คือจามบ่อยมากๆค่ะแล้วก็มีน้ำมูกไหลเยอะมีไข้นิดหน่อยค่ะแล้วก็หายเป็นประมาณ2-3วันแล้วตื่นเช้ามีเหมือนมีอะไรมาติดที่คอตอนแรกคิดว่าก้างปลาเลยกลืนข้าวตามปกติแล้วมันไม่หายกลืนน้ำลายก็เจ็บคอเข็บเหมือนมีก้างปลาติดคออ่ะค่ะแต่ไม่ทราบว่ามันคืออะไร

กลืนน้ำลายแล้วเจ็บ อาจเกิดจาก

-คออักเสบติดเชื้อ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส
-ต่อมทอนซิลอักเสบ
-ไข้หวัด
-ภูมิแพ้
-กรดไหลย้อน
-เส้นเสียงอักเสบ
-รับประทานอาหารรสจัด
-สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์
เป็นต้น

เบื้องต้นแนะนำ ดื่มน้ำมากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ งดรับประทานอาหารรสจัด/ของเผ็ด งดบุหรี่/แอลกอฮอล์ ไม่ทานอาหารมื้อดึก และแนะนำให้ไปพบแพทย์ เพื่อตรวจร่างกายบริเวณคอ จะได้รักษาตามโรคที่นึกถึงต่อไปครับ

สวัสดีครับ
อาการดังกล่าว หากเป็นอย่างเฉียบพลัน อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ เช่น
-ฝุ่นควัน มลพิษ
-การติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจ เช่น หวัด คออักเสบ หรือ ไซนัวอักเสบ (หากเป็นไซนัสอักเสบ คนไข้ อาจมีไข้ ปวดตามใบหน้า แน่นจมูก การได้กลิ่นลดลง น้ำมูกเขียวข้น เป็นต้น ครับ)
**การรักษาโรคในสามอย่างแรก แนะนำว่า
-ให้หลีกเลี่ยงที่ชุมชน
-ใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละออง
พักผ่อนให้เพียงพอ
-ดื่มน้ำอุ่นมากๆ
-ทำร่างกายให้อบอุ่น หลีกเลี่ยงการเปิดแอร์เย็นจัด
-ทานอาหารที่มีประโยชน์
-ไม่แนะนำให้สั่งน้ำมูกแรงๆ เนื่องจากอาจทำให้เส้นเลือดฝอยในจมูกแตกและมีเลือดออกมา นอกจากนี้ อาจทำให้โพรงไซนัสอักเสบได้ วิธีที่ดีที่สุด คือ การล้างจมูกจนสะอาด ด้วยน้ำเกลือครับ ทำได้บ่อยๆ เวลาคัดจมูก
-การทานยาลดน้ำมูก หรือยาแก้ไอ หรือยาลดไข้ ที่สาทารถซื้อได้ตามร้านขายยา เช่น chlorpheniramine , bromhexine , guifenesin ตามสมควรครับ

หากอาการเป็นมาก เช่น ไข้สูงมาก มีจุดเลือดออกตามตัว ปวดตามหน้า น้ำมูกเขียวมีกลิ่น แนะนำให้ไปพบแพทย์ครับ

>>ส่วนโรคที่อาจเป็นแบบเฉียบพลัน หรือเรื้อรังก็ได้ ได้แก่ โรคภูมิแพ้จมูกครับ

โรคภูมิแพ้ จมูก จะมีอาการคือ คันหู คันตา คันจมูก บางคนมีอาการจามบ่อยๆ คัดจมูกเป็นต้น
>>ซึ่งอาการ มีตั้งแต่เล็กน้อย คือ ไม่รบกวนชีวิตประจำวัน ไปจนถึง อาการที่มากปานกลางและรุนแรง คือ รบกวนชีวิตประจำวัน เช่น คัดจมูกมาก ไม่มีสมาธิในการทำงาน นอนไม่หลับ เป็นต้น
>>และอาการ ก็จะแบ่งตามการช่วงเวลาเป็นได้อีกสองแบบคือ เป็นๆหายๆ( น้อยว่า 4 วันต่อสัปดาห์ติดกันน้อยกว่า 4 สัปดาห์) กับอาการเป็นตลอด (มากกว่า 4 วันต่อสัปดาห์ มากกว่า 4สัปดาห์ติดกัน) ซึ่งที่ต้องแบ่งแบบนี้ เนื่องจากการรักษาแตกต่างกันครับ
>>การประเมินเพิ่มเติม เพื่อรักษาโรคภูมิแพ้จมูกที่มีประสิทธิภาพ ได้แก่ การ ตรวจผิวหนัง (SPT) ว่าแพ้สารก่อภูมิแพ้แบบไหน เช่น ไรฝุ่น แมลงสาบ เกสรดอกไม้ แมว เป็นต้น หรือการ ตรวจเลือด (specific IgE) ครับ.
>>นอกจากนี้ หากมีอาการรุนแรงที่บ่งบอกว่า อาจไม่ใชามีอาการเพียงภูมิแพ้จมูกเพียงอย่างเดียว แต่อาจมีโรคร่วม หรือภาวะแทรกซ้อน เช่น ริดสีดวง จมูก ไซนัสอักเสบ เนื้องอก ในโพรงจมูก ->—คนไข้จะมีอาการอื่นนอกจากอาการที่กล่าวมา ได้แก่ น้ำมูกเขียวข้น น้ำมูกไหลจากจมูกด้านเดียว มีเลือด/หนองไหลจากจากจมูก มีไข้เป็นๆหายๆ เป็นต้นครับ
>>การรักษาโรคภูมิแพ้จมูก คือ
อย่างแรก คือ การ หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ที่ตนเองแพ้
- ซักผ้าห่มผ้าปูบ่อยๆ ด้วยน้ำที่อุณหภูมิมากกว่า 55องศาเซลเซียส
- จัดห้องให้โล่งสะอาด ไม่มีพรม หรือ ตุ้กตา
- ไม่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงในบ้าน
- ไม่สูบบุหรี่
-
อย่างที่สอง คือการใช้ยา ได้แก่ ยา antihistamine ซึ่งมีหลายแบบครับ เช่น cetirizine , fexofenadine เป็นต้น , ยาสเตียรอยด์พ่นจมูก เช่น fluticasone เป็นต้น ซึ่งเป็นยาที่ดี่ที่สุดขณะนี้ครับ

>>หากคนไข้ต้องการตรวจเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้จมูก แนะนำให้ปรึกษา กุมารแพทย์/อายุรแพทย์โรคภูมิแพ้และวิทยาภูมิคุ้มกัน , แพทย์หู คอ จมูก ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิแพ้และไซนัสครับ