July 31, 2019 20:23
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ เบื้องต้น อาการผื่นคัน สามารถคิดถึงได้จากหบายสาเหตุครับ ตัวอย่างเช่น
- การติดเชื้อ เช่น เชื้อรา อาการมีผื่นแดงๆ บริเวณจุดอับชื้น เช่น ซอกขา รักแร้ มีอาการคันครับ หรือ ภ้าเป็นการติดเชื้อแบคทีเรีย อาจมีอาการผื่นแดง บางคนอาจมีหนอง หรือสะเก็ดสีเหลืองๆร่วมด้วย บางคนอาจมีผิวลอก มีไข้ร่วมด้วยครับ
**ข้อแนะนำ คือ หากมีอาการไข้ ผิวหนังมีหนอง หรือลอก อจมีการติดเชื้อแบคทีเรีย การรักษาคือ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับยาฆ่าเชื้อครับ เพราะหากปล่อยไว้นานๆ การติคดเชื้ออาจลุกลาม ไปจนถึงผิวหนังชั้นใน หรือติดเชื้อในกระแสเลือดได้ครับ
การรักษากรณีนี้ คือ การให้ยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสมนะครับ
- ผื่นภูมิแพ้ อาจพบบริเวณข้อศอก หัวเข่าด้านนอก บาวคนอาจขึ้นที่หน้า ลักษณะที่เป็นผื่นแห้งๆ บางคนมักมีติดเชื้อร่วม
- ผื่นแพ้ต่างๆ อาจพบบริเวณข้อศอก หัวเข่าด้านนอก บาวคนอาจขึ้นที่หน้า หรือตามแขนขา ลักษณะที่เป็นผื่นแห้งๆ แดง คัน กรณีนี้ คนไข้ อาจต้องสังเกตเพิ่มเติม เช่น มีการใช้ยาอะไรแปลกไปในช่วงนี้ การเปลี่ยนสบู่ ผงซักฟอก หรือ การสัมผัสสารเคมีต่างๆ เป็นต้น
แนะนำว่า กรณีนี้ ให้หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่สงสัยดังกล่าว รักษาความสะอาด รักษาผิวให้ชุ่มชื้น โดยการทาโลชัน และอาจต้องไปพบแพทย์ เพื่อให้ยาบางอย่าง เช่น ยากลุ่มสเตียรอยด์ และยาลดอาการคัน เป็นต้นครับ
- โรคลมพิษ : ลักษณะคือ จะเป็นตุ่ม นูน แดง หรือ นูน เป็นปื้น และคันครับ
>>สำหรับลมพิษ เฉียบพลัน สาเหตุที่พบบ่อยสุด คือ
> การติดเชื้อ ได้แก่ เป็นหวัดคัดจมูก ติดเชื้อไวรัส ติดเชื้อที่ผิวหนัง ซึ่ง บางคนจะเป็นบ่อยช่วงหน้าฝนครับ
>การแพ้ยา เช่น ยากลุ่ม nsaid เช่น ไอบูโพรเฟน แอสไพริน เป็นต้น ยาฆ่าเชื้อบางชนิด โดยเฉพาะ เพนนิซิลลิน
>อาหาร ซึ่งอาการจะเกิดทันทีหลังทานอาหารที่แพ้ครับ
การรักษาชนิดเฉียบพลันคือ รักษาตามสาเหตุและรักษาตามอาการครับ ได้แก่ ยาแก้แพ้ชนิดต่างๆ เช่น chlopheniramine , cetirizine , hydroxyzine เป็นต้น แบะการให้ยาแก้อาการคันครับ โดย ผื่นมักหายเองใน 2 สัปดาห์ครับ หรือ เมื่ออาการติดเชื้อต่างๆดีขึ้นครับ
- แมลงสัตว์กัดต่อย อาจมีอาการเป็นจุดแดงๆ คัน เป็นตามแขนขาได้ครับ โดยทั่วไป การล้างแผลให้สะอาด รักษาความสะอาดของที่นอนมักหายได้เอง แต่กรณีเป็นผื่นแดง ตามขาหนีบ ซอกพับ และคันมาก อาจต้องระวังเรื่อง หิด ด้วยนะครับ ซึ่งมักจะติดต่อกัน กับผู้ที่นอนด้วยกัน วิธีการรักษาคือ ต้องใช้ยาฆ่าหิด จ่ายโดยแพทย์ครับ
ยังมีสาเหตุอื่นๆของโรคผิวหนังมากมาย ที่ยกมาเป็นเพียงสาเหตุที่พบบ่อยนะครับ การรักษา จะต้องรักษาที่สาเหตุครับ ดังนั้น แนะนำให้ไปพบแพทย์ครับ
ตุ่มใส
สวัสดีครับ เนื่องจากไม่เห็นภาพ แต่จากการบรรยายทสามารถเป็นได้หลายอย่างครับ เช่น
>การติดเชื้อ โดยเกิดได้จากทั้งเชื้อไวรัส และ แบคทีเรีย ครับถ้าเป็นตุ่มน้ำใส สำหรับไวรัส จะนึกถึงในกลุ่มของ อิสุกอีใส หรือ งูสวัด
โดยคนไข้อาจมีอาการแสบที่ผิว หรือ ปวดแสบปวดร้อนที่ผิว หรือ อาจมีไข้ร่วมด้วยได้ครับ
ส่วนการ ติดเชื้อ แบคทีเรีย เช่น เชื้อที่ผิวหนังทั่วๆไป ก็อาจทำให้มีตุ่มใสได้ โดยอาจมีขนาดใหญ่กว่าตุ่มของไวรัส และอาจมีอาการบวม แดง หรือมีสะเก็ดสีเหลือง หรือมีไข้ได้ครับ
>แมลงกัดต่อย เช่น ก้นกระดก อาจมีอาการแสบร้อน มีการระคายเคืองผิว และเกิดเป็นตุ่มใสได้
>ผื่นภูมิแพ้ อาจพบบริเวณข้อศอก หัวเข่าด้านนอก บาวคนอาจขึ้นที่หน้า ลักษณะที่เป็นผื่นแห้งๆ บางคนมักมีติดเชื้อร่วมด้วย นอกจากนี้ อาจเป็นอาการของผื่นแพ้สัมผัส กรณีนี้ คนไข้ อาจต้องสังเกตเพิ่มเติม เช่น มีการใช้ยาอะไรแปลกไปในช่วงนี้ การเปลี่ยนสบู่ ผงซักฟอก หรือ การสัมผัสสารเคมีต่างๆ เป็นต้นครับ
แนะนำว่า กรณีนี้ ให้หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่สงสัยดังกล่าว รักษาความสะอาด รักษาผิวให้ชุ่มชื้น โดยการทาโลชัน และอาจต้องไปพบแพทย์ เพื่อให้ยาบางอย่าง เช่น ยากลุ่มสเตียรอยด์ และยาลดอาการคัน เป็นต้นครับ
ยังมีสาเหตุอื่นๆของโรคผิวหนังมากมาย ที่ยกมาเป็นเพียงสาเหตุที่พบบ่อยนะคะ การรักษา จะต้องรักษาที่สาเหตุครับ ดังนั้น แนะนำให้ไปพบแพทย์ครับ
นอกจากนี้ แนะนำให้รักษาความสะอาดบริเวณที่ผื่นขึ้น ไม่ให้ขื้นแฉะ และไม่แนะนำให้แคะแกะเกา ซึ่งจะทำให้ผื่นลุกลามจากการติดเชื้อเพิ่มเติมได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอนนี้เป็นโรคนี้เลยค่ะ ผิวหนังเริ่มเป็นตุ่มเยอะขึ้น คันมากค่ะ ควรทำงัยดีค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)