อาการท้องอืดมักเกิดหลังงานฉลองวันขอบคุณพระเจ้าหรือหลังกินบูร์ริโต (Burrito) กับถั่วจำนวนมาก แต่ภาวะมีลมในท้องและท้องอืดเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ดังนั้น จึงควรให้ความสนใจกับอาการปวดในทางเดินอาหาร ซึ่งเป็นวิธีที่ร่างกายของคุณแจ้งเตือนให้คุณทราบถึงสิ่งผิดปกติในระบบทางเดินอาหารและลำไส้ของคุณ
ภาวะมีลมในช่องท้องและท้องอืดคืออะไร?
หากต้องนับจำนวนครั้งที่เกิดอาการผายลมสามารถนับได้ถึง 23 ครั้งต่อวัน ภาวะมีลมในช่องท้องเป็นผลพลอยได้จากการย่อยอาหาร ภาวะมีลมในช่องท้องและท้องอืดเป็นไปได้ทั้งอาการปกติของระบบทางเดินอาหารหรือเป็นภาวะที่มีปัญหา เมื่ออาหารหรือเครื่องดื่มเคลื่อนผ่านระบบย่อยอาหาร ลมที่ปล่อยออกมาทำให้คุณรู้สึกแน่นหรืออึดอัด ลมที่เกิดขึ้นก่อให้เกิดอาการท้องอืด ก๊าซที่เกิดในระบบย่อยอาหาร คือ การผสมกันระหว่างชนิดไอระเหยและไม่มีกลิ่น เช่น ไนโตรเจนและออกซิเจน และ ก๊าสมีกลิ่น คือ กำมะกัน ซึ่งเกิดจากแบคทีเรียดีในลำไส้ใหญ่ซึ่งจะถูกปล่อยออกมาในช่วงสุดท้ายของการย่อยอาหาร
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
รักษาสาเหตุแล้วตามด้วยรักษาอาการ
ภาวะเกิดลมในช่องท้องและท้องอืดมีหลายสาเหตุนอกเหนือจากมะเร็งลำไส้ใหญ่ อาการเหล่านี้อาจจะเป็นผลจากอาหารที่คุณกินหรือระบบทางเดินอาหารอาจส่งสัญญาณเตือนภัยว่าคุณได้กินอาหารเป็นพิษ โรคทางเดินอาหารอื่นๆ ที่สามารถก่อให้เกิดภาวะมีลมในช่องท้องและท้องอืด มีดังนี้
- โรคลำไส้แปรปรวน (Irritable bowel disease)
- ภาวะแพ้แลคโตส (Lactose intolerance)
- มีการผ่าตัดช่องท้อง (Abdominal surgery)
- โรคลำไส้อักเสบ (Crohn’s disease)
- อาการลำไส้แปรปรวน (Irritable bowel syndrome)
- ลำไส้ใหญ่มีแผลอักเสบ (Ulcerative colitis)
- อาการปวดท้องตำแหน่งส่วนโค้งลำไส้ใหญ่ (Splenic-flexure syndrome)
- ริดสีดวงภายในลำไส้ (Internal hernias)
- เนื้อเยื่อแผลเป็นจากการผ่าตัดหรือได้รับบาดเจ็บ (Adhesions (scar tissue from surgery or injury)
อาหารที่กระตุ้นให้เกิดอาการท้องอืด
อาหารและเครื่องดื่มบางชนิดที่สามารถก่อให้เกิดลมในช่องท้อง (และกลิ่นเหม็น) มีดังนี้
- เบียร์และน้ำอัดลม (ประเภทมีฟอง)
- หัวหอม
- ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง (เต้าหู้/นมถั่วเหลือง)
- ถั่วงอก
- ธัญพืช
- แตงกวา
- ผลิตภัณฑ์นม (ชีส นม เนย)
- อาหารแปรรูป
- เส้นใยที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ
- ผักตระกูลกะหล่ำ (ดอกกะหล่ำและบรอกโคลี)
อาหารบางรายการอาจเพิ่มกลิ่นเหม็นของลมในท้อง รวมทั้งหน่อไม้ฝรั่ง ไข่ กระเทียม หัวหอม ปลา และผักตระกูลกะหล่ำ
การลดลมในช่องท้อง
คุณสามารถเริ่มต้นทำรายการอาหารประจำวันเพื่อดูว่าอาหาชนิดใดที่ก่อให้เกิดก๊าซ ควรทำเป็นตารางแสดงชนิดอาหารหรือเครื่องดื่มที่คุณกินและอาการและความรู้สึกไม่สบายหลังจากทานอาหารชนิดนั้น เช่น นมและรายงานผลของอาการให้แพทย์ทราบ ควบคู่ไปกับอาหารที่คุณกิน
ภาวะท้องอืดและมีลมในช่องท้อง อาจเกิดจากระบบการเคี้ยวหรือกลืนอาหาร หรือนิสัยอื่นๆ ที่ทำขณะกินอาหาร ที่พบบ่อยๆ คือ
- การสูบบุหรี่
- เคี้ยวหมากฝรั่ง
- การรับประทานอาหารเร็วเกินไป
- ฟันปลอมที่ไม่กระชับ
- ดื่มน้ำหรือของเหลวผ่านหลอด
- กลืนอากาศ หรือ อ้าปากขณะกิน
สิ่งที่เข้าไปในร่างกายจะต้องผ่านออกมา ไม่ว่าจะผ่านระบบทางเดินอาหารส่วนบน (เช่น การเรอ) หรือผ่านระบบทางเดินอาหารส่วนล่าง (ผายลม) อากาศที่เข้าไปในร่างกายมากเท่าใด ไม่ว่าจะเป็นลมที่เกิดจากเครื่องดื่มหรืออาหาร ร่างกายมีขบวนการที่ต้องขับก๊าซหรือลมออกจากร่างกายมากขึ้น เพื่อลดอาการปวดจากภาวะท้องอืด
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ภาวะมีลมในช่องท้องและมะเร็งลำไส้ใหญ่
ภาวะมีลมในช่องท้องและอาการท้องอืดเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ การอุดตันภายในลำไส้ใหญ่ที่เกิดจากเนื้องอกอาจนำไปสู่ภาวะมีลมในช่องท้องและท้องอืดได้ หากคุณมีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคทางพันธุกรรมเนื้องอก หรือมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ควรพูดคุยกับแพทย์ของคุณเกี่ยวกับการนัดเพื่อตรวจสอบคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่
การทดสอบ
หากคุณมีภาวะมีลมในช่องท้องและท้องอืด และรู้สึกไม่สบายบ่อยๆ (ไม่ได้เป็นเรื่องเพียงครั้งเดียวหลังจากทาอาหารมื้อใหญ่) แพทย์อาจสั่งให้มีการทดสอบบางอย่างเพื่อหาสาเหตุ ดังนี้
- เอกซเรย์ช่องท้อง
- ตรวจระบบกระเพาะและลำไส้ส่วนบน (Upper gastrointestinal series)
- การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ (sigmoidoscopy)
- การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่และทวารหนัก (colonoscopy)
การทดสอบเหล่านี้พร้อมกับตรวจประวัติเจ็บไข้ของครอบครัวจะช่วยให้แพทย์วินิจฉัยความผิดปกติของทางเดินอาหารที่เกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น (รวมทั้งโรคมะเร็ง) ที่อาจก่อให้เกิดภาวะมีลมในช่องท้องและท้องอืด
ภาวะมีลมในช่องท้องหลังจากการผ่าตัดลำไส้ใหญ่
ถ้าคุณได้รับการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยการผ่าตัดลำไส้ (colectomy) และได้รับการทำเปลี่ยนช่องทางอุจจาระ (colostomy) แพทย์จะสั่งให้คุณกินอาหารกากใยน้อยประมาณหนึ่งสัปดาห์ อาหารที่คุณกินจะย่อยง่ายและไม่ทำให้คุณรู้สึกไม่สบายจากภาวะมีลมในช่องท้องและท้องอืด ควรระมัดระวังเป็นพิเศษกับนิสัยการขับถ่ายของลำไส้ การทำเปลี่ยนช่องทางอุจจาระ (colostomy) อาจทำให้เกิดท้องผูก การใช้วิธีสวนอุจจาระอาจนำไปสู่การระคายเคืองของลำไส้ใหญ่และเกิดภาวะมีลมในช่องท้องมากเกินไป