กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD

เมล็ดเจีย แต่ต้องกินให้ถูกต้อง จึงจะไม่เป็นอันตราย

เผยแพร่ครั้งแรก 28 มี.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
เมล็ดเจีย แต่ต้องกินให้ถูกต้อง จึงจะไม่เป็นอันตราย

เมล็ดเจีย” พืชตระกูลเดียวกับกะเพรา หรือ มินต์ มีเมล็ดเล็ก ๆสองสีคือดำและขาว เมล็ดพองตัวได้ ซึ่งจากข้อมูลของกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา เผยว่า เมล็ดเจียคือธัญพืชที่มีคุณสมบัติเป็นทั้ง Super Fruit และ Super Seed ที่อัดแน่นไปด้วยสารอาหารที่ร่างกายต้องการ ได้แก่ กรดไขมันดีชนิดโอเมก้า-3 ,โอเมก้า-6 ,แคลเซียม ,ไฟเบอร์ ,สารต้านอนุมูลอิสระ และโปรตีน โดยเมื่อนำเมล็ดเจียไปบด แล้วแช่กับ น้ำ น้ำผลไม้ หรือ นม ก็จะสามารถพองตัวขึ้นมาได้อีกถึง 12 เท่า ยิ่งเพิ่มคุณค่าให้กับอาหารได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะสารต้านอนุมูลอิสระในเครื่องดื่มนั้นๆ

ประโยชน์ของเมล็ดเจีย

ถึงนาทีนี้จึงแทบไม่มีใครไม่รู้จัก “เมล็ดเจีย” โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักแต่ไม่อยากให้ร่างกายขาดสารอาหารและนอกจากนี้เมล็ดเจียยังมีประโยชน์ดีๆ อีก คือ

  1. ช่วยในเรื่องความจำ เพราะเมล็ดเจียมีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูงกว่าปลาแซลมอนถึง 9 เท่า จึงช่วยบำรุงระบบประสาทและสมองให้ทำงานได้เป็นปกติ มีกระบวนการเรียนรู้และความจำดีขึ้น มีสมาธิมากขึ้น
  2. ห่างไกลจากโรคกระดูกพรุน เนื่องจาก เมล็ดเจียเต็มไปด้วยแร่ธาตุที่จำเป็นต่อกระบวนการเสริมสร้างกระดูกและฟัน มีทั้ง แคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และโปรตีน ที่สามารถช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน และกระดูกบางได้
  3. ระบบย่อยอาหารทำงานเป็นปกติ ในเมล็ดเจียมีไฟเบอร์อยู่ประมาณ 34.4 กรัม ที่นับว่าเพียงพอสำหรับร่างกายในแต่ละวัน จึงส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานอย่างเป็นปกติ นอกจากนี้เมล็ดเจียยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ชนิดไซเลียม หรือเส้นใยที่อยู่ในกลุ่มล้างสารพิษ จึงช่วยดูดซึมสารพิษตกค้างในลำไส้ ให้สามารถระบายออกมาในรูปของเสีย จึงทำให้ท้องไม่ผูก
  4. ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เพราะ เมล็ดเจียมีโปรตีน ธาตุฟอสฟอรัส ที่สามารถบำรุงเซลล์เนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกายจึงดูดซึมไปใช้ในกระบวนการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้อย่างดี
  5. เป็นแหล่งพลังงาน เพราะมีโปรตีนอยู่ถึงร้อยละ 20 จึงช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในกลุ่มนักกีฬา หรือผู้ที่เคลื่อนไหวร่างกายมากๆ
  6. ดูอ่อนวัย เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระ มีแร่ธาตุและวิตามินที่มากกว่าผลไม้ในตระกูลเบอร์รีซะอีก จึงช่วยบำรุงความงามให้ดูอ่อนกว่าวัย มีเส้นผมนุ่มสลวย ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีเล็บแข็งแรง และยังช่วยลดปัญหาสิวอีกด้วย
  7. ไม่ขาดสารอาหาร เนื่องจากเมล็ดเจียมีคุณค่าทางสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างครบถ้วน ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไฟเบอร์ แคลเซียม วิตามินเอ วิตามินบีรวม ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส แมงกานีสซิงก์ แมกนีเซียม และกรดไขมันโอเมก้า 3
    เมล็ดเจียกินไม่ถูกอันตราย !

อ่าน : เรื่องราวเกี่ยวกับเมล็ดเจียอาหารเพื่อสุขภาพ

ถึงแม้ว่าเมล็ดเจียจะมีประโยชน์มากมาย แต่อาจไม่ใช่สำหรับทุกคน เพราะ องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา สมาคมโรคหัวใจอเมริกัน หน่วยงานความปลอดภัยด้านอาหารแห่งสหภาพยุโรป และอีกหลายหน่วยงาน บอกตรงกันว่าเมล็ดเจียอาจไม่ดีต่อสุขภาพสำหรับทุกคน โดยเฉพาะคนที่ปัญหาสุขภาพ

  1. คนที่มีปัญหาระบบกระเพาะอาหารและลำไส้ อาจมีก๊าซในกระเพาะอาหาร แสบร้อนกลางอก หรือกรดไหลย้อน เพราะจะไปกระตุ้นให้ตับอ่อนเร่งสร้างน้ำย่อยออกมา
  2. คนที่รับการศัลยกรรมหรือมีประวัติการใช้ยาแอสไพริน จะยิ่งทำให้หลอดเลือดบางลง และอาจมีผลต่อภาวะเลือดแข็งตัวช้า หรือเลือดไหลไม่หยุด
  3. ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตต่ำ อาจมีความเสี่ยงถึงขั้นช็อกหรือหมดสติได้
  4. ผู้หญิงตั้งท้อง หรืออยู่ในช่วงให้นมลูก อาจทำให้สารอาหารในน้ำนมเปลี่ยนไปจากเดิม
  5. ผู้ชายที่มีปัญหาเรื่องต่อมลูกหมาก อาจก่อโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้

นอกจากนี้การกินเมล็ดเจียร่วมกับอาหารเสริมวิตามินบี 17 ติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำให้ร่างกายสะสมสารไฟโตนิวเทรียนต์ในปริมาณมาก และกลายเป็นสารพิษนำมาซึ่งโรคมะเร็งในที่สุด อีกทั้งไม่ควรบริโภคเมล็ดเจียติดต่อกันเป็นเวลานานหลายปี อาจเกิดการเสพติดได้


5 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Use Chia Seeds With Caution, Researcher Warns. WebMD. (https://www.webmd.com/diet/news/20141021/use-chia-seeds-with-caution-researcher-warns)
Can chia seeds help with weight loss? Nutrition facts and information. Medical News Today. (https://www.medicalnewstoday.com/articles/326112)
How to Use Chia Seeds: 10 Delicious and Healthy Ways. Health.com. (https://www.health.com/food/10-healthy-chia-seed-recipes)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป