August 18, 2019 22:58
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
สำหรับการใช้ถุงยางอนามัย มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ครับ หากใช้ไม่ถูกวิธี การใช้ถุงยางอนามัยมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 2-18% ครับ ขึ้นกับการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องหรือไม่ กล่าวคือ ไม่ควรนำอวัยวะเพศชายสอดใส่ในอวัยวะเพศหญิงก่อนสวมถุงยางครับเนื่องจากในน้ำหล่อลื่นเพศชาย อาจมีตัวอสุจิปนเปื้อนอยู่ครับ และถุงยางอนามัย ต้องไม่รั่ว ไม่ฉีกขาดครับ
ถ้าใช้อย่างถูกต้องโอกาสการตั้งครรภ์เหลือเพียงประมาณ2%ครับ
ดังนั้น ถ้าคนไข้ใช้อย่างถุกต้อง ถุงยางไม่รั่ว ไม่ขาด โอกาสการตั้งครรภฺ จึงน้อยมากๆ คนไข้สบายใจได้ครับ
โดยปกติ รอบเดือนของเรา จะคลาดเคลื่อนอยู่ระหว่าง 21-35 วัน (บวกลบเจ็ดวันจากรอบก่อนๆ ) อยู่แล้วครับ ถ้ายังอยู่ในช่วงนี้ ก็ยังถือว่าปกติครับ แต่ถ้ามีความเครียด วิตกกังวล ซึ่งเกิดขึ้นได้ในคนทั่วไป ก็อาจทำให้คลาดเคลื่อนไปได้อีกครับ
ในกรณีประจำเดือนไม่มาตามปกติ หรือ ประจำเดือนขาดไป
-ถ้าคนไข้มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน การใช้ถุงยางอนามัย หรือการคุมกำเนิดวิธีอื่นๆไม่ถูกต้อง หรือ ผิดพลาด เช่น ถุงยางอนามัยรั่วซึม หรือ การหลั่งนอก ก็อาจตั้งครรภ์ได้ เบื้องต้นแนะนำว่า ให้ตรวจการตั้งครรภ์ก่อนนะครับ โดยการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะด้วยตนเอง สามารถตรวจได้ตั้งแต่ 14 วันหลังมีเพศสัมพันธ์ครับ
(การตรวจนั้น ต้องตรวจถุกต้องตามคำแนะนำและระยะเวลาที่เหมาะสมด้วยนะครับจึงจะเชื่อถือได้ครับ)
-ถ้าคนไข้ไม่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เลยหรือตรวจการตั้งครรภ์แล้วไม่พบการตั้งครรภ์. ปัจจัยที่จะทำให้ประจำเดือนที่เคยมา แล้วไม่มา หรือผิดปกติ มีหลายอย่างครับ ตัวอย่าง เช่น
1.ความเครียด การอดอาหารนานๆ และการออกกำลังกายอยางหักโหมมากเกินไป ทำให้ประจำเดือนขาดได้ครับ พบได้บ่อยที่สุด
2.การใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาคุมกำเนิด แบบฉีด หรือยาบางอย่าง เช่น ยารักษาโรคทางจิตเวช
3.โรคทางระบบสืบพันธ์บางชนิด เช่น ถุงน้ำรังไข่ ( PCOS) อาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ หรือ การ ติดเชื้อ ทางเพศสัมพันธ์ อาจมำให้มีอาการปวดท้อง หรือ ตกขาว ที่ผิดปกติได้ ซึ่ง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย
4.ฮอร์โมน ไทรอยด์ผิดปกติ ซึ่งจะต้องทีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ใจสั่น กินจุ น้ำหนักลด หรือ ฮอร์โมนจากรังไข่ผิดปกติ อาจทำให้ไม่เกิดการตกไข่ ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไม่มา หรือมาแบบกระปริบกระปรอย เป็นต้นครับ
5. โรคทางการกินที่ผิดปกติ (anorexia) ซึ่งเป็นโรคทางจิตเวชอย่างหนึ่ง หากอดอาหาร หรือทานอาหารไม่ถูกวิธีนานๆ จะทำให้ขาดประจำเดือนได้ครับ
ถ้าคนไข้มีอาการต่างๆที่ผิดปกติดังที่กล่าวไป แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายหรือตรวจภายในเพิ่มเติมนะครับ
หากประจำเดือนมาล่าช้ากว่าปกติ และไม่ได้เป็นมาติดต่อกันนานเกิน 3 ครั้ง ก็ให้รอดูอาการก่อนได้ครับ หากเกิน 3 เดือนประจำเดือนไม่มา แนะนำให้ไปตรวจร่างกาย และตรวจภายในเพิ่มเติมนะครับ
อนึ่ง การทำใจให้สบาย พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ระมัดระวังเรื่องการใช้ยาหรืออาหารเสริมที่แพทย์ไม่ได้สั่ง และออกกำลังกาย จะช่วยให้สมดุลฮอร์โมนดีและทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
สวัสดีครับ
เบื้องต้นหากมีประวัติมีเพศสัมพันธ์ในรอบเดือนที่ผ่านมาแล้วขาดประจำเดือน สงสัยว่าตั้งครรภ์ สามารถหาซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์มาทดสอบได้ด้วยตนเองครับ
__________________________
สาเหตุของการขาดประจำเดือน เป็นได้หลายสาเหตุครับ เช่น
- กำลังตั้งครรภ์อยู่ สามารถลองซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทั่วไปมาลองตรวจดูด้วยตนเองได้ครับ
- กำลังให้นมบุตรอยู่
- ความเครียด
- การมีพังผืดในมดลูก (Asherman’s syndrome) มักจะสัมพันธ์กับประวัติเคยขูดมดลูกมาก่อน
- การมีระดับฮอร์โมนเพศชายที่สูงกว่าปกติ (Hyperandrogenism) มักสัมพันธ์กับการมีหน้ามัน สิวมาก มีขนขึ้นมากผิดปกติ เช่น โรค Polycystic ovarian syndrome
- การมีระดับฮอร์โมนเพศต่ำกว่าปกติ (Hypogonadism) เช่น รังไข่เสื่อม ไม่มีการตกไข่
- การเป็นโรคไทรอยด์
สาเหตุต่างๆที่ได้กล่าวไปเป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ซึ่งการวินิจฉัยต้องอาศัยการซักประวัติ และตรวจร่างกายเพิ่มเติมครับ ดังนั้นถ้าสงสัยหรือกังวลแนะนำให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจและให้การรักษาครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าหากทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ได้ใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้องแล้วก็จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 2% เท่านั้นครับ
ถ้าหากประจำเดือนเพิ่งมาช้าไปไม่นานหมอก็แนะนำให้ใจเย็นๆและรอสังเกตประจำเดือนต่อไปก่อน เนื่องจากความเครียดนั้นอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ประจำเดือนมาช้าได้ครับ
แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานมากก็อาจลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูให้แน่ใจได้ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
ถ้าใช้ถุงยางอย่างถูกต้อง และถูกวิธี มีโอกาสตั้งครรภ์น้อยกว่า 5% ครับ
การที่มีประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอนั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- มีปัญหาการตกไข่ที่ไม่สม่ำเสมอ
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- รังไข่ผิดปกติ เช่น การมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่
- ความเครียด/วิตกกังวล/อารมณ์แปรปรวน
- การออกกำลังกายที่หนักเกินไป
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- ตั้งครรภ์
เป็นต้นครับ
ในเบื้องต้นแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์
, จดบันทึกรอบประจำเดือนให้ชัดเจน และไปพบแพทย์สูตินรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัด เพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
แล้วถ้าก่อนที่เค้าจะเสร็จแล้วเค้าดึงออกมาเสร็จข้างนอกก่อนจะมีโอกาสตั้งครรภ์ไหมคะแต่ทุกครั้งที่มีอะไรเค้าใส่ถุงยางตลอด ตรวจสอบถุงยางแล้วไม่รั่ว ไม่ขาดค่ะ ถุงยางก็ยังไม่หมดอายุ ตอนนี้ครบ1อาทิตย์แล้วค่ะที่มีอะไรกัน แต่ตอนนี้ประจำเดือนยังไม่มาค่ะ โดยปกติประจำเดือนจะมาวันที่13หรือ15ค่ะ แต่ตอนนี้ไม่มีวี่แววที่ประจำเดือนจะมาเป็นไปได้มั้ยคะที่เราเครียดจนประจำเดือนไม่มา
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
โดยการมีเพศสัมพันธ์ด้วยวิธีหลั่งข้างนอก จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 20%
ส่วนวิธีถุงยางอนามัยจะน้อยกว่า 5% ครับ
ถ้าประจำเดือนไม่มา เบื้องต้นแนะนำให้ซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตนเองมาทดสอบครับ โดยเก็บปัสสาวะหลังตื่นนอนซึ่งเป็นปัสสาวะใหม่ครับ โดยตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 2 สัปดาห์
และถ้าผลลบแนะนำให้ทดสอบซ้ำอีกครั้งหลังจากครั้งแรกอย่างน้อย 2-3 วัน หรือ 1 สัปดาห์ครับ (อาจเปลี่ยนยี่ห้อการตรวจครับ)
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถ้าหากถุงยางอนามัยไม่มีการแตกรั่ว โอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้น้อยมากครีบ
อย่างไรก็ตามถ้าหากมีประจำเดือนขาดหายไปหมอก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูเพื่อความแน่ใจก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
การหลั่งภายนอก มีโอกาสการตั้งครรภ์ร้อยละ 4-27 ครับ หากเป็นการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกันครับ ในกรณีผู้ถามมีการใส่ถุงยางซึ่งโอกาสน้อยประมาณ 2% ครับที่จะทำให้ตั้งครรภ์ เบื้องต้นแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ก่อนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
การมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งนอกจะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 4-27% ครับ แต่ในกรณีของผู้ถามนั้นเป็นการหลั่งนอกโดยใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยจึงไม่สามารถใช้ตัวเลขนี้ในการประเมินความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ได้ครับ
ในกรณีที่มีการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์โดยสามารถใช้ได้อย่างถูกต้องและถุงยางอนามัยไม่มีการแตกรั่วโอกาสที่จะผิดพลาดตัืงครรภ์ก็จะมีไม่เกิน 2% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ณัฐชยา รอดแป้น (พญ.)
สวัสดีค่ะ
ไม่มีการคุมกำเนิดวิธีใดที่คุมได้ 100% ค่ะ มีแต่แบบไหนประสิทธิภาพสูงกว่ากัน อย่างเช่น ถุงยางอนามัยถ้าใช้ถูกวิธีมีโอกาสตั้งครรภ์ประมาณ 2-5% เทียบกับการรับประทานยาคุมที่มีโอกาสตั้งครรภ์ประมาณ 0.3% ส่วนประเด็นประจำเดือนเลื่อนหรือมาไม่ตรงสามารถเกิดจากสาเหตุได้ดังนี้ค่ะ
แต่ต้องแยกออกไปก่อนนะคะว่าไม่ได้ตั้งครรภ์
1.ความเครียด การอดอาหาร และการออกกำลังกายอย่างหนักมากเกินไป มีผลทำให้ประจำเดือนขาดหรือเคลื่อนได้ค่ะ
2.การใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาคุมกำเนิด แบบฉีด หรือยาบางอย่าง เช่น ยารักษาโรคทางจิตเวช
3.โรคทางระบบสืบพันธ์บางชนิด เช่น ถุงน้ำรังไข่ ( PCOS) อาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้คะ PCOS มักพบในคนน้ำหนักเกินมีภาวะอ้วนค่ะ
4.ไทรอยด์ผิดปกติ ซึ่งจะต้องมีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ใจสั่น กินจุ น้ำหนักลด หรือ ฮอร์โมนที่หลั่งจากต่อมใต้สมองมาควบคุมรังไข่ผิดปกติ อาจทำให้ไม่เกิดการตกไข่ ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ค่ะ
และถ้าประจำเดือนขาดไปเป็นเวลา 3 เดือน ถือว่ามีภาวะ amenorrhea ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะคุณหมอ คือมีอะไรกับแฟนมา3ครั้งแล้ว แต่ทุกครั้งที่มีอะไรกันใส่ถุงตลอดค่ะ ครั้งแรกยังไม่เรียบร้อยในการมีอะไรกันค่ะ แต่ครั้งที่2-3 คือทางแฟนเขาเรียบร้อยไปก่อน แต่ก่อนที่เขาจะเรียบร้อยเสร็จ เขาก็ดึงอวัยวะเพศเขาออกมาก่อนค่ะ แบบนี้มีโอกาสท้องมั้ยคะ แต่มีอะไรกันเสร็จ ก็ไม่ได้กินยาคุมนะคะ ตอนนี้เครียดมากค่ะ ประจำเดือนของเดือนนี้ยังไม่มา แต่ดูเหมือนจะมีตกขาวนะคะ ที่ประจำเดือนไม่มาเป็นเพราะความเครียดรึป่าวคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)