สอบถามอาการเบื้องต้นของการติดเชื้อHIV​ ผมมีอาการคัดจมูกมีน้ำหมูก​ 3เดือน มีอาการไอ​ 3เดือน มีตุ่มคันขึ้น​มาประ 14​ จุด​ที่ขาอย่างเดียวประมา 1​สัปดาห์ก็หายเอง ผมจะติดเชื้อHIV​มั้ยครับ ผมเสี่ยงมาแล้ว​ 3ิ​ เดือน นี่ใช่ตุ่มคันhiv​ มั้ยครับ ในช่วง3เดือนนี้ผมตากฝนบ่อยมาก

ที่เล่ามาไม่ได้บอกว่าติดเชื้อหรือไม่นะครับ

โรค HIV สามารถติดต่อกันได้ 3 ทาง คือ
1. ติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ
2. ติดต่อจากการสัมผัสเลือด หรือสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อเข้าทางบาดแผล
3. ติดต่อจากแม่สู่ลูกขณะตั้งครรภ์

หลังจากมีพฤติกรรมเเสี่ยงประมาณ 5-7 วัน ก็สามารถไปตรวจได้ครับ เช่นที่ คลินิคนิรนาม
หรือ รพ รัฐ เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่ตรวจได้เกือบหมดครับ

ถ้าหากยังไม่เกิน 72 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุการณ์ก็สามารถไปพบแพทย์เพื่อขอรับยาต้านไวรัสHIVมารับประทานเพื่อป้องกันการติดเชื้อก่อนได้ครับ
........
โดย หลังจากได้รับเชื้อ ในช่วงแรก สารพันธุกรรมของไวรัส (RNA และ DNA) ก็แบ่งตัวจะขยายจำนวนเพิ่มขึ้นจนมากพอที่เราสามารถใช้เทคนิคที่เรียกว่า NAAT (nucleic acid amplification testing) ตรวจได้หลังมีพฤติกรรมเสี่ยง 5-7 วัน
อาจใช้เวลา 1-2 วันรอผลครับ แล้วเเต่ที่
........
หลังจากนั้นจะมีการตรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันการวินิจฉัย เช่น ตรวจหาAntigen(p24) Antibodyซึ่งคือภูมิคุ้มกันที่ร่างกายมีต่อเชื้อ(Anti HIV) ซึ่งมักตรวจได้หลังรับเชื้อประมาณ 1 เดือนขึ้นไป(ถ้าเป็นน้ำยา4th genจะตรวจเจอได้เร็วกว่า) โดยทั่วไปเเนะนำว่าจะเจอหลังติดเชื้อ3เดือน (พ้นระยะฟักตัว) อันนี้รู้ผลเร็วภายในวันนั้นเลยครับ
........
กรุงเทพมหานครสามารถรับบริการตรวจเอชไอวีฟรีได้ที่
• ตรวจฟรีไม่ต้องแจ้งหมายเลขบัตรประชาชน
- โรงพยาบาลบางรัก
- คลีนิคนิรนาม สภากาชาดไทย
- คลินิกชุมชนสีลม @ทรอปเมด
- คลินิกพิเศษของศูนย์ดรอปอิน
- คลินิกพิเศษฟ้าสีรุ้ง ซอยรามคำแหง 87
• ตรวจฟรีแต่ต้องแจ้งหมายเลขบัตรประชาชน ที่โรงพยาบาลรัฐทุกแห่งทั่วไป
ในพื้นที่จังหวัดอื่น ๆ สามารถรับบริการตรวจเอชไอวีได้ที่
- โรงพยาบาลรัฐทั่วไป (ตรวจฟรีโดยแจ้งเลขบัตรประชาชน)
- โรงพยาบาลหรือคลินิกเอกชน (เสียค่าใช้จ่าย)
............
ต่างจังหวัด
• ตรวจฟรีโดยแจ้งหมายเลขบัตรประชาชน ที่โรงพยาบาลรัฐทุกแห่งครับ

โรคเอดส์มีระยะและการดำเนินโรคคร่าวๆดังนี้ครับ
........
-acute retroviral syndrome
........
70% ของผู้ป่วยหลังติดเชื้อ HIV 2-3 สัปดาห์ ผู้ติดเชื้อส่วนมากจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ คือมีอาการอ่อนเพลีย มีไข้ ต้อมน้ำเหลืองบริเวณคอและรักแร้โต มีผื่นที่ตัวแและหลัง เจ็บคือ คลื่นไส้ ท้องเสีย โดยอาการเหล่านี้จะดีขึ้นเองหนึ่งสัปดาห์
........
-Asymptomatic เป็นช่วงที่ผู้ป่วย ไม่มีอาการ แต่สามารถแพร่เชื้อได้
........
-ระยะโรคเอดส์ คือระยะที่เม็ดเลือดขาวของร่างกายถูกทำลายจนเหลือปริมาณน้อย ทำให้ร่างกายติดเชื้อฉวยโอกาสทั้งเชื้อรา แบคทีเรีย และไวรัสต่างๆ ครับ

พวกคัดจมูก น้ำมูก ไอ เป็นพวกโรคเกี่ยวกับภูมิเเพ้ได้ครับ

เบื้องต้น ซื้อยา เช่น
เช่น CPM Atarax (จะง่วงหน่อย) หรือกลุ่มใหม่กว่าจะไม่ง่วง เช่น Loratadine Cetirizine Fexofenadine
ช่วยลดน้ำมูกเเละผื่นคันได้ครับ

เรื่องไอ
กรณีที่เพิ่งหายจากไข้หวัด เเล้วยังมีไอ โดยไม่มีไข้ ไม่ได้มีเสมหะ คือมีไอเเห้งๆอย่างเดียว อาจเป็นภาวะ ไอหลังจากติดเชื้อได้ครับ(Post infectious cough) ซึ่งสามารถมีอาการได้เป็นเดือน เเต่จะไม่มีอันตรายครับ การรักษาคือ รับประทานยาเเก้ไอ จิบน้ำอุ่น ใช้สเปรย์พ่นคอ เป็นต้น

ถ้าไอเเล้วมีเสมหะเลือดปนเล็กน้อยอาจเป็นเเค่เส้นเลือดฝอยเเตก ไม่ได้อันตรายครับ

แต่ถ้าไอปนเลือด มีเบื่ออาหาร น้ำหนักลด เเละไอมานานส่วนใหญ่เกินสองเดือนร่วมด้วย จะสงสัยพวกวัณโรคครับ หรือมะเร็งปอด เป็นต้นครับ โดยเฉพาะถ้ามีประวัติสูบบุหรี่มานาน

หรือถ้า ยังมีไข้ เสมหะเยอะสีเขียว อาจเป็นอาการของปอดอักเสบติดเชื้อ ได้ครับ

สาเหตุของการไอมีเยอะมาก เช่น
- เป็นหอบหืดเคยพ่นยาถ้าเป็นน้อยๆก็ไอได้ไม่ถึงกับหอบ
- หรือกินยาลดความดันบางชนิดก็ทำให้ไอได้ครับ เช่น Enalapril

ดังนั้นถ้าไอเเห้งๆอย่างเดียว คันคอ ไม่มีไข้ ไม่มีเสมหะเเล้วก็รักษาตามอาการครับ

ถ้าทนไม่ไหว อาจต้องกินยากดการไอเพิ่มครับเช่น พวกRopect(GGขับเสมหะผสมCodeineกดการไอ) หรือใช้เสปรย์พ่นคอครับ พวก Kamillosan หรือ Difflam ร้านขายยาน่าจะมีครับร้านใหญ่ๆหน่อยครับ
เเต่ถ้าอาการเเย่ลงเหมือนที่บอกไปเเนะนำไปหาหมอนะครับ

สวัสดีครับ
อาการของการติดเชื้อ HIV เริ่มตั้งแต่ ไม่มีอาการเลย ไปจนถึง อาการที่ไม่เฉพาะเจาะจงต่างๆ เช่น มีไข้เรื้อรัง อ่อนเพลีย ถ่ายเหลวเรื้อรัง น้ำหนักลดรวดเร็ว ปวดศีรษะเรื้อรัง ไอเรื้อรัง ต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้นครับ

อาการที่น่าสงสัยและควรไปตรวจ ได้แก่ การมีเชื้อราในปาก ผื่นติดเชื้อเรื้อรัง ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นวัณโรค เป็นโรคเริมที่รุนแรง ซึม สับสน มีการติดเชื้อฉวยโอกาสตามที่ต่างๆ เช่นในปอด ระบบประสาทส่วนกลาง เป็นมะเร็งบางชนิดที่สัมพันธ์กับเชื้อ HIV เป็นต้นครับ

อาการของคนไข้ จึงยังไม่เฉพาะเจาะจงกับโรคเอดส์นะคะ แนะนำให้ตรวจหาสาเหตุอื่นๆเพิ่มเติมก่อน

อย่างไรก้ตาม หากมีความเสี่ยง แนะนำให้ไปตรวจที่ รพของรัฐใกล้บ้าน (ตรวจฟรี) ครับ เพื่อความมั่นใจมากกว่าครับเนื่องจากหากรอนานจนมีอาการ แปลว่าร่างกายอ่อนแอมากแล้วครับ

อาการที่เกิดขึ้นในขณะนี้ก็ไม่ใช่อาการที่จำเพาะต่อการติดเชื้อ HIV ครับ

โรค HIV ทั่วไปสามารถติดต่อกันได้ 3 ทาง คือ
1. ติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ
2. ติดต่อจากการสัมผัสเลือด หรือสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อเข้าทางบาดแผล
3. ติดต่อจากแม่สู่ลูกขณะตั้งครรภ์
ถ้าหากไม่ได้มีปัจจัยเสี่ยงตาม 3 ข้อข้างต้นก็ไม่ติดเชื้อ HIV ครับ

ถ้าคนไข้กังวลเรื่องการติดเชื้อ แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจเลือดยืนยันการติดเชื้อดูครับ เพราะจะเป็นวิธีการเดียวที่จะบอกได้ว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ครับ