ฤดูฝนอันชุ่มฉ่ำมาที่่มาพร้อมกับอากาศอันชื้นแฉะ เป็นโอกาสอันดีที่เชื้อโรคจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและแพร่ระบาดได้อย่างรุนแรง โดยเฉพาะ “เด็ก” ที่ภูมิต้านทานโรคยังมีไม่มากพอซึ่งมีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่าย มาดูกันว่า 5 โรคอันตรายสำหรับเด็กที่มากับหน้าฝนมีอะไรบ้าง เพื่อหาวิธีรับมือและป้องกันไม่ให้บุตรหลานตกเป็นเหยื่อของโรคเหล่านี้
รู้จักโรคอันตรายที่ต้องเฝ้าระวัง
- ไข้หวัดใหญ่
สาเหตุ : ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ซึ่งมีอยู่ 3 สายพันธุ์ ได้แก่ เอ บี และซี
อาการ : มีไข้ หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อตามเนื้อตัว อ่อนเพลีย คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอมาก ในเด็กทารกอาจมีอาการแทรกซ้อน เช่น ติดเชื้อรุนแรง ติดเชื้อในกระแสเลือดจนถึงช๊อคและเสียชีวิตได้
การป้องกัน : สำหรับเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป หรือเด็กที่มีโรคประจำตัวควรได้รับวัคซีนป้องกัน เพราะหากติดเชื้อไข้หวัดใหญ่อาจมีภาวะแทรกซ้อนได้สูง - มือเท้าปาก
สาเหตุ : ติดเชื้อไวรัสในกลุ่มเอนเทอไวรัสมีหลายสายพันธุ์ โดยไวรัสชนิด EV71 จัดเป็นชนิดที่มีความรุนแรงสูง
อาการ : เจ็บปาก มีแผลเล็กๆ หลายจุดในปากก่อน อาจมีไข้ร่วมด้วย อาเจียน ท้องเสีย ต่อมาจะเริ่มมีตุ่มน้ำใสๆ ตามฝ่ามือฝ่าเท้า ก้น หรือตามลำตัว
ความรุนแรง : อาจเกิดปัญหาแทรกซ้อนทางสมอง เช่น เยื่อหุ้มสมอง เนื้อสมอง ไขสันหลังอักเสบ และมีอาการเกี่ยวกับหัวใจ เช่น ภาวะหายใจและหัวใจล้มเหลวได้ จนนำไปสู่การเสียชีวิตได้
การป้องกัน : ยังไม่มีวัคซีนป้องกันไวรัสในกลุ่มเอนเทอไวรัสและชนิด EV71 นอกจากเตรียมตัวดูแลลูกอย่างใกล้ชิดหากติดเชื้อเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน แต่หากติดเชื้อนี้แล้วจะมีภูมิคุ้นกันไวรัสชนิดนี้ไปได้ระยะหนึ่ง - ไข้เลือดออก
สาเหตุ : การติดเชื้อไวรัสเดงกี่ซึ่งมีด้วยกัน 4 สายพันธุ์ ติดต่อโดยมียุงลายตัวเมียเป็นพาหะนำโรคด้วยการดูดเลือดผู้มีเชื้อไวรัสนี้ไปกัดคนอื่นๆ ต่อนั่นเอง
อาการ : มีไข้สูงเฉียบพลันราว 5-6 วัน อาจมีอาการหวัด ปวดเมื่อยเนื้อตัว คลื่นไส้อาเจียน หากไม่ได้รับการรักษาจะอ่อนเพลียมากขึ้น ปวดท้อง ท้องอืด เบื่ออาหาร ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และผิวหน้า ดูแดงๆ มีเลือดออกตามร่างกายเช่น ไรฟัน เลือดกำเดาไหล ปัสสาวะน้อยลง ความดันโลหิตต่ำ และชีพจรเต้นเบา อาจเสี่ยงต่อการช็อกจากเลือดออกภายในและเสียชีวิตได้
การป้องกัน : ยังไม่มีวัคซีนป้องกันไข้เลือด นอกจากหาวิธีป้องกันไม่ให้ยุงกัด ดังนั้นหากบุตรหลานมีไข้สูงอย่านิ่งนอนใจ ต้องรีบพาไปพบแพทย์ - ท้องเสีย หรืออุจจาระร่วง
สาเหตุ : ลำไส้อักเสบจากการติดเชื้อไวรัสโรต้า
ความรุนแรง : หากอาการรุนแรงและรักษาไม่ถูกต้อง อาจเสียชีวิตได้
อาการ : ท้องเสีย อาเจียน บางรายมีไข้สูง รับประทานอาหารได้น้อย
การป้องกัน : สำหรับเด็กอายุ 2 เดือนขึ้นไป ควรได้รับวัคซีนป้องกันซึ่งเป็นวัคซีนชนิดรับประทาน ควรดูแลความสะอาดของเด็ก ของเล่น และของใช้ต่างๆ - ไอพีดีและปอดบวม
สาเหตุ : ติดเชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัส ทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดและระบบประสาท เยื่อหุ้มสมอง
ความรุนแรง : หากเกิดในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ปี อาจพิการ หรือเสียชีวิตได้ องค์การอนามัยโลกพบว่า แต่ละปีจะมีเด็กเสียชีวิตจากโรคปวดบวมถึง 2 ล้านคนต่อปี นับเป็นสาเหตุการเสียชีวิตสูงเป็นอันดับ 1 ของโลกของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี
อาการ : หากติดเชื้อที่ระบบประสาท เยื่อหุ้มสมอง เด็กจะมีไข้สูง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะรุนแรง คอแข็ง งอแง ซึมและชักได้ แต่หากติดเชื้อที่กระแสเลือด เด็กจะมีไข้สูง งอแง อาจช็อกและเสียชีวิตได้
การป้องกัน : สำหรับเด็กอายุ 2 เดือนขึ้นไป โดยเฉพาะเด็กที่มีโรคประจำตัว หรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน และควรฉีดต่อไปตามกำหนด
เตรียมความพร้อมป้องกันโรคที่มากับหน้าฝน
ในช่วงหน้าฝน พ่อแม่และผู้ปกครองควรเพิ่มความใส่ใจบุตรหลานมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้บุตรหลานเจ็บป่วย ได้แก่
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
- จัดเตรียมอุปกรณ์ป้องกันฝน เช่น เสื้อกันฝน ร่ม หมวก ดูแลเสื้อผ้าไม่ให้เปียกชื้น รวมทั้งร่างกายเด็กต้องแห้งและอบอุ่นอยู่เสมอ
- การจัดเตรียมอาหาร และเครื่องดื่มที่ดีมีประโยชน์ สะอาด ปลอดภัย และถูกสุขลักษณะ
- ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังกลับเข้ามาถึงบ้าน และทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- สังเกตอาการผิดปกติของบุตรหลาน เช่น มีไข้ จาม ไอ เซื่องซึม เบื่ออาหาร หรือรับประทานได้น้อย อาเจียน อ่อนเพลีย
เพราะการป้องกันดีกว่าการรักษา มาดูแลบุตรหลานของเราในช่วงหน้าฝนที่โรคระบาดชุกชมให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง และไม่มีโรครุมเร้า เพื่อเป็นพื้นฐานที่ดีในฤดูอื่นๆ ต่อไป แต่หากบัตรหลานมีอาการผิดปกติควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที อย่านิ่งนอนใจ