วิตมินบี 6

ประโยชน์ทางด้านสุขภาพ การใช้ ผลข้างเคียง และอื่นๆ
เผยแพร่ครั้งแรก 3 ม.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
วิตมินบี 6

วิตมีนบี 6 (Vitamin B6) เป็นสารอาหารที่มีคุณค่าในอาหารเสริมที่พบได้ในธรรมชาติของอาหาร และมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ยาไพริดอกซีน วิตมินบี 6 ช่วยให้ร่างกายรักษาระบบประสาทที่ปกติ ย่อยโปรตีน ทำให้น้ำตาลในเลือดอยู่ในระดับที่ปกติ และสร้างแอนติบอดี้กับฮีโมโกลบิน (สารที่ใช้นำออกซิเจนไปสู่เนื้อเยื่อ)

ประโยชน์ทางด้านสุขภาพของวิตมินบี 6

วิตมินบี 6 อาจจะช่วยรักษาหลายๆ อาการจากที่สถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐ (NIH) ได้กล่าวไว้ ยกตัวอย่าง การรับประทานวิตมินบี6อาจช่วยลดความดันโลหิตของโฮโมซีสเตอีน (สารที่เป็นตัวชี้วัดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจในระดับที่เพิ่มขึ้น) สถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐได้พิจารณาว่าวิตมินบี 6 "มีแนวโน้มที่เห็นผล" ในการลดอาการท้องไส้ปั่นป่วนและคลื่นไส้อาเจียนระหว่างการตั้งครรภ์ อาการของกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน (premenstrual syndrome) เช่น เจ็บหน้าอกและซึมเศร้า รวมไปถึงความผิดปกติทางพฤติกรรมในเด็กที่มีระดับเซโรโทนินต่ำ (สารเคมีในสมองที่เกี่ยวข้องในการปรับอารมณ์)

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

แต่ถึงกระนั้น วิตมินบี 6 ไม่ได้ช่วยในอาการที่เกี่ยวข้องกับโรคการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ (carpal tunnel syndrome) และโรคสมองเสื่อม (Alzheimer's disease) นอกเหนือจากนั้นสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐได้ออกคำเตือนว่า วิตมินบี 6 อาจจะไม่ได้ช่วยเพิ่มความจำให้กับผู้สูงอายุหรือป้องกันโรคเส้นเลือดในสมองแตกในกลุ่มคนที่เคยเป็นโรคนี้มาก่อนในอดีต

บางการศึกษาให้ความคิดเห็นว่า วิตมินบี 6 อาจจะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน (stimulate the immune system) บรรเทาอาการปวดของกล้ามเนื้อและช่วยในการดูแลโรคข้ออักเสบ โรคภูมิแพ้ (allergies) และโรคหอบ (asthma) อย่างไรก็ตาม งานวิจัยเพิ่มเติมยังคงจำเป็นเพื่อตอบได้ว่าวิตมินบี 6 สามารถเป็นอาหารเสริมที่ใช้แนะนำสำหรับประโยชน์ทางสุขภาพที่กล่าวมานั้นได้หรือไม่

การใช้วิตมินบี 6

คนมักใช้วิตมินบี 6 เพื่อรักษาหรือป้องกันโรคต่างๆ มากมาย รวมถึงโรคเหล่านี้

อาการของการขาดวิตมินบี 6

แม้ว่าอาการขาดวิตมินบี 6 ไม่ได้เป็นเรื่องทีไม่แพร่หลายในประเทศสหรัฐอเมริกา คนที่รับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์หรือดื่มแอลกอฮอล์เกินขนาด อาจมีวิตมินบี 6 ต่ำกว่าระดับปกติ อาการของการขาดวิตมินบี 6 มีอาการสบสน ซึมเศร้า หงุดหงิด ฉุนเฉียว และแผลในปากหรือลิ้น

อาหารกับวิตมินบี 6

ในการที่จะก้าวไปถึงปริมาณสารอาหารที่ควรได้รับในแต่ละวัน (RDA) ของวิตมิน 6 คุณควรรับประทานอาหารที่ระบุไว้ข้างใต้ในแต่ละมื้ออาหารของคุณ

  • ซีเรียลที่เพิ่มสารอาหารl (2 ม.ก. ต่อ 3/4-ถ้วยตวง)
  • มันฝรั่งอบพร้อมเปลือก (.7 ม.ก. ต่อ มันฝรั่งขนาดกลาง)
  • กล้วย (.68 ม.ก. ต่อ ผลไม้ขนาดกลาง)
  • ถั่วลูกไก่ (.57  ม.ก. ต่อ 1/2-ถ้วยตวง)
  • อกไก่ เนื้อล้วน (.52 ม.ก. ต่อ ครึ่งอก)
  • ปลาเรนโบว์เทราท์ (.29 ม.ก. ต่อ 3-ออนซ์)
  • เมล็ดดอกทานตะวัน (.23 ม.ก. ต่อ ออนซ์)
  • อโวคาโด้ (.2 ม.ก. ต่อ 1/2- ถ้วยตวง)

สถาบันสุขภาพแห่งชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ควรรับประทานวิตมินบี 6 1.2 ม.ก.ในสตรีที่มีอายุระหว่าง 14-18 ปี 1.3 ม.ก. ต่อวันสำหรับบุรุษอายุ14-50 ปีและสตรีอายุ 19-50 ปี 1.5 ม.ก. ทุกวันสำหรับสตรีอายุมากกว่า 50 ปี และ 1.7 ม.ก. สำหรับบุรุษุอายุมากว่า 50 ปี

การรับประทานวิตมินบี 6 ร่วมกับวิตมินบี 12

บางงานวิจัยได้ชี้ให้เห็นว่า การรับประทานวิตมินบี 6 ร่วมกับวิตมินบี 12 นั้นอาจก่อให้เกิดประโยชน์ ยกตัวอย่างในการศึกษาของปี ค.ศ. 2009 มีรายงานว่าผู้หญิง 5,442 คนที่มีอายุ 40 ปีหรือมากกว่า ค้นพบว่าการรับประทานวิตมินบี 6 ร่วมกับวิตมินบี 12 และกับโฟลิคแอซิดทุกๆ วันตลอดระยะเวลาประมาณ 7.3 ปี จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคจอประสาทตาเสื่อม (เทียบกับผู้ที่ทาน ยาแป้ง หรือ placebo) การศึกษานี้ถูกตีพิมพ์ในจดหมายเหตุของอายุรศาสตร์ มีหลักฐานบางอย่างที่ชี้ให้เห็นว่าการรับประทานวิตมินบี 6 ร่วมกับวิตมินบี 12 ร่วมกับฟอลิคแอซิดจะช่วยลดระดับโฮโมซีสเตอีน

คำเตือน

การรับประทานวิตมินบี 6 ดูเหมือนจะปลอดภัยสำหรับคนส่วนมากแต่มันอาจจะมีผลข้างเคียง (เช่น อาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง เบื่ออาหารปวดหัว และง่วงนอน) นอกเหนือจากนั้น การรับประทานวิตมินบี 6 ร่วมกับยาชนิดอื่นๆ อาจจะให้ผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย ยาเหล่านี้ประกอบด้วย เฟนิโทอิน อะมิโอดาโรน ฟีโนบาร์บิทัล และ เลโวโดปา มันสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่คุณควรจดบันทึกไว้ว่าการรับประทานวิตมินบี 6 ในขนาดที่สูงเป็นเวลานานอาจจะทำให้เกิดโรคทางสมองหรือประสาท ถ้าคุณกำลังพิจารณาถึงประโยชน์ของอาหารเสริมที่มีวิตมินบี 6 คุณควรปรึกษาแพทย์เพื่อที่จะเลือกขนาดที่ปลอดภัยก่อนรับประทาน


5 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Vitamin B6. Harvard T.H. Chan School of Public Health. (https://www.hsph.harvard.edu/nutritionsource/vitamin-b6/)
Pyridoxine (Vitamin B6): Uses, Side Effects, Interactions, Dosage, and Warning (https://www.webmd.com/vitamins/ai/ingredientmono-934/pyridoxine-vitamin-b6)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป