August 27, 2019 10:47
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
อาการหน้ามืดบ่อยๆ วูบ เวียนหัว มีหลายสาเหตุครับ
ตั้งแต่
-สาเหตุทางหัวใจ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจเต้นช้า หัวใจเต้นเร็ว คนไข้อาจมีอาการหน้ามืด ใจสั่น เป็นลมได้บ่อยๆ หรือมีความดัยโลหิตสูง หรือต่ำมากกว่าปกติ ก็อาจทำให้มีอาการหน้ามืดได้เช่นกัน
-สาเหตุทางระบบประสาท คนไข้อาจมีอาการปวดหัว ตามัว มองเห็นภาพซ้อน หรือมีแขนขาอ่อนแรง ชาแขนขา เป็นต้น ซึ่งอาจทำให้ทีอาการชัก อาจเป็นชักเกร็งทั่งตัว ชักเหม่อ หมดสติ ก็เป็นได้ ซึ่ฝนอกจากต้องตรวจร่างกายทางระบบประสาทอย่างละเอียดแล้ว อาจต้องตรวจตาด้วยค่ะ เช่น ไม่ได้มีภาวะตาเอียง ตาสั่นหรือยาว เป็นต้น
-ระบบต่อมไร้ท่อ เช่น น้ำตาลต่ำ น้ำตาลสูงกว่าปกติ จากโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน คนไข้อาจมีอาการปัสสาวะบ่อยมากจนหน้าทืดเป็นลม ,ภาวะไทรอยด์สุง (hyperthyroid) ในกรณีของ Hyperthyroid คนไข้อาจมีปัญหาร่วม เช่น เหงื่อออกมาก ใจสั่น ถ้าจะให้ชัดเจน คนไข้อาจมีตาโปนมากขึ้น น้ำหนักลด ถ่ายเหลวบ่อย เป็นต้นครับ
กรณีนี้แนะนำให้ไปตรวจร่างกายและไทรอยด์เพิ่มเติม
***ขอให้ระมัดระวังเรื่องการใช้ยาด้วยนะครับ ถ้ามีการใช้ยาที่ไม่ได้ปรึกษาแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยาลดน้ำหนัก มักผสมฮอร์โมนไทรอยด์ลงไป เพื่อหวังผลการลดน้ำหนัก อาจทำให้คนไข้มีอาการคล้ายๆไทรอยด์สุว ทำให้ฮอร์โมนแปรปรวน อันตรายถึวชีวิตครับ
-อาการโลหิตจางที่เป็นมากๆ อาจทำให้มีอาการหน้ามืดใจสั่นได้ค่ะ รวมถึง การเสียเลือดมากอื่นๆด้วย เช่น ประจำเดือนมามาก อุบัติเหตุที่ทำให้เลือดออกมากๆ ถ่ายเป็นเลือดมากๆ ทาลัสซีเมียที่เม็ดเลือดแดงแตกมาก เป็นต้น ดังนั้น หากมีอาการโลหิตจางแล้วมีอาการหน้าทืดใจสั่นร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจเลือดเพิ่ทเติม และอาจต้องได้รับเลือดครับ******
-สาเหตุเกี่ยวกับหูผิดปกติ เช่น โรคหินปูนในหู โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน คนไข้อาจมีอาการวิงเวียนศรีษะ หน้ามืด คลื่นไส้อาเจียนได้ครับ
-Vasovagal syncope เป็นสาเหตุที่เกิดจากหลายระบบร่วมกัน พบได้ค่อนข้างบ่อย มักหน้ามืดตามหลัง เช่น การยืนตากแดดนานๆ การเบ่งนานๆ เป็นต้น ถ้าเป็นครั้งสองครั้งแล้วหาย อาจให้การรักษาแบบประคับประคอง เล่น การดื่มน้ำ นั่งพัก หยุดเบ่ง แต่ถ้าเป็นบ่อยๆ ต่องไปพบแพทยืเพื่อหาสาเหตุครับ
-ภาวะจิตใจ เช่น ความเครียด ภาวะ hyperventilation อาจทำให้มีอาการหน้ามืด ใจสั่น ปวดศรีษะได้ หายใจเร็ว สัมพันธืกับควสมเครียด ความตื่นเต้นได้ค่ะ แต่จะวินิจฉัยภาวะนี้ได้ ต้องไม่มีโรคทางกายอย่างอื่นคครับ
จะเห็นได้ว่า ถเามีอาการหน้า มืดบ่อยๆ จำเป็นมากที่คนไข้ควรไปพบแพทย์ เนื่องจากแต่ละสาเหตุ ล้วนอันตรายและต้องการการรักษาและการวินิจฉัยที่ถูกต้องครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขอบคุณค่ะ ปกติแล้วจะเป็นคนที่ผอมมากกว่าค่ะ แล้สก็จะสรรหายาเพิ่มน้ำหนักมากินมากดว่าค่ะ แต่ก้ไม่อ้วนค่ะ เป็นคนที่กินเท่าไรก้ไม่อ้วนเลยค่ะ พอพักหลังๆมาไปไหนมาไหนก้จะเกิดอาการเวียนหัว หน้ามืดจะเป็นลมตลอดเวลาค่ะ หรือบางทีตื่นนอนมาก้จะบ้านหมุนจนต้องลางานค่ะ
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
เวียนศีรษะต้องแยกจากมึนศีรษะก่อน โดยเวียนศีรษะจะรู้สึกเหมือน สิ่งแวดล้อม/บ้านหมุน หรืออาจรู้สึกเหมือนตัวเองหมุน/โยก/โคลงเคลง เหมือนอยู่บนเรือ ส่วนมึนศีรษะจะมีความรู้สึกเหมือนงงๆ มึนๆทั่วหัว หรือหัวเบาๆ มีตาลาย ตาพร่า ขณะเปลี่ยนอิริยาบถจะมีอาการมากขึ้น
อาการเวียนศีรษะ ส่วนใหญ่จะเกิดจาก2สาเหตุ คือเวียนศีรษะจากระบบประสาทส่วนปลาย ซึ่งพบได้บ่อย เช่น โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน น้ำในหูไม่เท่ากัน อาการหูชั้นในอักเสบเฉียบพลัน โดยส่วนใหญ่มักจะเวียนศีรษะรุนแรง และมักมีคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย
ส่วนอีกแบบ คือเวียนศีรษะจากระบบประสาทส่วนกลาง เช่น หลอดเลือดในสมองขาดเลือด ก้อนเนื้องอกในสมอง สมองอักเสบ โพรงสมองคั่งน้ำ กลุ่มนี้มักเวียนศีรษะไม่รุนแรง คลื่นไส้อาเจียนไม่มากได้ มักมีอาการเสียการทรงตัว และเห็นภาพซ้อน พูดไม่ชัด ฯลฯ
นอกจากนั้น ถ้าเป็นแบบ ลุกขึ้นแล้วหน้ามืด อาจเป็นจากความดันต่ำ จากการ ขาดน้ำในร่างกาย เช่น ท้องเสีย, จากระบบเลือด เช่น ซีด เลือดจาง, จากหัวใจ/ต่อมหมวกไต ทำงานผิดปกติ หรือจาก ยาที่รับประทานอยู่ เป็นต้น
จะเห็นได้ว่าเรื่องของ อาการเวียนศีรษะสามารถเป็นได้หลายโรค แนะนำให้ไปพบแพทยเพื่อซักประวัติ ตรวจร่างกาย และส่งตรวจเพิ่มเติม เพื่อได้รับการรักษาและคำแนะนำอย่างเหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
เรียนคุนหมอ เคยไปโรงบาลมาสองรอบตอนไม่สบาย แต่หมอก้แค่ให้ยามาทาน จนตกดึกอ้วกก้เลยไปหาหมออีกครั้ง เรารู้ว่าร่างกายเราไม่ไหวแต่หมอก้ตรวจปกติฉีดยา อยากถามว่าการแอดมิทอยู่ที่การได้รับอนุญาตจากหมอหรือป่าวค่ะ ถ้าเราไม่ไหวเราสามารถแจ้งหมอเพื่อขอแอดมิทดูอาการได้ไหมค่ะ เพราะพี่ๆที่ทำงานก็บอกว่าทำไมหมอไม่ให้แอดมิทก้งง ก้เลยไม่เข้าใจว่ามันอยู่ที่หมออย่างเดียวหรือเปล่าค่ะ
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สำหรับเรื่อง ผอมนะครับ
เบื้องต้น ต้องพิจารณาเกี่ยวกับรูปร่างในปัจจุบันของคนไข้ก่อน ว่าเข้าข่าย ผอม หรือ สมส่วนครับ
โดยดูจาก ค่า BMI หรือ ดัชนีมวลกาย ในคนไทยผู้ใหญ่ปกติ ครับ
โดยคนที่รูปร่างสมส่วน ผู้ชาย BMI อยู่ระหว่าง 22-23 และผู้หญิง 19-20 ครับ
หากมี BMI ต่ำกว่า 18.5 ถือว่าผอม และหากผอมมากๆ เช่น BMI ต่ำกว่า 17 ควรหาสาเหตุครับ
(โปรแกรมคำนวณ BMI: https://www.honestdocs.co/bmi-body-mass-index-calculator)
คนไข้ที่ทีอาการคือ ผอม นอกจากเรื่องอาหาร วิถีชีวิตประจำวันแล้ว ยังต้องดูเรื่องโรคร่วมอย่างอื่นที่อาจเป็นสาเหตุของความผอมด้วยครับ
>>โรคที่เป็นสาเหตุของความผอมที่อยากแนะนำให้คนไข้สังเกตและตรวจเพิ่มเติม ได้แก่
- โรคไทรอยด์ สูง
คนไข้อาจมีอาการมือสั่น ใจสั่น เหงื่ออกมาก ความดันโลหิต สูง บางคน ถ่ายเหลวบ่อย ตาโปน บางคนอาจมีคอโตได้ครับ คนไข้จะกินจุ แต่น้ำหนักตัวน้อยครับ
- โรคติดเชื้อ ต่างๆ เช่น วัณโรค
การติดเชื้อ HIV คนไข้ที่มีความเสี่ยงกับโรคนั้นๆ เช่น ผู้มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน
- โรคตับ โรคไต เรื้อรัง
- วัณโรค ต่างๆ ได้แก่ วัณโรคปอด วัณโรคที่ต่อมน้ำเหลือง วัณโรคที่กระดูก ทำให้คนไข้ผอมลง บางคนทีอาการไอเรื้อรัง ปวดตามตัว ไข้ต่ำๆเกือบทุกวัน หรือมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยวัณโรคมาก่อนครับ
- พยาธิต่างๆ ทำให้มีอาการ ถ่ายเหลว เรื้อรัง
- โรคเบาหวาน ระยะแรกๆ ผู้ป่วยอาจมีอาการ หิวน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อย กินจุ น้ำหนักลดครับ ถ้าเป็นแบบนี้ควรไปตรวจน้ำตาลในเลือดครับ
- โรคความผิดปกติของการดูดซึมสารอาหารในลำไส้ เช่น เคยผ่าตัดมาก่อน ทำให้ลำไส้สั้นลง มีอาการถ่ายเหลวเรื้อรัง เป็นต้น
- โรคมะเร็งต่างๆ น้ำหนักลดอาจเป็นอาการไม่เฉพาะเจาะจง แต่ถ้ามีอาการอื่นมาก่อน ร่วมกับมีน้ำหนักลดอย่างรวดเร็วเป็นหลักเดือน ก็จะทำให้นึกถึง โรคมะเร็ง ได้ครับ
- โรคทางจิตใจ เช่น anorexia , โรคซึมเศร้า
***หากคนไข้มีอาการผิดปกติดังที่กล่าวมา ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมนะครับ***
>>>>สำหรับการผอมที่ไม่ทีสาเหตุ หรือ การรับประทานอาหารไม่ถูกสัดส่วน แนะนำดังนี้ครับ<<<<<<
****- การรับประทานอาหารที่ไม่ถูกสัดส่วน/ไม่เพียงพอ หลังจากที่ได้ตรวจร่างกาย ซักประวัติ ตรวจเลือด เพื่อยกเว้นสาเหตุทางกายที่เป็นไปได้ทั้งหมดของความผอมที่ผิดปกตินั้น จึงจะเข้าสู่การปรับการกินอาหารให้เหมาะสมครับ ได้แก่
>การทานอาหารให้ตรวเวลา ครบสามมื้อ
> อาหารอาจเน้นที่พลังงานสูง ไม่ทานของที่ไม่มีประโยชน์ เช่น ขนมซอง น้ำอัดลม เป็นต้น อาจแบ่งเป็นมื้อเล็กๆ ทานอาหารที่มีคุณค่า เช่น ขนมไทย ซาลาเปา นม เป็นต้นครับ
>นอกจากนี้ หากไม่มีโรคประจำตัวอื่นๆ แนะนำให้ทานนมพลังงานสูง (นมชงสำหรับผู้ใหญ่ สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาค่ะ ) ทานเพิ่มวันละ 1-2 มื้อ เพื่อเพิ่มพลังงานและสารอาหารครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
สวัสดีค่ะ เกิดอาการเวียนหัว หน้ามืดบ่อยมาก เหนื่อยง่ายมาก และก้หายใจทีไรก้รุ้สึกไ่ม่ค่อยทั่วปอดเท่าไร บางวันเวลานอนก้จะแน่นหน้าอก เป็นแบบนี้มาบ่อยมาก เลยค่ะ จนทุกวันนี้ต้องพกยาหม่องกับยาหอมประจำเลยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)