![](http://www.pharmacistchitchat.com/wp-content/uploads/antibiotic-ok-300x224.png)
ในการจ่ายยานั้น ครูบาอาจารย์ท่านเคยสั่งสอนไว้ค่ะว่า… นอกจากจะคำนึงถึงความถูกต้องแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความเหมาะสมด้วย ซึ่งทั้งความถูกต้องและความเหมาะสม ก็มีข้อควรพิจารณาหลายประการด้วยกันค่ะ …แต่ในวันนี้ขอยังไม่ลงรายละเอียดนะคะ ^_^
ยกตัวอย่างง่าย ๆ ในกรณีของเภสัชกรประจำร้านยา ลูกค้าส่วนหนึ่งที่พบ จะระบุชื่อยาหรือชนิดของยาที่ต้องการมาเลย ซึ่งก็อาจจะเป็นชื่อสามัญทางยา (เป็นชื่อจริง ๆ ที่ใช้เรียกเป็นมาตรฐานของยาตัวนั้นค่ะ) เช่น พาราเซตามอล (Paracetamol) หรืออาจระบุเป็นชื่อการค้า (เป็นชื่อที่บริษัทยาแต่ละแห่ง ตั้งขึ้นมาใหม่เป็นชื่อเฉพาะของแต่ละที่) ยกตัวอย่างชื่อการค้าของพาราเซตามอล เช่น ซาร่า ไทลินอล เทมปร้า โลเทมป์ พาราแคพ ซีมอล ฯลฯ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
หรือบ่อยครั้งที่มาแบบ “ชื่อที่ฉันอยากเรียก” (ฮ่า…) เช่น… “ยาฟู่”
ฟังแล้วรู้สึกเหมือน… ฟันเฟืองในสมองหมุนอย่างหนักหน่วงเพื่อทำการประมวลผล ก่อนจะยอมแพ้ถามซ้ำไปว่า “ยาอะไรนะคะ” หลังจากที่ลูกค้าพยายามอธิบายลักษณะของยา พร้อมย้ำว่าเคยซื้อจากร้านนี้แหละ ดิฉันจึงได้ว่ารู้ว่า… “ยาฟู่” นั้นหรือ ก็คือ “แคลเซียมแบบเม็ดฟู่ละลายน้ำ” นั่นเอง! แหม่… เจอแบบนี้หลายคนหลายครั้งหลายตัวยาเข้า ก็ได้อารมณ์แข่งขันเกมลับสมองประลองเชาว์ดีค่ะ …สนุกไปอีกแบบ ฮ่า…
แต่ก็พบได้เหมือนกันค่ะที่ยาที่ลูกค้าระบุมา กลับกลายเป็นว่าไม่เหมาะสมกับอาการเจ็บป่วยที่แท้จริง เช่น ถามหา “ยาขับปัสสาวะ” แต่พอซักถามอาการแล้ว เป็นอาการป่วยของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ จึงได้เป็น “ยาปฏิชีวนะ” ไปแทน กรณีนี้แม้จะได้ยาไม่ตรงที่เรียกหา แต่เหมาะสมกับอาการป่วย ใช้แล้วหาย ผู้ป่วยก็ “ดีจัง” เภสัชกรก็ “ดีใจ” นะคะ ^_^
เพราะฉะนั้น หากครั้งต่อไปที่ท่านไปร้านยา แล้วเจอเภสัชกรชวนคุยซักถามอาการป่วย ก็อดทนคุยด้วยหน่อยนะคะ เสียเวลาซักนิด เพื่อความมั่นใจว่าท่านจะได้รับยาที่ถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภัยในการใช้ยาค่ะ …คุยมาก คุยนาน (เผลอ ๆ ไม่ได้ตังค์ เพราะเห็นว่าอาการป่วยของท่าน ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยาก็ได้) ก็ไม่มีชาร์ตค่าคุยนะเออ (ฮ่า…)
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
เมื่อเข้าใจตรงกันเช่นนี้แล้ว ดิฉันก็จะได้ชวนคุยซักถามอาการต่อไป (ฮ่า…)
![pt03](http://www.pharmacistchitchat.com/wp-content/uploads/2015/05/pt03-150x150.png)
“ขอยาแก้อักเสบหน่อย”
![rx04](http://www.pharmacistchitchat.com/wp-content/uploads/2015/05/rx04-150x150.png)
“ยาแก้อักเสบ??? …ไม่ทราบว่าต้องการเป็นยาแก้ปวดหรือยาฆ่าเชื้อคะ”
![pt03](http://www.pharmacistchitchat.com/wp-content/uploads/2015/05/pt03-150x150.png)
“เอาเป็นยาแก้อักเสบน่ะ”
![rx07](http://www.pharmacistchitchat.com/wp-content/uploads/2015/06/rx07-150x150.png)
“ยาแก้อักเสบ จริง ๆ แล้วหมายถึง ‘ยาแก้ปวดอักเสบ’ น่ะค่ะ แต่บางคนจะเรียก ‘ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย’ หรือ ‘ยาปฏิชีวนะ’ ว่ายาแก้อักเสบ เภสัชก็เลยไม่แน่ใจว่าคุณต้องการยาประเภทไหน …ป่วยเองหรือเปล่าคะ แล้วมีอาการยังไงบ้างคะ”
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
![pt03](http://www.pharmacistchitchat.com/wp-content/uploads/2015/05/pt03-150x150.png)
“เหงือกบวม อยากได้ยาแก้อักเสบ”
![rx07](http://www.pharmacistchitchat.com/wp-content/uploads/2015/06/rx07-150x150.png)
“บวมมากมั้ยคะ เป็นหนองหรือมีกลิ่นปากรุนแรงด้วยรึเปล่า มีอาการปวดด้วยมั้ย”
![pt03](http://www.pharmacistchitchat.com/wp-content/uploads/2015/05/pt03-150x150.png)
(…สีหน้ารำคาญ…) “บวมไม่มาก ไม่เป็นหนอง แต่ปวดอยู่”
![rx07](http://www.pharmacistchitchat.com/wp-content/uploads/2015/06/rx07-150x150.png)
“มีโรคประจำตัวหรือเคยแพ้ยาอะไรมั้ยคะ”
![pt03](http://www.pharmacistchitchat.com/wp-content/uploads/2015/05/pt03-150x150.png)
(…ส่ายหน้า…)
![rx07](http://www.pharmacistchitchat.com/wp-content/uploads/2015/06/rx07-150x150.png)
“ถ้าอย่างนั้น เภสัชแนะนำยาแก้ปวดตัวนี้นะคะ มันจะลดการอักเสบบวมแดงเล็กน้อยที่เป็นอยู่ด้วยค่ะ ทานครั้งละ…”
![pt03](http://www.pharmacistchitchat.com/wp-content/uploads/2015/05/pt03-150x150.png)
“เป็นยาแก้อักเสบใช่มั้ย”
![rx14](http://www.pharmacistchitchat.com/wp-content/uploads/2015/05/rx14-150x150.png)
“เป็นยาแก้ปวดแก้อักเสบค่ะ แต่ไม่ใช่ยาฆ่าเชื้อแก้อักเสบ”
![pt03](http://www.pharmacistchitchat.com/wp-content/uploads/2015/05/pt03-150x150.png)
“อยากได้ยาแก้อักเสบ” (…มองเลยไปที่ตู้ยา…)
![rx04](http://www.pharmacistchitchat.com/wp-content/uploads/2015/05/rx04-150x150.png)
“เอ่อ… หมายถึง… อยากได้ยาฆ่าเชื้อใช่มั้ยคะ”
![pt03](http://www.pharmacistchitchat.com/wp-content/uploads/2015/05/pt03-150x150.png)
“ไม่ใช่… หมายถึงยาแก้อักเสบ”
![rx14](http://www.pharmacistchitchat.com/wp-content/uploads/2015/05/rx14-150x150.png)
(…อึ้งกิมกี่…) “อ่า… ค่ะ นี่ล่ะค่ะ… ยาแก้อักเสบแก้ปวด กรณีที่ปวด แต่เหงือกบวมไม่มาก ไม่เป็นหนอง ไม่มีกลิ่นปาก น่าจะยังไม่มีการติดเชื้อ แนะนำให้ใช้ยาตัวนี้อย่างเดียวก่อนนะคะ ยังไม่จำเป็นต้องใช้ยาแก้อักเสบฆ่าเชื้อ วิธีรับประทานก็… บลาๆๆๆๆๆ”
![pt01](http://www.pharmacistchitchat.com/wp-content/uploads/2015/06/pt01-150x150.png)
(…หยิบยาไปดู…) “อันนี้มันยาแก้ปวดนี่… อยากได้ยาแก้อักเสบนะ”
![rx13](http://www.pharmacistchitchat.com/wp-content/uploads/2015/05/rx13-150x150.png)
?!?!?
เหตุการณ์จริง เจ็บจริง ไม่มีสลิง ไม่มีตัวแสดงแทนค่ะ (ฮ่า…)
ความแตกต่างระหว่างยาปฏิชีวนะกับยาแก้อักเสบ
การอักเสบ มีความหมายตรงกับภาษาอังกฤษว่า Inflammation ซึ่งเป็นภาวะที่ทำให้เกิดอาการปวด บวม แดง ร้อน ในบริเวณที่มีการอักเสบเกิดขึ้น การอักเสบที่รู้จักกันดี ได้แก่ ข้ออักเสบ, เอ็นอักเสบ และกล้ามเนื้ออักเสบที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุในการทำงานหรือเล่นกีฬา
การใช้ยาเพื่อลดการอักเสบ ต้องใช้ยากลุ่มที่เรียกว่า “ยาแก้อักเสบ”หรือ “ANTI-INFLAMMATORY DRUG” โดยยาแก้อักเสบนี้ ยังนิยมใช้ลดอาการปวดที่เกิดจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น ปวดหัว ปวดประจำเดือน ปวดฟัน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ รวมทั้งยังอาจใช้ลดไข้อีกด้วย
ส่วน “ยาปฏิชีวนะ” หรือ “Antibiotics” จะใช้รักษาโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียเท่านั้นค่ะ เช่น ต่อมทอนซิลอักเสบเป็นหนอง ยาปฏิชีวนะไม่มีฤทธิ์แก้ปวดหรือลดการอักเสบนะคะ
จะเห็นได้ว่า “ยาแก้อักเสบ” ไม่ใช่ “ยาปฏิชีวนะ” แต่ที่มีการเรียกผิด ๆ ก็เพราะในสมัยก่อน คำว่า “ยาปฏิชีวนะ” เป็นภาษาแพทย์ซึ่งฟังดูเป็นวิชาการ ที่อาจเข้าใจยากสักหน่อย แพทย์จึงแปลงชื่อยาเป็นภาษาชาวบ้านว่า “ยาแก้อักเสบ” เพราะเมื่อรับประทานยานี้เข้าไปทำลายหรือฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของโรคติดเชื้อ อาการอักเสบ (อาการปวดบวม แดง ร้อนที่อวัยวะที่ติดเชื้อ เช่น ฝี แผลอักเสบ ทอนซิลอักเสบ ที่เห็นจากภายนอกได้ชัดเจน) ก็จะทุเลาลงไป ชื่อนี้จึงคุ้นหูคุ้นปากเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
แต่เนื่องจากการอักเสบส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ การเรียกเหมารวมทั้งยาแก้ปวด (ตามแบบที่ถูกต้อง) และยาปฏิชีวนะ (ตามแบบผิด ๆ ที่คุ้นเคย)ว่ายาแก้อักเสบ จึงสร้างความสับสน (ทั้งกับผู้ใช้ยาและกับผู้จ่ายยา ฮ่า…) เสี่ยงต่อการได้รับยาที่ไม่เหมาะสมกับอาการเจ็บป่วย อีกทั้งทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ว่า…ยาปฏิชีวนะสามารถใช้แก้ปวดและลดการอักเสบได้ด้วยนะเออ!?! เฮ้อ… ปวดหมอง ‘อิ๊คคิวเซ็ง’ ขอตัวไปนั่งสมาธิก่อนนะฮับ (ฮ่า…)
จึงได้มีการรณรงค์เรื่อยมาให้ประชาชนหยุดเรียกยาปฏิชีวนะว่ายาแก้อักเสบ (ซะทีเถิดคู้ณ…ณ…..) เพราะงั้น…ใครที่ยังเรียกผิด ๆ อยู่อีก ต้องขอบอกว่า… เชยค่ะเชย! เพราะคนรุ่นใหม่ไม่เรียก “ยาปฏิชีวนะ” ว่า “ยาแก้อักเสบ” กันแล้วล่ะตัวเธอว์!
![rx07](http://www.pharmacistchitchat.com/wp-content/uploads/2015/06/rx07-150x150.png)
ย้ำนะคะ… “ยาแก้อักเสบ” ก็คือ “ยาแก้ปวด ลดไข้ ต้านการอักเสบ” ...ไม่ใช่ “ยาปฏิชีวนะ”!!!
แล้วคุณล่ะคะ… ยังเรียกยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียว่า “ยาแก้อักเสบ” อยู่หรือเปล่า ^_^
ขอขอบคุณ แหล่งข้อมูล…
- ธีรัตถ์ เหลืองมั่นคง. (2556). รู้ให้ชัดกับยาแก้อักเสบ (ออนไลน์). สืบค้นจาก :http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/126/ยาแก้อักเสบ [9 กันยายน 2557]
- พิสนธิ์ จงตระกูล. (2556). หยุดเรียกยาปฏิชีวนะว่ายาแก้อักเสบ (ออนไลน์). สืบค้นจาก :https://th-th.facebook.com/not... [9 กันยายน 2557]
- สุรเกียรติ อาชานานุภาพ. ยาแก้อักเสบ ใช่แก้อักเสบ(ครอบจักรวาล) แต่คือ ยาฆ่าเชื้อ (แบคทีเรีย) (ออนไลน์). สืบค้นจาก : http://www.doctor.or.th/articl... [9 กันยายน 2557]