ไม่ดีขึ้นเลย, ต่อมน้ำเหลืองโตมากขึ้น, มีผื่น, คัน บวม (โดยเฉพาะที่หน้า ลิ้น คอ), เวียนศีรษะรุนแรง, หายใจลำบาก
ปฏิกิริยาแพ้ยาอาจกลับมาเป็นซ้ำได้แม้ว่าจะหยุดยาไปแล้วก็ตาม ถ้าคุณมีอาการแพ้ยาเกิดขึ้น ให้สังเกตอาการของการแพ้ดังกล่าวไปอีกหลายวันหลังจากหยุดยา
อาการข้างเคียงที่กล่าวไว้ข้างต้นไม่ใช่อาการข้างเคียงทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นถ้าคุณมีอาการผิดปกติใดๆ ที่ไม่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ข้อควรระวังในการใช้ยา azithromycin
ถ้าคุณแพ้ยา azithromycin หรือแพ้ยาปฏิชีวนะอื่น เช่น erythromycin, clarithromycin, telithromycin หรือแพ้สิ่งอื่นๆ ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อนได้รับยานี้ ผลิตภัณฑ์ยานี้อาจประกอบด้วยสารไม่ออกฤทธิ์อื่นซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการแพ้หรือปัญหาอื่นได้ ให้ปรึกษาเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ก่อนการใช้ยา azithromycin ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรถ้าคุณแพ้ยา azithromycin หรือแพ้ยาปฏิชีวนะอื่น เช่น erythromycin, clarithromycin, telithromycin หรือแพ้สิ่งอื่นๆ รวมถึงแจ้งเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นโรคตับ, โรคไต, โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (myasthenia gravis)
ยา azithromycin อาจเป็นสาเหตุของภาวะการเต้นของหัวใจช่วง QT ที่ยาวขึ้น ซึ่ง เป็นภาวะที่พบได้น้อยแต่ร้ายแรง (อาจทำให้เสียชีวิตได้) ผู้ป่วยที่มีอาการหัวใจเต้นเร็ว หรือเต้นผิดจังหวะ และมีอาการอื่นๆ เช่น เวียนศีรษะรุนแรง หน้ามืด ซึ่งต้องรีบทำการรักษาทันที
ความเสี่ยงของการเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ชนิด QT prolongation อาจเพิ่มขึ้นในผู้ที่มีโรคบางโรค หรือกำลังใช้ยาบางชนิดที่อาจเป็นสาเหตุของ QT prolongation อยู่แล้ว รวมถึงผู้สูงอายุ ดังนั้นก่อนใช้ยา azithromycin คุณต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับยาทุกชนิดที่กำลังใช้อยู่ รวมถึงหากเป็นโรคดังต่อไปนี้ โรคหัวใจบางชนิด (หัวใจวาย, หัวใจเต้นช้า, พบคลื่นไฟฟ้าหัวใจช่วง QT ยาวจากการตรวจ EKG), มีคนในครอบครัวเป็นโรคหัวใจบางชนิด (พบคลื่นไฟฟ้าหัวใจช่วง QT ยาวจากการตรวจ EKG, คนในครอบครัวเสียชีวิตจากหัวใจวาย)
การที่ร่างกายมีระดับโพแทสเซียม (potassium) หรือ แมกนีเซียม (magnesium) ในเลือดต่ำ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด QT prolongation โดยความเสี่ยงอาจเพิ่มขึ้นถ้าคุณใช้ยาบางชนิด (เช่น ยาขับปัสสาวะ) หรือมีอาการเหงื่อออกรุนแรง ท้องเสียรุนแรง หรืออาเจียนรุนแรง ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีการใช้ยา azithromycin ทุกครั้ง
ยา azithromycin อาจทำให้วัคซีนที่ทำจากแบคทีเรียเชื้อเป็น (เช่น ไทฟอยด์วัคซีน) ไม่สามารถออกฤทธิ์ได้ดี ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนการฉีดวัคซีนขณะที่ใช้ยา azithromycin อยู่
สำหรับหญิงตั้งครรถ์และให้นมบุตร ไม่แนะนำให้ใช้ยา azithromycin ควรได้รับการปรึกษาแพทย์ก่อนการได้รับยา azithromycin ทุกครั้ง
การใช้ยา azithromycin ร่วมกับยาอื่น
การเกิดอันตรกกิริยาระหว่างยา (drug interactions) อาจเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยาหรือเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงร้ายแรง ข้อมูลที่ระบุนี้ไม่ได้ครอบคลุมการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งหมด ดังนั้นคุณต้องแจ้งแพทย์และเภสัชกรทราบทุกครั้งว่าคุณกำลังรับประทานยา อาหารเสริม สมุนไพร ใดอยู่ในขณะนี้ อย่าเริ่มยา หยุดยา หรือเปลี่ยนแปลงขนาดยาต่างๆ เอง โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์
แม้ว่ายาปฏิชีวนะส่วนใหญ่ไม่ส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยาคุมกำเนิด เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด, แผ่นแปะคุมกำเนิด หรือห่วงคุมกำเนิด แต่มียาปฏิชีวนะบางรายการ (เช่น rifampicin, rifabutin) ที่ส่งผลลดประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิด ทำให้ตั้งครรภ์ได้ ถ้าคุณกำลังใช้ฮอร์โมนคุมกำเนิด ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ยาหลายชนิดนอกจากยา azithromycin อาจส่งผลต่อจังหวะการเต้นของหัวใจ (QT prolongation) ได้แก่ amiodarone, disopyramide, dofetilide, dronedarone, ibutilide, pimozide, procainamide, quinidine, sotalol เป็นต้น
การได้รับยา azithromycin เกินขนาด
หากมีใครก็ตามที่ได้รับยา azithromycin เกินขนาด จนทำให้เกิดอาการที่ร้ายแรง เช่น หมดสติ หรือหายใจลำบาก ให้รีบเรียกรถพยาบาลทันที โทร 1669
คำแนะนำในการใช้ยา azithromycin
- ควรกลืนยาทั้งแม็ดหรือแคปซูล ไม่แนะนำให้แบ่งยา
- การส่งใช้ยา azithromycin ขึ้นอยู่กับสภาวะของโรคในปัจจุบัน ไม่ควรเก็บยานี้ไปใช้ในครั้งถัดไป
- ในกรณีที่ลืมทานยา ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้ หากใกล้มื้อถัดไป ให้ข้ามมื้อที่ลืมไป และรับประทานตามปรกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่า
การเก็บรักษายา azithromycin
ควรเก็บรักษาไว้ในที่แห้งและเย็น ไม่เก็บยาในห้องอาบน้ำ อุณหภูมิไม่เกินที่ระบุไว้บนภาชนะบรรจุและเก็บให้พ้นมือเด็ก