สวัสดีค่ะ #ยาวนิสนึ่งนะคะแต่ช่วยตอบหน่อยเครียดมากค่ะ พอดีเราไปมีอะไรกันกับคนรู้จัก (แต่ไม่มีสวมถุง มีการจู๊บ และของเพศ ช. แค่ถูๆช่องคลอดปากๆของรอบนอกอวัยวะเพศของ เรา .แต่ไม่มีการเสียบไม่มีการสอดแต่อย่างใด) และหลังจากนั้นเราก็ไม่ได้ติดต่อกันกับคนนี้อีกเลย แต่ผ่านมาชักพักเรามีอาการแบบนี้คะ เป็นเริมที่อวัยวะเพศ (เรารักษาดูแลตัวเองและทายาจนหาย) ผ่านมาอีก1อาทิตยเราเป็น เชื่อราในช่องคลอด (มีอาการคันมาก แต่ใช้ยาสอดคืนเดียวหาย) 💊จนกะทั้งผ่าน 1 เดือนไม่มีอาการเลยทุกอย่างปกติ💊 วันที่17 เราปวดท้องเมนส์มาก 🔥(แต่มีอาการอ้วก) เราเลยได้ไปค้นหาแล้วเจอคำว่า "โรคเอดส์จะมีอาการอ้วก" กับ "การปวดท้องเมนส์ก็มีอากาศคลื่นใส้ได้เหมือนกัน" คือตอนนี้สับสนมาก.....ว่าเราจะเป็นหรือเปล่า 💉วันจันจะไปตรวจเลือดคะ💉 . 🙋 เราไม้ได้เปลื่ยนคู่นอนบ่อย ครั้งนี้ครั้งแรกเหมือนกัน . อยากทราบว่า (ไปทีละคำถามและตอบที่ละข้อได้ไหมคะ) 1 เรามี เริม กับ เชื้อราในช่องคลอด แบบนี้จะเรียกว่าเป็นเอดส์ได้ไหม ? 2 จากที่เล่ามา เรามีสิทธิในการเป็นเอดส์กี่% ถ้าเป็นจะหายไหม 3 ถ้าตรวจเจอควรบอกกะคนที่รัก หรือพ่อแม่ ยังไงดีคะ? 4 ปวดท้องเมนส์ - เอดส์ แล้วมีอาการอ้วก เหมือนกันนี่ยังปกติเหมือนเปล่า 5 อาจจะไม่เป็น แต่แค่มีเพศสัมพันธ์ที่ไม่สะอาดหรือเปล่า? 6 อยากทราบเหตุอื่นๆ ที่เป็นเอดส์ได้โดยที่ไม่ผ่านก็มีเพศสัมพันธ์ . ช่วยตอบหน่อยคร้าท่า เครียดมาก

HIV มีโอกาสติดด้วยกันอยู่ 3 ทางค่ะ
1. เลือดสู่เลือด เช่นการได้รับเลือด
2. มารดาสู่ลูก
3. เพศสัมพันธ์ ... โดยปกติค่าเฉลี่ยของการติดต่อระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ของ ชาย-หญิง = 1% ต่อการสอดใส่
ชาย-ชาย =3% ต่อการสอดใส่ ทั้งนี้ในกรณีของการมีเพศสัมพันธ์ด้วยอวัยวะเพศ
แต่ถ้าเป็น oral sex โอกาสติดจะน้อยลงไปกว่านี้ค่ะ
ถ้าไม่มีการสอดใส่ โอกาสติดก็น้อยมากค่ะ
ส่วนเริมติดทางการสัมผัสได้ค่ะ ถูๆ ก็อาจตะติดได้ เริมเกิดจากเชื้อไวรัส หลังติดเชื้อครั้งแรก อาการจะรุนแรง เป็นกลุ่มของตุ่มน้ำใสๆ เจ็บมาก แสบร้อน ถ้าเป็นด้านล่าง อาจมีปัสสาวะแสบขัดร่วมด้วย มีไข้ได้ อาการหลังติดเชื้อครั้งแรก จะมีอาการมากค่ะ จำเป็นต้องได้รับยา เพื่อบรรเทาอาการ

หลังจากหาย เชื้อไวรัสจะไปแอบอยู่ตามปลายประสาท เมื่อร่างกายอ่อนแอ เช่น เจ็บป่วย นอนดึก เชื้อไวรัสก็จะออกมา ทำให้เกิดอาการอีกได้ค่ะ

โดยอาการที่เกิดเป็นซ้ำ จากเชื้อไวรัสที่ออกมาจากปลายประสาท จะรุนแรงน้อยกว่า ตุ่มไม่เยอะมาก ไม่มีไข้ มักจะหายได้เอง การรับประทานยา ก็อาจจะช่วยลดระยะเวลาที่มีอาการเท่านั้น

เริม จึงเป็นโรคที่รักษาหายขาดได้ยากค่ะ ควรรักษาร่างกายให้แข็งแรง ไม่เจ็บป่วย นอนหลับพักผ่อนเพียงพอ กินอาหารที่สุก สะอาด ครบ 5 หมู่ เมื่อร่างกายแข็งแรง แม้จะมีเชื้อไวรัสอยู่ในร่างกาย แต่ก็ไม่แสดงอาการ ไม่ทำให้เราเจ็บป่วยค่ะ

ส่วนอาการอ้วก ไม่ได้จำเพาะต่อทั้งเอดส์ และ การปวดประจำเดือนค่ะ

สวัสดีค่ะ
1.การมีเชื้อเริมและเชื้อราในช่องคลอดไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นเอดส์นะคะ แต่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรณีนี้แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการยืนยันและรักษาค่ะ
2.ถ้ามีเพศสัมพันธ์แบบเป็นฝ่ายรับทางช่องคลอดโดยไม่ได้ป้องกันมีโอกาสประมาณ 0.1-10%ค่ะ
3.โรคนี้สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติทั่วไป สามารถรักษาโดยการรับประทานยาต้านไวรัสและไปตรวจตามนัดกับแพทย์ การใช้ชีวิตด้วยกัน พูดคุย กินข้าว จะไม่ทำให้ติดเชื้อนี้ได้
4.การติดเชื้อไวรัส HIVในช่วงแรกๆจะยังไม่มีการแสดงอาการออกมาให้เห็นทันที บางรายที่มีภูมิคุ้มกันดีอาจจะใช้ระยะเวลานานหลายปีได้กว่าจะแสดงอาการออกมา สำหรับอาการเบื้องต้นของเชื้อHIVเป็นอาการที่ไม่เฉพาะเจาะจงค่ะ ได้แก่ เป็นไข้ ปวดศีรษะ น้ำเหลืองโต น้ำหนักลด คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร ปวดเมื่อยตามตัว เหงื่อออก อ่อนเพลีย มีผื่นตามตัว ชาตามตัว ไอเรื้อรัง ติดเชื้อง่าย เป็นต้นค่ะ
5.ถ้าจะทราบว่าติดเชื้อหรือไม่ให้ไปตรวจเลือดดูค่ะ
6.ผ่านทางเลือด หรือ แม่สู่ลูกค่ะ

เพิ่มเติมที่ตอบไปนะคะ อาการอาเจียนจริงๆเป็นอาการกว้างนะคะ ไม่จำเป็นต้องมาจากประจำเดือนหรือโรคเอดส์เท่านั้น ยังคิดถึงจากสาเหตุอื่นๆได้คร่าวๆดังนี้ค่ะ
-โรคทางระบบอาหาร เช่น กระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ ไส้ติ่งอักเสบ ไส้เลื่อน ถุงน้ำดีอักเสบ อาหารเป็นพิษ อาหารไม่ย่อย
-จากระบบประสาท เช่น สมองได้รับการกระทบกระเทือน เนื้องอกในสมอง ไขสันหลังอักเสบ โรคไมเกรน
-จากระบบการทรงตัว เช่น เมารถ หูชั้นในอักเสบ
-จากระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น เป็นนิ่วในไต ติดเชื้อที่ไต
-จากการทานยาบางชนิด จากการรักษาด้วยรังสีและเคมีบำบัด จากการดื่มแอลกอฮอล์
-เกิดความเครียด