โรคลักปิดลักเปิด (Scurvy) หรือโรคขาดวิตามินซี เป็นโรคที่พบได้ในทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่ขาดา่อาหารที่มีความเหมาะสมต่ออายุ เช่น โปรตีน ธาตุเหล็ก รวมถึงผู้สูงอายุที่ขาดคนดูแล สาเหตุหลักๆ ของการเกิดโรคลักปิดลักเปิดเกิดจากการที่ร่างกายขาดวิตามินซีอย่างรุนแรงเป็นระยะเวลานาน หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาการจะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคลักปิดลักเปิด
- หญิงตั้งครรภ์และอยู่ระหว่างให้นมบุตร
- ทารกในครรภ์มารดาที่มีภาวะขาดสารอาหาร
- ทารกและเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 1 ปี ซึ่งมารดาเลี้ยงด้วยนมข้นหวาน นมข้นจืด นมวัวเจือจาง เพียงอย่างเดียว รวมทั้งทารกที่รับประทานนมมารดาแต่ไม่ได้รับอาหารเสริมตามช่วงวัย
- กลุ่มผู้สูงอายุที่ขาดคนดูแลเอาใจใส่ ไม่ได้รับประทานผักและผลไม้
- กลุ่มคนที่ขาดการรับประทานผลไม้ ผัก ที่มีวิตามินซีสูง
- กลุ่มคนที่ติดสุรา ยาเสพติด และบุหรี่
- กลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็ง โรคเรื้อรังต่างๆ โรคติดเชื้อต่างๆ
- กลุ่มผู้ป่วยโรคซีมเศร้า โรคลมชัก
- กลุ่มผู้ป่วยโรคไตวายและต้องฟอกไต
อาการของโรคลักปิดลักเปิด
- เบื่ออาหาร
- อ่อนเพลีย มีอาการเหนื่อยง่ายโดยไม่รู้ตัว พร้อมทั้งกระสับกระส่ายจนผิดสังเกต
- ซึม ซีด ถ่ายเหลว ท้องเสียเรื้อรังและรุนแรง ทำให้ผอมลงเรื่อย ๆ หรือน้ำหนักไม่ขึ้นไปจากเดิม
- เด็กเล็กที่มีฟันและกระดูกที่ผิดรูปร่าง
- มีอาการปวดตามกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะในส่วนของกล้ามเนื้อขา
- มีเหงือกบวม มีอาการบาดเจ็บที่เหงือก จนเป็นสาเหตุที่ทำให้เลือดออกได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วงเวลาแปรงฟัน หรือรับประทานของแข็งๆ มีเลือดออกตามไรฟัน
- กลุ่มคนที่มีเลือดออกตามข้อ ส่งผลทำให้ข้อบวมและอักเสบ
- ผู้ที่มีเลือดออกในตา ส่งผลทำให้ตาบวม
- มีอาการห้อเลือด หรือจุดเลือดได้ง่าย แถมยังมีผื่นคัน พร้อมทั้งจุดแดงๆ จากเลือดออกตามตัว คล้ายกับผื่นที่เกิดขึ้นจากโรคไข้เลือดออก
- ผิวหนังอาจมีลักษณะหยาบและมีตุ่มรอบรูขุมขน
ความรุนแรงของโรคลักปิดลักเปิด
ในทารกและเด็กเล็กอาจส่งผลต่ออัตราการงอกของกระดูก หากขาดวิตามินซีนานๆ อาจนำไปสู่ภาวะซีดได้ เนื่องจากวิตามินซีมีหน้าที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมของธาตุเหล็ก นอกจากนี้ในรายที่อาการรุนแรงมากอาจเกิดเลือดออกในสมองจนเป็นอันตรายแก่ชีวิตได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
การวินิจฉัยโรคลักปิดลักเปิด
- ซักประวัติการรับประทานอาหาร เพื่อดูว่ามีภาวะขาดสารอาหาร ขาดวิตามินซี หรือไม่
- ตรวจร่างกาย
- ตรวจเหงือกและฟัน
- เอกซเรย์กระดูกเพื่อดูการเจริญเติบโตของกระดูก
- ตรวจระดับของวิตามินซีในพลาสมาและเลือด
นอกจากจะมีการวินิจฉัยอาการในเบื้องต้นแล้ว แพทย์อาจให้วิตามินซีเสริมให้กับผู้ป่วย หากมีอาการดีขึ้นหลังรับประทานวิตามินซีถือได้ว่า ผู้ป่วยเป็นโรคลักปิดลักเปิดโดยแท้จริง
วิธีรักษาโรคลักปิดลักเปิด
- ให้วิตามินซีพร้อมทั้งวิตามินเสริมอาหารให้เพียงพอในแต่ละวันจนกว่าผู้ป่วยจะมีอาการกลับมาเป็นปกติ สำหรับเด็ก รับประทานวิตามินซีประมาณวันละ 150-300 กรัม เป็นเวลา 1 เดือน ส่วนผู้ใหญ่รับประทานวิตามินซีประมาณวันละ 800-1000 มิลลิกรัม เป็นเวลา 1 สัปดาห์
- หากรับประทานวิตามินซีไม่ได้อาจใช้การฉีดวิตามินซีเข้าทางหลอดเลือดดำแทน
- กำจัดปัจจัย หรือโรคร่วมที่อาจทำให้นำไปสู่การขาดวิตามินซี การรักษาในรูปแบบนี้มักจะรักษาร่วมกับการเพิ่มอาหารประเภทผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงเพื่อป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นได้อีก
ส่วนมากแล้วผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาการเลือดออกตามไรฟันและอาการทางผิวหนังจะดีขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง ส่วนร่องรอยเลือดออก หรือห้อเลือดจะค่อยๆ ดีขึ้นหลังจากนั้นหลายสัปดาห์
วิธีดูแลตนเอง เมื่อรู้ว่าเป็นโรคลักปิดลักเปิด
- พยายามรับประทานวิตามินซีเสริมอาหาร ตามคำแนะนำ หรือคำสั่งจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- พยายามรับประทานผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงให้มากๆ เช่น ส้ม ฝรั่ง มะละกอ สับปะรด มะม่วง
- พยายามเข้าพบแพทย์ตามนัด
- หากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นอีก หลังจากที่ได้เข้ารับการรักษาด้วยวิธีต่างๆ แล้ว หรืออาจมีอาการแย่ลงกว่าเดิม ควรรีบพบแพทย์ก่อนนัด
การป้องกันโรคลักปิดลักเปิด
สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่รับประทานผักและผลไม้ให้มากยิ่งขึ้น อาจรับประทานในทุกๆ มื้ออาหาร หรืออาจจะเลือกรับประทานในลักษณะของอาหารว่างก็ได้ หากใครอยากรับประทานวิตามินซีเพื่อป้องกันโรคลักปิดลักเปิดสามารถรับประทานวิตามินซีในปริมาณตั้งแต่ 500 มิลลิกรัมขึ้นไปต่อวัน แต่การรับประทานวิตามินซีในปริมาณสูงเป็นระยะเวลานาน คุณควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรให้ดีเสียก่อน เนื่องจากอาจจะมีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้นั่นเอง
ถึงแม้ว่าโรคลักปิดลักเปิดจะเป็นโรคที่ไม่รุนแรงถึงแก่ชีวิต แต่หากป่วยด้วยโรคนี้แล้วไม่ได้เข้ารับการรักษาอย่างถูกต้องย่อมส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ แต่คุณสามารถป้องกันตนเองได้ เพียงแค่รับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ