“เอดส์” มาจากคำว่า AIDS ซึ่งเป็นคำย่อของคำว่า Acquired Immune Deficiency Syndrome โรคเอดส์ จึงหมายถึง โรคที่เกิดจากภาวะภูมิคุ้มกันในร่างกายเสื่อมลงหรือบกพร่อง เพราะถูกทำลายโดยเชื้อไวรัส HIV หรือ Human Immonodeficiency Virus ซึ่งเป็นสาเหตุให้ร่างกายติดเชื้อโรคต่าง ๆ แทรกซ้อนได้ง่ายกว่าคนปกติ อันเป็นต้นเหตุให้คนที่เป็นโรคเอดส์เสียชีวิตในที่สุด
โรคเอดส์เป็นโรคที่เพิ่งพบใหม่ มีรายงานครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกาในราวเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2524 โดยศูนย์ควบคุมโรคติดต่อแห่งสหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control) พบว่ามีกลุ่มชายรักชายร่วมเพศ จำนวน 5 คนป่วยเป็นปอดบวมจากเชื้อนิวโมซิสติสคารินิโอ (Pneumocystis Carinii) ภายในอีก 1 เดือนต่อมามีรายงานว่าหนุ่มรักร่วมเพศอีก 26 รายป่วยเป็นมะเร็งของหลอดเลือด (Kaposi’s sarcoma) ซึ่งตามปกติโรคนี้มักเป็นกับคนสูงอายุ นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยอีกหลายรายเป็นโรคปอดบวมและติดเชื้อประเภทฉวยโอกาส (Opportunistic infection) ชายหนุ่มที่ป่วยทุกรายไม่เคยมีโรคประจำตัวที่ร้ายแรงมาก่อนและไม่เคยได้รับยาประเภทกดระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมาก่อน และเมื่อได้รับการตรวจชันสูตรทางห้องปฏิบัติการพบว่าการทำงานของเซลล์ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับภูมิต้านทานโลกไม่ได้ทำหน้าที่ตามปกติ และแม้ว่าจะได้รับการรักษาอย่างดีที่สุด แต่ผู้ป่วยเหล่านี้ก็ไม่มีใครรอดชิตแม้แต่รายเดียว ทั้งนี้เป็นเพราะระบบภูมิคุ้มกันโรคเสื่อม หรือบกพร่อง จึงมีผู้เสนอให้เรียกโรคนี้ว่า Acquired Immune Deficiency Syndrome หรือ AIDS
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
จากการศึกษาย้อนหลังพบว่า โรคนี้เกิดในประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2521 แต่เพิ่งจะมาตื่นตัวกันในปี พ.ศ. 2524 ต่อเมื่อมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และตั้งแต่ปี 2525 เป็นต้นมาก็มีความเชื่อกันว่า โรคนี้จะต้องมีความเกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศที่ผิดปกติจำพวกรักร่วมเพศ และพฤติกรรมเกี่ยวกับการเสพยาเสพติดอย่างแน่นอน ต่อมามีการพบอีกว่าผู้ป่วยที่ได้รับการถ่ายเลือดก็เป็นโรคเอดส์ จึงทำให้เห็นแนวทางที่ชัดเจนยิ่งขึ้นในการที่จะศึกษาและเผยแพร่ถึงวิธีการป้องกันการแพร่เชื้อและการติดต่อโรคได้อย่างละเอียด