อาการที่ผู้ป่วยควรสงสัยว่าตนเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ มักเป็นอาการเริ่มแรกซึ่งพบอยู่ที่บริเวณอวัยวะเพศ หากมีการปล่อยปละละเลยไม่รับการรักษาตั้งแต่เริ่มมีอาการ โรคนี้อาจจะทำให้เกิดอาการในอวัยวะอื่น ๆ ได้ ทุกอวัยวะของร่างกาย เมื่อถึงระยะนี้ แม้แต่แพทย์เองก็อาจวินิจฉัยได้ยากว่าผู้ป่วยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ดังนั้นผู้ที่มีกิจกรรมที่ทำให้คิดว่าตนเองมีโอกาสเป็นโรคเหล่านี้ จึงควรสังเกตอาการของตนอยู่เสมอ
อาการเริ่มแรก อาจแบ่งง่าย ๆ ออกเป็น 4 กลุ่มคือ
- มีหนองไหลจากท่อปัสสาวะและปัสสาวะแสบขัด
- มีแผลที่บริเวณอวัยวะเพศ อาจเป็นแผลเดียวหรือหลายแผล อาจจะเจ็บหรือไม่เจ็บก็ได้
- ต่อมน้ำเหลืองที่บริเวณขาหนีบข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้างโตและ
- มีตุ่มเนื้อลักษณะคล้ายหูดหรือหงอนไก่เกิดขึ้นที่บริเวณอวัยวะเพศ
อาการทั้งสี่พบได้ทั้งในผู้ป่วยหญิงและชาย ในผู้ป่วยหญิงยังมีอาการเริ่มแรกที่จะสังเกตได้อีกสองอาการคือ การตกขาว (อาจจะมีอาการคันร่วมด้วย) และการปวดบริเวณท้องน้อย (อาจจะมีอาการไข้ร่วมด้วย) หากผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษา ตั้งแต่เริ่มมีอาการดังกล่า บางอย่างอาจหายไปได้เอง แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้ป่วยนั้นหายจากโรค เพราะในระยะเลาต่อมาผู้ป่วยเหล่านี้จะเกิดอาการอื่น ๆ ที่ไม่ได้เกิดขึ้นที่อวัยวะเพศ เช่น มีผื่นตามตัว ผมร่วง ข้ออักเสบ ตาบอด เส้นเลือดไปเลี้ยงสมองอักเสบฯ ผู้ป่วยในระยะนี้อาจไม่ทราบว่าตนเองเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และแม้แต่แพทย์โดยทั่วไปบางครั้งก็อาจวินิจฉัยไม่ได้
ตรวจ STD วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 97 บาท ลดสูงสุด 76%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!