อาการซุ่มซ่าม เงอะงะ หมายถึง การมีปัญหาในการประสานสัมพันธ์ของร่างกาย มีปัญหาในการเคลื่อนไหว หรือมีปัญหาในการทำกิจกรรมใดๆ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บที่ร้ายแรงได้
ถ้าหากพบอาการซุ่มซ่าม เงอะงะ ที่เป็นอย่างเฉียบพลัน หรือเป็นนานเรื้อรัง จนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันหรือสุขภาพร่างกาย ก็อาจเป็นไปได้ว่ามีสาเหตุมาจากโรคอื่นๆ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
อาการซุ่มซ่าม เงอะงะ ที่พบได้บ่อย
อาการซุ่มซ่าม เงอะงะ เป็นอาการที่พบได้ในทุกเพศ และทุกวัย แต่มักจะพบได้มาก ในผู้ที่อยู่ในช่วงวัยต่อไปนี้
- อาการซุ่มซ่าม เงอะงะในเด็ก : ปัญหาในการประสานสัมพันธ์ของร่างกายในเด็กถือเป็นเรื่องปกติ เพราะเด็กกำลังอยู่ในวัยหัดยืนและหัดเดิน แต่ ในเด็กที่มีปัญหาเรื่องของสมาธิ อาจพบปัญหาด้านการประสานสัมพันธ์ของร่างกายมากกว่าปกติ เพราะเด็กเหล่านี้จะใส่ใจหรือระวังตัวต่อสิ่งรอบข้างน้อยลง ถ้าคุณรู้สึกว่าบุตรหลานของคุณมีอาการซุ่มซ่าม เงอะงะ มากผิดปกติ ก็ควรพาบุตรหลานไปพบแพทย์ เพราะอาจเกิดจากปัญหาเหล่านี้
- ปัญหาในการมองเห็น
- เท้าแบน หรือไม่มีส่วนโค้งของเท้า
- โรคสมาธิสั้น (Attention Deficit Hyperactivity Disorder (ADHD))
- โรคออทิสติก (Autism Spectrum Disorder (ASD))
- อาการซุ่มซ่าม เงอะงะ ในผู้สูงอายุ : ผู้สูงอายุจะเริ่มมีปัญหาในการประสานงานของมือ เนื่องจากผู้สูงอายุจะให้ความสนใจที่การทรงตัวเป็นหลัก ทำให้ความระมัดระวังต่อสิ่งกีดขวางรอบๆ ตัวลดน้อยลง แต่ถ้ารู้สึกว่าผู้สูงอายุมีอาการซุ่มซ่าม เงอะงะมากกว่าปกติ ให้พาไปพบแพทย์ เพราะอาการนี้อาจเป็นสัญญาณของโรคทางระบบประสาท (Neurological Disorder)
- อาการซุ่มซ่าม เงอะงะ ระหว่างตั้งครรภ์ : ในขณะที่มีการตั้งครรภ์ดำเนินไป ร่างกายของคนท้องอาจมีการเปลี่ยนจุดศูนย์ถ่วงและส่งผลกระทบต่อการทรงตัว ทำให้มีความเสี่ยงในการสะดุดหรือเดินชนสิ่งของต่างๆ มากขึ้น แนะนำให้เคลื่อนไหวช้าๆ และขอความช่วยเหลือหากทำอะไรหล่น เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บระหว่างตั้งครรภ์
สาเหตุของอาการซุ่มซ่าม เงอะงะ
อาการซุ่มซ่าม เงอะงะ จะเกิดขึ้นได้ถ้าคุณใจลอย วอกแวก หรือไม่สนใจต่อสิ่งรอบข้าง แต่ถ้าหากเกิดขึ้นบ่อยครั้งและมีอาการผิดปกติอื่นๆ ร่วมอยู่ด้วย อาจมีสาเหตุมาจากโรคดังต่อไปนี้
- โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) : เกิดขึ้นเมื่อมีลิ่มเลือดอุดตันในสมองทำให้เลือดไหลเวียนลดลง ซึ่งทำให้สมองขาดออกซิเจนและทำให้เซลล์สมองเริ่มตาย ระหว่างการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยบางรายจะมีอาการอัมพาตหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง ทำให้มีปัญหาในการประสานสัมพันธ์ของร่างกายและทำให้เดินสะดุดได้ และมักจะมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย ได้แก่
- พูดไม่ชัด
- รู้สึกเหมือนถูกเข็มทิ่มที่แขนหรือขา
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือมีอาการชา
- ปวดศีรษะ
- เวียนศีรษะ
- อาการชัก (Seizures) : บางครั้งอาการชักอาจแสดงอาการคล้ายกับอาการซุ่มซ่าม เงอะงะ เฉียบพลันได้ ซึ่งมักพบในผู้ป่วยที่มีอาการชักในประเภทดังต่อไปนี้
- Complex Partial Seizures : ผู้ป่วยมักมีอาการเหมือนกำลังจ้องมองไปในความว่างเปล่าขณะกำลังทำกิจกรรมใดๆ จากนั้นจะเริ่มมีพฤติกรรมผิดปกติ เช่น
- พูดอู้อี้
- ดึงถอดเสื้อผ้า
- หยิบจับสิ่งของ
- Myoclonic Seizures
- Atonic Seizures
- Complex Partial Seizures : ผู้ป่วยมักมีอาการเหมือนกำลังจ้องมองไปในความว่างเปล่าขณะกำลังทำกิจกรรมใดๆ จากนั้นจะเริ่มมีพฤติกรรมผิดปกติ เช่น
- วิตกกังวลและความเครียด (Anxiety and Stress) : ระบบประสาทที่ทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ อาจทำงานผิดปกติขณะที่มีความเครียดหรือวิตกกังวลเฉียบพลัน ซึ่งทำให้มีอาการมือสั่น มองเห็นสิ่งแวดล้อมต่างๆ และการทำกิจกรรมต่างๆ ผิดปกติไป ส่งผลให้มีโอกาสเดินชนสิ่งของหรือเดินชนผู้อื่นง่ายขึ้น
- เนื้องอกในสมอง (Brain Tumor) : ก้อนเนื้องอกชนิดไม่ใช่มะเร็ง หรือเนื้องอกชนิดมะเร็งที่เกิดขึ้นในสมองสามารถส่งผลต่อการทรงตัวและการประสานสัมพันธ์ของร่างกายได้ ถ้าคุณเป็นเนื้องอกในสมอง อาจมีอาการดังต่อไปนี้ร่วมอยู่ด้วย
- โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s Disease) : โรคที่ส่งผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง และทำให้ระบบควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายผิดปกติไป อาการในระยะเริ่มแรกจะไม่รุนแรง แต่อาจมีอาการมือสั่น และมีปัญหาในการประสานสัมพันธ์ของร่างกาย โดยอาการและอาการแสดงอื่นๆ ร่วมด้วย ได้แก่
- การรับกลิ่นรสไม่ดี
- การนอนหลับผิดปกติ
- ท้องผูก
- พูดเสียงเบา ฟังไม่ชัด
- ใบหน้าเฉยเมย ไม่มีอารมณ์ ไม่ยิ้ม เหมือนคนใส่หน้ากาก (Masked Face)
- โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s) : โรคที่มีความเสียหายและมีการตายของเซลล์สมองอย่างช้าๆ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์มักมีปัญหาด้านความจำ มีปัญหาในการทำกิจกรรมที่ทำเป็นประจำ และอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการประสานสัมพันธ์ของร่างกาย
- ดีย์สแพร็กเซีย (Dyspraxia) : โรคที่มีความบกพร่องในการประสานสัมพันธ์ของร่างกาย (Developmental Coordination Disorder (DCD)) ทำให้เด็กมีการประสานสัมพันธ์ของร่างกายช้ากว่าเด็กในวัยเดียวกัน ซึ่งไม่ได้เกิดจากความบกพร่องในการเรียนรู้หรือจากโรคทางระบบประสาท
- ยาเสพติดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ : คุณอาจมีอาการซุ่มซ่าม เงอะงะ ที่เกิดขึ้นเนื่องจากความมึนเมาหรือพิษของสิ่งเสพติดเหล่านี้ ทำให้สมองทำงานได้แย่ลง
- สาเหตุอื่นๆ : การเคลื่อนไหวที่ไม่ประสานสัมพันธ์กัน อาจเกิดขึ้นได้จากปัจจัยต่อไปนี้
- นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
- เป็นโรคข้ออักเสบ
- การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาต้านวิตกกังวล ยาต้านเศร้า และยากันชัก
การรักษาอาการซุ่มซ่าม เงอะงะ
การวินิจฉัยหาสาเหตุของปัญหาในการประสานสัมพันธ์ของร่างกายนั้นทำได้ยาก เพราะอาการนี้เป็นอาการของโรคหลายชนิด ซึ่งแพทย์อาจจะทำการซักประวัติทางการแพทย์ รวมถึงอาการอื่นๆ ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ และอาจจำเป็นต้องตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมเพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรค เพื่อรักษาโรคที่กำลังเป็นอยู่ก่อน ซึ่งจะช่วยลดอาการซุมซ่ามเงอะงะลงอย่างได้ผลที่สุด
ที่มาของข้อมูล
Valencia Higuera, What Causes Clumsiness? (https://www.healthline.com/symptom/clumsiness), August 9, 2016.