July 29, 2019 03:12
ตอบโดย
พิมพกา ชวนะเวสน์ (สูตินรีแพทย์)
อาจมีการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะค่ะ ควรไปพบแพทย์ เพื่อตรวจปัสสาวะยืนยันค่ะ
ถ้ามีการอักเสบจริง รักษาด้วยยาฆ่าเชื้อค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
ที่เจอบ่อยคือติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หรืออื่นๆ เช่น ภาวะกระเพาะปัสสาวะไวเกิน(Overactive Bladder)
แนะนำพบเเพทย์ตรวจปัสสาวะครับ
....
ฟังจากอาการ น่าจะเป็น กระเพาะปัสสาวะ หรือ ท่อปัสสาวะอักเสบ
อาการคือ
- ขณะถ่ายปัสสาวะ มีอาการแสบบริเวณปลายท่อปัสสาวะ หรือบริเวณปากช่องคลอด
- ถ้ามีภาวะกระเพาะปัสสาวะอักเสบร่วมด้วย ก็จะมีอาการปัสสาวะบ่อยทั้งกลางวัน กลางคืน ปัสสาวะแสบ ปัสสาวะขัด กลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปัสสาวะแล้วรู้สึกว่าไม่สุดต้องไปปัสสาวะอีกแม้เพิ่งปัสสาวะเสร็จ
- บางคนอาจจะมีอาการปวด หรือแสบบริเวณท้องน้อยร่วมด้วยทั้งตอนปวดและไม่ปวดปัสสาวะครับ
ปัจจัยเสี่ยง เช่น
1.มีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้ง และหลายครั้งในเวลาอันสั้น
2.ดื่มน้ำน้อย
3.กลั้นปัสสาวะนาน ๆบ่อยๆ
4.ผู้ที่เคยรับการผ่าตัด หรือการรักษาด้วยการฉายแสงบริเวณกระเพาะปัสสาวะและอวัยวะเพศมาก่อนครับ
......
การรักษา คือการรับประทานยาฆ่าเชื้อครับ เช่น Ciprofloxacin
ร่วมกับ การป้องกันคือ
- ดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน
- ดูแลความสะอาดบริเวณปลายท่อปัสสาวะและอวัยวะเพศ
- มีกิจกรรมทางเพศอย่างเหมาะสม โดยหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ควรไปปัสสาวะและทำความสะอาดบริเวณท่อปัสสาวะ รวมถึงอวัยวะเพศครับ
- ไม่ควรกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานานเกินไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
อาการปัสสาวะบ่อย อาจมีสาเหตุมาจากหลายอย่างครับ ตัวอย่างเช่น
-การดื่มน้ำปริมาณมาก หรือ การชอบทานชา กาแฟ (คาเฟอีน) ซึ่งมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ
- การติดเชื้อ ทางเดินปัสสาว เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ กรวยไตอักเสบ เป็นต้นอาการคือ จะรู้สึกปัสสาวะไม่สุด ปวดปัสสาวะตลอดเวลา ปัสสาวะแสบขัด บางคนอาจมีการปัสสาวะเป็นเลือดร่วมด้วย หรือบางคนอาจทีไข้ หนาวสั่น ปวดหลัง ซึ่งโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะนี้ สามารถเกิดได้ทั้งจากเชื้อไวรัส และ แบคทีเรีย ค่ะ ข้อแนะนำเบื้องต้น คือ ควรได้รับการตรวจร่างกาย เพิ่มเติม อาจจะต้องตรวจปัสสาวะ และได้รับยาฆ่าเชื้อค่ะ ช่วงนี้แนะนำว่าให้ดื่มน้ำมากๆ และงดกลั้นปัสสาวะนะครับ
โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ถ้าเป็นไม่มาก ก็อาจจะเป็นเพียงกระเพาะปัสสาวะอักเสบ แต่หากคนไข้ไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ชอบกลั้นปัสสาวะ เป็นต้น และไม่รักษา อาจทำให้ลุกลามไปถึง กรวยไตและไตได้ครับ
>>โรคอื่นๆ ที่ทำให้ปัสสาวะบ่อยได้ เช่น
-อาการเริ่มแรกของโรคเบาหวาน อาจทำให้มีการปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะมาก น้ำหนักลด หิวบ่อย
-เบาจืด อาจปัสสสวะมาก และบ่อย
-ยาบางชนิด และการดื่มน้ำมากๆ
-ภาวะกระเพาะปัสสาวะทำงานมากกว่าปกติ
-สำหรับเพศชายที่อายุมาก อาจเกิดจากต่อมลูกหมากโต ได้ครับ
-ภาวะทางจิตใจ เช่น ความเครียด วิตกกังวล เป็นต้น
ดังนั้น หากอาการดังกล่าว รบกวนชีวิตประจำวัน ควรไปพบแพทย์ เพื่อหาสาเหตุเพิ่ทเติมนะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ปวดฉี่ตลอดเวลาเลยค่ะพอฉี่เสร็จก็ปวดเลยคือนอนไม่ได้ค่ะปวดตุงๆจะออกตลอดเวลาฉี่ไม่ถึง1ออนเลยด้วยซ้ำเป็นปัญหามากค่ะเพราะไม่ได้นอนปวดตลอดเวลาเวลาฉี่ออกมาไม่แสบนะคะจะเสียวๆชาๆหน่อย
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)