เสาวรส กินดีไหม กินอย่างไร? มีประโยชน์ และโทษอะไรบ้าง?

เผยแพร่ครั้งแรก 3 ส.ค. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 ตรวจสอบความถูกต้อง 21 มี.ค. 2019 เวลาอ่านประมาณ 6 นาที
เสาวรส กินดีไหม กินอย่างไร? มีประโยชน์ และโทษอะไรบ้าง?

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • เสาวรส เป็นผลไม้ออกรสเปรี้ยวจัด ที่อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 3 วิตามินซี แคลเซียม แมกนีเซียม สังกะสี
  • ประโยชน์ของเสาวรสต่อร่างกายมีหลายด้านมาก ไม่ว่าจะเป็นบำรุงสายตา กระตุ้นระบบขับถ่าย ทำให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น ผู้ที่เจ็บป่วยง่ายควรรับประทานเสาวรสบ้าง เพราะเสาวรสมีวิตามินซีสูงถึง 30 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม ซึ่งช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงขึ้นได้
  • เสาวรสสามารถนำมาปรับเป็นเมนูอาหารได้หลากหลาย เช่น แยมเสาวรส ชามะนาวเสาวรส พุดดิ้งเสาวรส
  • มีความเชื่อพื้นบ้านว่า แต่ละส่วนของเสาวรสสามารถนำมาใช้เป็นยารักษาสุขภาพได้ต่างกัน เช่น ตัวใบสามารถนำมาใช้คั้นดื่มเป็นยาถ่ายพยาธิ ตัวดอกนำมาใช้เป็นยาแก้ไอ และขับเสมหะ นำรากมากรองเป็นยาแก้ไข้ รักษาผดผื่น
  • การรับประทานเสาวรสไม่เหมาะสมจะทำให้เกิดผลข้างเคียงมากมาย เช่น เกิดความเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านม มดลูกหดตัว หลอดเลือดอักเสบ ดังนั้นคุณควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะบริโภคผลไม้เพื่อบำรุงร่างกายโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อันตราย (ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพ ตรวจโรคมะเร็ง โรคภูมิแพ้ได้ที่นี่)

เสาวรส หนึ่งในผลไม้ที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เด่นชัด รสชาติเปรี้ยวกำลังดี นิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนที่จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะให้ความสดชื่น ช่วยดับกระหายคลายร้อนได้ดี 

อีกทั้งเสาวรสยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ที่สำคัญยังเป็นผลไม้ที่ให้คุณประโยชน์ และมีสรรพคุณทางยาอย่างมากมายเลยทีเดียว

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

ทำความรู้จักกับเสาวรส

เสาวรส (Passion Fruit) เป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดมาจากแถบทวีปอเมริกาใต้ ลักษณะผลเป็นทรงกลม ผลอ่อนมีสีเขียว ส่วนผลที่สุกแล้วจะมีหลายสีตามแต่ละสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นสีม่วง สีเหลือง และสีส้ม มีกลิ่นคล้ายฝรั่งสุก 

รสชาติเสาวรสจะออกเปรี้ยวจัด บางสายพันธุ์มีรสออกหวาน และมีเมล็ดจำนวนมาก อีกทั้งอุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุหลากหลายชนิด จึงให้คุณประโยชน์กับสุขภาพร่างกายในหลากหลายด้าน

คุณค่าทางโภชนาการของเสาวรส

ผลเสาวรส 100 กรัม จะให้พลังงาน 97 กิโลกรัม และให้วิตามินกับสารอาหารที่มีประโยชน์ ดังนี้

คาร์โบไฮเดรต 23.38 กรัม โปรตีน 2.2 กรัม วิตามินเอ 64 ไมโครกรัม วิตามินบี 9 14 ไมโครกรัม วิตามินซี 30 มิลลิกรัม ธาตุแมกนีเซียม 29 มิลลิกรัม ธาตุโพแทสเซียม 29 มิลลิกรัม 

ประโยชน์ของเสาวรส

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าผลไม้ชนิดนี้มีประโยชร์อะไรบ้าง ซึ่งเรามาแจกแจงข้อมูลกันว่า เสาวรสมีดีอย่างไร

1. บำรุงสายตา

เสาวรสอุดมไปด้วยวิตามินเอ และมีสารฟลาโวนอยด์อย่างเบต้าแคโรทีน (Betacarotene) ซึ่งถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยป้องกันเซลล์ประสาทตาถูกทำลาย และช่วยบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

2. กระตุ้นระบบขับถ่าย

เสาวรสมีฤทธิ์ในการกระตุ้นระบบขับถ่าย เนื่องจากอุดมไปด้วยไฟเบอร์ หรือกากใยอาหาร ทั้งยังมีส่วนช่วยในการขจัดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีที่อยู่ในร่างกาย รวมทั้งสามารถขจัดสารพิษ จึงเหมาะสำหรับใช้ในการดีท็อกซ์ของเสียออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ได้ด้วย 

3. เสริมภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง

ใครที่เจ็บป่วยบ่อยๆ แนะนำให้รับประทานผลไม้ชนิดนี้เป็นประจำ เพราะในเสาวรส 100 กรัม มีวิตามินซีสูงถึง 30 มิลลิกรัม คิดเป็น 36% ของปริมาณวิตามินซีที่ควรได้รับต่อวัน 

เมื่อร่างกายได้รับปริมาณวิตามินซีที่เพียงพอมากขึ้น ก็จะช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง ป้องกันหวัด และป้องกันการกำเริบของโรคภูมิแพ้ได้

4. บำรุงหัวใจ

เสาวรส 100 กรัม มีโพแทสเซียมสูงถึง 348 มิลลิกรัม ซึ่งแร่ธาตุชนิดนี้เป็นสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญต่อเซลล์ และของเหลวในร่างกาย นอกจากนี้ เมื่อร่างกายได้รับโพแทสเซียมในปริมาณที่พอเหมาะ ก็จะช่วยให้การทำงานของหัวใจ และความดันโลหิตเป็นปกติ

5. ป้องกันกระดูกพรุน

เสาวรสมีสรรพคุณในการป้องกันโรคกระดูกพรุน เนื่องจากมีแคลเซียม และฟอสฟอรัสสูง วิธีการรับประทาน คือ ให้คั้นเอาน้ำจากผลเสาวรสแก่จัด ใส่เกลือ หรือน้ำตาลลงไปตามชอบ สามารถดื่มเรื่อยๆ ได้ทั้งวัน นอกจากนี้ น้ำเสาวรสยังช่วยป้องกันโรคเหงือกอักเสบ และช่วยให้ฟันแข็งแรงอีกด้วย

6. ช่วยให้นอนหลับง่าย

การดื่มน้ำเสาวรสเป็นประจำก่อนนอนจะช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น โดยการจะดื่มให้ได้ประโยชน์นั้น ควรดื่มน้ำคั้นสด เติมน้ำตาล หรือเกลือลงไปเล็กน้อย เพียงแค่นี้ก็ทำให้นอนหลับสบายขึ้นแล้ว

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

7. ช่วยลดน้ำหนัก

เนื่องจากมีแคลอรี่ต่ำ รับประทานแล้วไม่อ้วน แต่ให้สารอาหารที่ดีต่อร่างกาย นอกจากนี้ ยังมีกากใยสูง ทำให้รับประทานแล้วรู้สึกอิ่ม ช่วยลดความอยากอาหาร ลดการสร้างไขมันใหม่ และช่วยสลายไขมันเก่าได้เป็นอย่างดี

8. ช่วยบรรเทาอาการหอบหืด 

สารสกัดจากเปลือกเสาวรสสีม่วงนั้นอุดมไปด้วยสารไบโอฟลาโวนอยด์ (Bioflavonoid) ที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายได้ 

การรับประทานสารสกัดชนิดนี้วันละ 150 มิลลิกรัม เป็นเวลา 4 สัปดาห์ จะทำให้ผู้ป่วยโรคหอบหืดมีอาการดีขึ้น ความถี่ในการไอลดลง นอกจากนี้ยังไม่พบผลข้างเคียงใดๆ 

แต่ผู้ป่วยโรคหอบหืดที่ต้องการรับประทานเพื่อสรรพคุณนี้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง และไม่ควรหยุดรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งโดยพลการ

เมนูเสาวรสเพื่อสุขภาพ

เสาวรสมักถูกนำมาทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เนื่องจากให้รสชาติเปรี้ยว และหอมสดชื่น นอกจากนี้ยังสามารถนำมาประยุกต์เป็นอาหารว่างอื่นๆ ได้อีกด้วย 

1. สมูทตี้เสาวรสมะม่วง

เตรียมเสาวรส มะม่วงสุก กล้วยหอม ลูกพีช โยเกิร์ต และน้ำเปล่า นำส่วนผสมทั้ง 4 อย่างใส่ลงไปในเครื่องปั่น ตามด้วยโยเกิร์ตและน้ำเปล่า ปั่นให้ละเอียด เทใส่แก้วพร้อมดื่ม (เพื่อความสดชื่นควรแช่เย็นผลไม้ทุกชนิดก่อนนำมาปั่น)

2. แยมเสาวรสผสมมะละกอ

เมนูนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบรับประทานขนมปังในตอนเช้า วิธีทำเริ่มจากเตรียมเสาวรส มะละกอสุก น้ำตาลทราย และฝักวานิลลา จากนั้นหั่นมะละกอเป็นชิ้นใส่ลงในหม้อ ตามด้วยฝักวานิลา ใส่น้ำตาลทรายลงไป และตามด้วยเนื้อเสาวรส 

หลังจากนั้นตั้งไฟกลางจนเดือด ใช้ช้อนไม้บดเนื้อมะละกอให้ละเอียด เคี่ยวต่อไปเรื่อยๆ แล้วลดไฟให้อ่อน ตักฝักวานิลาออก เมื่อเห็นว่าเริ่มข้นก็ให้ตักใส่แก้ว หรือขวดโหลที่สะอาด

3. ชามะนาวเสาวรส

สำหรับใครที่ชอบดื่มชา แนะนำให้ลองนำเสาวรสมาทำเป็นเครื่องดื่มชามะนาวกัน โดยเตรียมน้ำชา น้ำมะนาวคั้นสด น้ำตาลทราย มะนาวฝานบางๆ และน้ำแข็ง เริ่มจากผสมน้ำมะนาวคั้นสดลงไปในน้ำชา เติมน้ำตาลทราย คนให้น้ำตาลละลายและพักไว้จนน้ำชาเย็นลง 

หลังจากนั้น ให้นำไปเทใส่แก้ว ตักเนื้อเสาวรสลงไปตามใจชอบ คนให้เข้ากัน ใส่มะนาวฝานบางๆ ลงไป ปิดท้ายด้วยการเติมน้ำแข็ง เท่านี้ก็พร้อมดื่มในช่วงที่อากาศร้อนๆ ช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น คลายร้อนได้อย่างดี

4. เสาวรสนมสดสีม่วง

วิธีทำให้เตรียมเสาวรส น้ำหวานเข้มข้นกลิ่นองุ่น นมข้นจืด และน้ำแข็งบดสะอาด แล้วนำส่วนผสมทั้งหมดใส่เครื่องปั่น และปั่นจนละเอียด เติมเกลือป่นเพียงเล็กน้อยเพื่อตัดรสเปรี้ยว เทใส่แก้วพร้อมดื่ม

5. พุดดิ้งเสาวรส

เตรียมนมสด น้ำตาลทราย ไข่ไก่ เกลือ และน้ำเสาวรส เริ่มจากตอกไข่ไก่ใส่ในชาม ตามด้วยนมสด น้ำตาลทราย เกลือ และน้ำเสาวรส คนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน กรองส่วนผสมด้วยผ้าขาวบางแล้วใส่ในแก้ว 

นำไปนึ่งด้วยหม้อหุงข้าวประมาณ 6-8 นาที เมื่อสุกแล้วให้พักไว้จนเย็น และนำไปแช่ในตู้เย็น ก่อนรับประทานให้ราดด้วยเนื้อเสาวรสสด เป็นอันเสร็จ

6. เค้กเสาวรส

เปิดเตาอบเอาไว้ที่ 180 องศาเซลเซียส ร่อนแป้งเค้ก และผงฟู ใส่เกลือเล็กน้อย ใส่กรีกโยเกิร์ตลงไป ใส่น้ำตาลทราย ไข่ไก่ น้ำมันคาโนลา ตามด้วยเสาวรส น้ำอุ่น 

ให้คุณผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน นำเข้าเตาอบ 45 นาที จนกระทั่งสุกให้นำออกจากเตาอบ ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วแกะออกจากพิมพ์ 

จากนั้นตั้งกระทะ ใส่ไวท์ช็อกโกแลตลงไป ตามด้วยน้ำเสาวรส น้ำอุ่น คนให้ช็อกโกแลตละลาย เมื่อเสร็จแล้วให้นำซอสไวท์ช็อกโกแลตไปราดลงไปบนเนื้อเค้ก หั่นเป็นชิ้น พร้อมเสิร์ฟ

7. ทาร์ตเสาวรส

เปิดเตาอบเตรียมไว้ที่ประมาณ 190 องศาเซลเซียส นำแป้งทาร์ตแช่เย็นไปอบประมาณ 15 นาที โดยให้วางกระดาษไขไว้ด้านบน ตีน้ำตาลทราย เสาวรส น้ำเลมอนให้เข้ากัน ใส่ไข่ไก่ลงไป แล้วใส่เฮฟวี่ครีม ผสมให้เข้ากันอีกครั้ง 

หลังจากนั้นกรองด้วยกระชอน เทส่วนผสมที่ได้ลงในแป้งทาร์ต นำเข้าเตาอบประมาณ 20 นาที เสร็จแล้วนำออกมาพักจนเย็น โรยหน้าด้วยเสาวรส พร้อมรับประทาน

เสาวรสกับสูตรพื้นบ้านรักษาโรค

มีความเชื่อพื้นบ้านมากมายเกี่ยวกับการใช้ส่วนต่างๆ ของเสาวรสเพื่อบำรุงสุขภาพ เช่น

  • ถ่ายพยาธิ นำใบที่ล้างสะอาดมาตำ แล้วคั้นเอาแต่น้ำ ดื่มเป็นยาถ่ายพยาธิ
  • ถอนพิษ เนื้อไม้ของต้นใช้เป็นยาถอนพิษ และรักษาบาดแผล
  • แก้ไอ ดอกสามารถนำมาใช้แก้ไอ และขับเสมหะได้
  • แก้ไข้ นำรากไปต้มน้ำแล้วกรองเอาแต่น้ำ นำมาดื่ม จะสามารถช่วยแก้ไข้ หรือนำมาทารักษาผดผื่นคันได้

อย่างไรก็ตาม สรรพคุณและสูตรการใช้ส่วนต่างๆ ของเสาวรสเหล่านี้ก็ยังไม่ได้รับการยืนยันถึงประสิทธิภาพ และความปลอดภัย หากต้องการทดลองทำตามควรระมัดระวังให้ดี โดยควรล้างให้สะอาดก่อนนำมาปรุง 

และหากสังเกตอาการผิดปกติจากการใช้ ควรหยุดใช้และปรึกษาแพทย์ หรือถ้าจะให้ดีที่สุด เมื่อมีอาการเจ็บป่วยใดๆ ก็ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการรักษาอย่างถูกวิธี

ข้อควรระวังในการใช้เสาวรส

แม้เสาวรสจะมีส่วนช่วยในการรักษาโรค และให้คุณประโยชน์ในด้านอื่นๆ อีกมากมาย แต่บุคคลบางกลุ่มอาจไม่สามารถรับประทานได้เหมือนคนทั่วไป เพราะจะเสี่ยงทำให้เกิดผลเสียตามมาได้

  • บางคนการรับประทานเสาวรสอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ทำให้รู้สึกสับสน วิงเวียนศีรษะ กล้ามเนื้อทำงานผิดปกติ ระดับของความรู้สึกเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดหลอดเลือดอักเสบ และมีรายงานพบว่า บางรายเมื่อรับประทานเข้าไปจะเกิดอาการง่วงซึม คลื่นไส้ อาเจียน หัวเต้นเร็ว
  • หญิงตั้งครรภ์ไม่ควรรับประทานเด็ดขาด เพราะในเสาวรสมีสารเคมีบางตัวที่อาจทำให้มดลูกหดตัวได้
  • คุณแม่ที่กำลังอยู่ในช่วงของการให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงการรับประทาน เพราะยังไม่มีข้อมูลใดๆ ยืนยันได้ว่า ปลอดภัยต่อเด็ก แต่หากต้องการรับประทานก็สามารถปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อความแน่ใจ
  • ผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ควรงดรับประทานอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด เพราะอาจส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง โดยอาจไประงับฤทธิ์ยาสลบหรือยาตัวอื่นๆ ต่อสมองในช่วงที่กำลังผ่าตัดและหลังจากผ่าตัดได้
  • เสาวรสอ่อนบางสายพันธุ์มีสารประกอบไซยาไนต์อยู่ที่เปลือก จึงมีการห้ามไม่ให้รับประทานส่วนต่างๆ ของเสาวรสในแบบดิบๆ เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ ยกเว้นเนื้อ และเมล็ดเท่านั้นที่สามารถกินดิบๆ ได้
  • การรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งเต้านมได้ถึง 30% จึงควรทานอาหารประเภทอื่นๆ สลับสับเปลี่ยนกันไปอย่างเหมาะสม ไม่ควรรับประทานอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งติดกันบ่อยๆ มากเกินไป
  • แม้ว่าเสาวรสจะมีรสชาติเปรี้ยว แต่กลับเป็นผลไม้ที่มีปริมาณของน้ำตาลค่อนข้างมากพอสมควร ดังนั้นในรับประทานไม่ควรเติมน้ำผึ้ง หรือน้ำตาลมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้ปริมาณของน้ำตาลในร่างกายพุ่งสูงขึ้นได้

เสาวรสถือเป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่เป็นตัวเลือกที่ดีของคนที่ใส่ใจสุขภาพ หากรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะเต็มไปด้วยสารอาหาร และคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ แถมยังนำมาดัดแปลงได้ในหลากหลายเมนู เหล่าคนรักสุขภาพทั้งหลายไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพ ตรวจโรคมะเร็ง โรคภูมิแพ้ เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจต่างๆ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


2 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
John Staughton, 9 Surprising Passion Fruit Benefits (https://www.organicfacts.net/health-benefits/fruit/passion-fruit.html) 6 March 2019.
Brandi Marcene, 11 Amazing Benefits of Passion Fruit (https://www.naturalfoodseries.com/11-passion-fruit-benefits/) 7 April 2019.

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
วิตามินกับการรับประทานอาหาร ที่มีสารต่อต้านริ้วรอย
วิตามินกับการรับประทานอาหาร ที่มีสารต่อต้านริ้วรอย

รับประทานวิตามินเพื่อการชะลอวัยอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

อ่านเพิ่ม