ทำความรู้จักสตรอว์เบอร์รี
ชื่อสามัญ Strawberry
ชื่อวิทยาศาสตร์ Fragaria spp. จัดอยู่ในวงศ์ Rosaceae
สตรอว์เบอร์รีเป็นผลไม้สีแดงสดที่มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน มีกลิ่นหอม หาได้ง่ายในช่วงฤดูหนาว และยังมีสารอาหารหลากหลายที่ดีต่อสุขภาพ
สตรอว์เบอร์รี (Strawberry) มีหลากหลายสายพันธุ์ ในประเทศไทยมักจะนิยมปลูกพันธุ์พระราชทาน 70 พันธุ์พระราชทาน 72 และพันธุ์พระราชทาน 80 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น ทนต่อภูมิอากาศและการขนส่งได้เป็นอย่างดี สตรอว์เบอร์รี่เป็นผลไม้ที่คุณค่าทางโภชนาการสูง และมีสารอนุมูลอิสระหลายชนิด ประกอบด้วย เควอซิทิน (Quercetin) เคมเฟอรอล (Kaempferol) แอนโทไซยานิน (Anthocyanin)
เมื่อนำไปเทียบกับผลไม้ชนิดอื่นในเรื่องการช่วยต้านอนุมูลอิสระพบว่า สตรอว์เบอร์รีจะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่าส้มถึงหนึ่งเท่าครึ่ง มากกว่าองุ่นแดง 2 เท่า มากกว่ามะเขือเทศ 7 เท่า มากกว่ากล้วยหอม 7 เท่า และมากกว่าลูกแพรถึง 15 เท่า
คุณค่าทางโภชนาการของสตรอว์เบอร์รี
สตรอว์เบอร์รี 100 กรัม มีพลังงาน 33 กิโลแคลอรี และมีคุณค่าทางโภชนาการดังนี้
- คาร์โบไฮเดรต 7.68 กรัม
- โปรตีน 0.67 กรัม
- ไขมัน 0.3 กรัม
- น้ำ 90.95 กรัม
- ใยอาหาร 2 กรัม
- แคลเซียม 16 มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก 0.41 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 153 มิลลิกรัม
- แมงกานีส 13 มิลลิกรัม
- สังกะสี 0.14 มิลลิกรัม
- ฟลูออไรด์ 4.4 ไมโครกรัม
- วิตามินซี 58.8 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 1 0.024 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 2 0.022 มิลลิกรัม
- วิตามินเค 2.2 ไมโครกรัม
- โคลีน 5.7 มิลลิกรัม
- วิตามินอี 0.29 มิลลิกรัม
สรรพคุณของสตรอว์เบอร์รีต่อสุขภาพ
- ลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ มีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกาว่าสตรอว์เบอร์รีสามารถลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ 32 % ในหญิงวัยกลางคน
- ลดความเสี่ยงการเป็น stroke
- ป้องกันมะเร็ง ในสตรอว์เบอรรี มี Antioxidant สูง มีผลทำให้ลดอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของมะเร็ง
- ลดความดันโลหิตสูง ในสตรอว์เบอรรีมีโพแตสเซี่ยมสูงทำให้ไปลดโซเดียมที่ทำให้เป็นความดันสูง นอกจากนี้ยังมีสารฟลาโวนอยด์ที่ มีคุณสมบัติในการควบคุมระดับความดันโลหิตในเลือดให้สมดุล
- ป้องกันอาการอักเสบ จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดพบว่า สารต้านอนุมูลอิสระในสตรอว์เบอร์รี่ สามารถลดอาการเจ็บปวดจากโรคที่เกิดการอักเสบภายในร่างกายลง เช่น โรคเกาต์ โรคข้อเสื่อม นอกจากนี้สารพฤกษเคมีที่พบในสตรอว์เบอร์รี่ ยังมีคุณสมบัติกำจัดกรดยูริก ที่เป็นสาเหตุของอาการเจ็บปวดตามข้ออีกด้วย
- ป้องกันสมองเสื่อม สารโคลีนที่พบในสตรอว์เบอร์รี สามารถลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุได้ และยังช่วยเพิ่มการทำงานของสมองในส่วนความจำมากขึ้น
- ลดการสะสมไขมัน สตรอว์เบอร์รีมีคุณสมบัติกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนอะดิโปเนกติน และฮอร์โมนเลปติน ซึ่งฮอร์โมนทั้งสองชนิดนี้ ช่วยกระตุ้นระบบการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ทำให้ไขมันที่สะสมในร่างกายลดลง
- ลดคอเลสเตอรอล สตรอว์เบอร์รีมีสารเพคตินซึ่งเป็นไฟเบอร์ชนิดหนึ่งที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ดี นอกจากนี้วิตามินซี ยังช่วยขจัดคอเลสเตอรอลที่เกาะอยู่ตามผนังหลอดเลือดอีกด้วย จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคต่าง ๆ ที่เกิดจากไขมันอุดตันในหลอดเลือด
- กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน การรับประทานสตรอว์เบอร์รีจะกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
สรรพคุณของสตรอว์เบอร์รีต่อผิวพรรณ
- ทำให้ผิวพรรณสดใส จากผลการศึกษาวิจัยพบว่า วิตามินซีในสตรอว์เบอร์รี มีส่วนช่วยลดริ้วรอย ป้องกันริ้วรอย ทำให้ผิวพรรณสดใส และชะลอความเสื่อมของผิวได้ดี
- ช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจน จึงช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยได้เป็นอย่างดี
- ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ด้วยการนำผลสตรอเบอร์รี่สดมาฝานบาง ๆ วางให้ทั่วบริเวณใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
- ใช้ทำความสะอาดผิวหน้า ด้วยการใช้สตรอเบอร์รี่ประมาณ 3 ผล ผสมกับน้ำมะนาว แล้วนำมานวดทาบริเวณใบหน้าแล้วล้างออก ซึ่งจะช่วยทำความสะอาด ปรับสภาพผิว และลดการอุดตันของรูขุมขนได้
- เป็นผลไม้ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ต้องการจะลดน้ำหนักและความอ้วน เพราะมีพลังงานต่ำ
เมนูสุขภาพจากสตรอว์เบอร์รี
สตรอว์เบอร์รีสามารถนำมาประกอบอาหารได้ทั้งอาหารคาว และอาหารหวาน ดังนี้
- ยำสตรอว์เบอร์รี ลวกกุ้งเตรียมไว้ ผสมพริกตำ น้ำมะนาว น้ำปลา หัวหอมใหญ่และสตรอว์เบอร์รีหั่นลงไป ในชาม เคล้าทุกอย่างให้เข้ากันอย่างเบามือ ระวังอย่าให้สตรอว์เบอร์รีช้ำ ตักใส่จาน ยกขึ้นเสิร์ฟ
- โยเกิร์ตสตรอว์เบอร์รี นำเจลาตินไปแช่ในน้ำเย็นจัดประมาณ 5 นาที ระหว่างรอ นำสตรอว์เบอร์รีไปปั่นให้ละเอียด แล้วเทใส่ลงไปในถ้วยเซรามิก ใส่น้ำเลมอนและน้ำตาลทรายลงไป อบในไมโครเวฟที่ความร้อน 600 w นาน 3 นาที นำออกจากไมโครเวฟแล้วผสมเจลาตินลงไป คนจนละลายแล้วพักไว้ให้เย็น เติมวิปปิ้งครีมที่ตีแล้วลงไปในชามสตรอว์เบอร์รี ผสมให้เข้ากัน แช่ทิ้งไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 4 ชั่วโมง จึงจะรับประทานได้
- สตรอว์เบอร์รีชีสเค้ก นำบิสกิตไปบดให้ละเอียด ละลายเนยมาผสมกับบิสกิตบด ตักใส่แก้วหรือจานแล้วเกลี่ยให้เนียน นำไปแช่ไว้ในตู้เย็น 30 นาที ผสมโยเกิร์ต น้ำตาลไอซ์ซิ่ง กลิ่นวานิลลา ครีมชีสให้เข้ากันจนเนื้อเนียน ให้นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงไปในแก้วที่ใส่บิสกิต แล้วใส่สตรอว์เบอร์รีลงไป แช่เย็นอีกสักพัก พร้อมรับประทานทันที
- สตรอว์เบอร์รีมิลค์เชค ใส่สตรอว์เบอร์รีลงไปในโถปั่น ตามด้วยนมสดรสหวาน น้ำแข็ง ไอศกรีมวานิลลา ปั่นให้ทุกอย่างเข้ากันด้วยความความเร็วสูงสุด เมื่อทุกอย่างเข้ากันแล้ว ตักใส่แก้ว แต่งหน้าด้วยสตรอว์เบอร์รีสด
ข้อควรระวัง
ในสตรอว์เบอร์รี่มีสารประกอบซาลิไซเลตสูงมาก จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ยาแอสไพริน รวมถึงผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารด้วย เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและเป็นอันตรายได้
สรุป
สตรอว์เบอร์รีเป็นผลไม้ที่มีแคลอรีต่ำ รสชาติอร่อยและดีต่อสุขภาพ เพราะอุดมด้วยวิตามินและเกลือแร่และสารสำคัญต่างๆ มีผลดีต่อร่างกายมากมาย เช่น ลดไขมัน ลดความดันโลหิต ลดการอักเสบ เป็นต้น