โรคเชื้อราในปาก (Oral Thrush หรือ Oral Candidiasis) เกิดจากเชื้อรา หรือยีสต์ชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า "แคนดิดา อัลบิแคนส์" (Candida albicans)
ปกติแล้วเชื้อแคนดิดาจะมีจำนวนเล็กน้อยอยู่ร่วมกับแบคทีเรียดีหลายชนิดในช่องปากอยู่แล้ว แบคทีเรียแต่ละชนิดก็จะควบคุมอัตราการเจริญเติบโตของกันและกัน แต่สิ่งที่เข้าไปรบกวนความสมดุลในช่องปากคือ ปัจจัยที่ปูทางให้เชื้อราเติบโตขึ้น และทำให้เป็นโรคเชื้อราในปากในที่สุด
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
การติดเชื้อรานี้จะเกิดกับทารกประมาณ 5-7% ผู้ป่วยโรคเอดส์ (AIDS) ประมาณ 9-31% และผู้ป่วยโรคมะเร็งประมาณ 20%
อาการของโรคเชื้อราในปาก
- มีรอยสีขาวในปาก หรือบนลิ้น บางครั้งบริเวณดังกล่าวจะมีเลือดออกด้วยเวลาสัมผัส
- ช่องปากแดง
- มีอาการปวดแสบ
- มุมปากแตก
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคเชื้อราในปาก
- เป็นมะเร็ง เอดส์ หรือโรคอื่นๆ ที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง
- อยู่ในช่วงทำเคมีบำบัด
- อยู่ระหว่างใช้ยาปฏิชีวนะ เช่น ยาสเตียรอยด์ (Steroid) ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) หรือยากดภูมิต้านทาน (Immunosuppressive drugs)
- ใช้ยาสูดดมสำหรับผู้ป่วยโรคหอบหืด
- เป็นผู้สูงอายุมาก หรืออายุน้อยมากๆ
- เป็นเบาหวานซึ่งไม่ได้รับการควบคุมดูแลที่ดีนัก
- ใส่ฟันปลอมต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ และไม่ถอดออกมาทำความสะอาดตามที่ทันตแพทย์แนะนำ
- ออรัลเซ็กซ์ (Oral sex) กับผู้ที่ติดเชื้อ
โรคเชื้อราในปากกับเด็กทารก
เด็กแรกเกิด หรือทารกที่มีเชื้อราในปากนั้นถือเป็นเรื่องปกติ และไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง ยกเว้นว่าจะเป็นติดต่อกันยาวนานมากกว่า 1-2 สัปดาห์ คุณพ่อคุณแม่ หรือผู้ปกครองอาจต้องพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบอาการให้สบายใจ
แต่ปกติแล้ว หากโรคเชื้อราเกิดขึ้นกับทารก เชื้อราก็จะหายไปเองในเวลาต่อมา ต่างจากในผู้ใหญ่ที่โรคเชื้อราในปากจะเกิดกับผู้ที่สุขภาพช่องปากไม่ดีและจะเป็นเฉพาะกับผู้ป่วยที่อาการหนักจริงๆ เท่านั้น
เช่น ผู้ที่มีฟันผุขนาดใหญ่มากๆ และละเลยไม่ยอมรักษา ผู้ที่สูบบุหรี่จัดมาก เพราะควันบุหรี่สามารถสร้างความระคายเคืองให้กับเนื้อเยื่อของเยื่อบุช่องปากได้ และทำให้ยีสต์และจุลินทรีย์อื่นๆ เติบโตได้ง่าย
โรคติดเชื้อราที่หัวนม
เป็นกรณีที่มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ โดยมักจะพบโรคนี้ในแม่ที่ต้องให้นมลูกเองและจะเกิดที่บริเวณหัวนมและในท่อน้ำนม การติดเชื้อนี้มักจะเกิดหลังจากมีการใช้ยาปฏิชีวนะติดต่อกันเป็นเวลานาน
เมื่อมีการติดเชื้อที่บริเวณนี้ก็อาจทำให้ผู้เป็นแม่ทำให้รู้สึกเจ็บเต้านม ปวด และระคายเคืองผิวบริเวณหน้าอกได้ ส่วนปากของทารกก็อาจมีคราบพลัคสีขาวซึ่งเป็นเชื้อราอยู่
โปรแกรมตรวจสุขภาพวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 99 บาท ลดสูงสุด 96%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
หากตรวจพบว่า มีการติดเชื้อราแล้ว แม่และลูกจะต้องได้รับการรักษาอาการติดเชื้อนี้ทั้งคู่
การรักษาโรคเชื้อราในปาก
แพทย์ หรือทันตแพทย์ สามารถตรวจพบการติดเชื้อยีสต์ในปากคุณได้ง่ายๆ เพียงแค่มองหาแผลนุ่มๆ สีขาวในปาก หรือบนลิ้น
บางรายแพทย์อาจยืนยันผลการตรวจด้วยการขูดเอาชิ้นส่วนของแผลในปากไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ หรือส่งไปยังห้องปฏิบัติการเพื่อเพาะเลี้ยงดูว่า ใช่เชื้อราดังกล่าวหรือไม่
สำหรับวิธีการรักษา การรักษาจะประกอบด้วยการใช้น้ำยาบ้วนปากป้องกันเชื้อรา หรือให้ผู้ป่วยใช้ยาอมประมาณ 5-10 วัน
โพรไบโอติกส์สำหรับโรคเชื้อราในปาก
การรับประทานทานโพรไบโอติกส์ (Probiotics) ซึ่งเป็นแบคทีเรียดีคล้ายกับแบคทีเรียที่พบได้ทั่วไปในร่างกาย สามารถฟื้นฟูความสมดุลของแบคทีเรียในช่องปากได้
อีกทั้งยังสามารถพบโพรไบโอติกส์ได้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิด และโยเกิร์ตบางยี่ห้อที่มีส่วนผสมของแบคทีเรียที่มีชีวิตอยู่ด้วย
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ทั้งนี้ชนิดและปริมาณของแบคทีเรียในผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกส์ก็จะมีความแตกต่างกันไป คุณจึงต้องเปรียบเทียบดูฉลากของแต่ละผลิตภัณฑ์อย่างรอบคอบก่อนเลือกซื้อ
ภาวะแทรกซ้อนของโรคเชื้อราในปาก
สำหรับผู้ที่มีสุขภาพดีนั้น โรคเชื้อราในปากมักจะไม่รุนแรงและไม่ส่งผลกระทบในระยะยาว แต่หากผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ หรืออ่อนแอ การติดเชื้ออาจลามไปถึงหลอดอาหารและแพร่ผ่านกระแสเลือดไปยังอวัยวะอื่นๆ ได้
ดังนั้นการรักษาที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็วจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะผู้ป่วยที่ติดเชื้อราแล้วปล่อยไว้ไม่รับการรักษา การติดเชื้อจะรุนแรงขึ้นจนนำไปสู่การติดเชื้อชนิดแคนดิดา อัลบิแคนส์ (Candida albicans) ซึ่งเป็นเชื้อร้ายแรงได้
หากผู้ป่วยเข้าสู่ภาวะนี้แล้วจะเรียกว่า "ภาวะติดเชื้อเข้ากระแสเลือด (invasive candidiasis)"
นอกจากนี้เข็มพลาสติกที่ใช้ฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำ หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ ที่มีเชื้อชนิดแคนดิดาปนเปื้อนอยู่ ก็สามารถทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อจนเข้าสู่ภาวะติดเชื้อเข้ากระแสเลือดได้เช่นกัน
เพราะในความเป็นจริงนั้น เชื้อยีสต์ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดมากถึง 10% เป็นเชื้อที่ได้รับมาจากโรงพยาบาล เราสามารถเรียกโรคแบบนี้ได้อีกชื่อว่า "โรคติดเชื้อในโรงพยาบาล (Nosocomial infection)"
อาการของภาวะติดเชื้อเข้ากระแสเลือด
ผู้ป่วยที่มีภาวะติดเชื้อกระแสเลือดจะมีอาการไข้ขึ้นสูง และหนาวสั่น แต่จะไม่มีอาการที่เฉพาะเจาะจงมากนัก และอาการก็มักขึ้นอยู่กับว่า ติดเชื้ออยู่ที่อวัยวะใด
การรักษาด้วยยาต้านเชื้อราในช่องปาก หรือการฉีดยาทางหลอดเลือดดำจะใช้เวลาอยู่หลายสัปดาห์
นอกจากนี้โรคเชื้อราในปากก็อาจส่งสัญญาณของอาการ หรือโรคบางอย่างที่แพทย์ยังตรวจไม่พบได้อีกด้วย เช่น โรคเบาหวาน หรือการติดเชื้อในผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (Human Immunodeficiency Virus: HIV) ซึ่งมักพบได้น้อย
จะป้องกันโรคเชื้อราในปากได้อย่างไร
วิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นเชื้อราในปาก ได้แก่
- ถ้าใส่ฟันปลอม ต้องทำความสะอาดฟันปลอมอยู่เสมอ และถอดเวลาเข้านอน
- ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ปากแห้ง คอแห้ง น้ำลายน้อย จะทำให้ยีสต์เจริญเติบโตได้ดี ดังนั้นน้ำลายเทียมจึงอาจช่วยได้ในบางครั้ง
- ถ้ามีโรคประจำตัวที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเชื้อราในช่องปาก เช่น โรคเบาหวาน ต้องพยายามควบคุมไม่ให้โรคกำเริบ
- ไม่สูบบุหรี่
- รับประทานยาต้านเชื้อราให้ครบถ้วนตามแพทย์สั่ง
ถ้าสังเกตเห็นสัญญาณ หรืออาการใดๆ เกี่ยวกับเชื้อราในปาก ต้องไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการรักษาโดยด่วน ก่อนที่เชื้อราจะลุกลามและก่อให้เกิดการติดเชื้ออย่างรุนแรงตามมา
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจสุขภาพสำหรับผู้หญิงและผู้ชาย จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกการอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android
เป็นไข้หวัดใหญ่ชนิดเดียวกันในช่วงๆเวลาใกล้กันได้หรือไม่คะ