โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เป็นโรคที่พบบ่อยให้ผู้หญิง แทบจะกล่าวได้ว่า ผู้หญิงทุกคนมีโอกาสเป็นโรคนี้ในทุกช่วงชีวิต นับตั้งแต่เด็กถึงวัยชรา โรคนี้สามารถป้องกัน และรักษาได้ง่ายๆ แต่ถ้าปล่อยให้ลุกลามจนกลายเป็นโรคกรวยไตอักเสบเรื้อรัง ก็อาจทำให้เกิดภาวะไตวายเรื้อรังซึ่งยากแก่การเยียวยาได้
สาเหตุของกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ส่วนใหญ่มักจะเป็นเชื้อโรคที่มีอยู่ในอุจจาระของคนเราเชื้อเหล่านี้มักจะแปดเปื้อนอยู่ตรงบริเวณรอบ ๆ ทวารหนัก เนื่องจากการชำระหลังถ่ายอุจจาระไม่ถูกต้องสมบูรณ์ เชื้อโรคก็จะแปดเปื้อนต่อผ่านท่อปัสสาวะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้หญิงที่มีท่อปัสสาวะสั้น และอยู่ใกล้ทวารหนัก จึงง่ายที่จะติดเชื้อเข้าไปในท่อปัสสาวะส่วนผู้ชายมีโอกาสติดเชื้อน้อยมาก เนื่องจากท่อปัสสาวะยาว และอยู่ห่างจากทวารหนักมาก
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
เชื้อโรคส่งผลอย่างไรกับกระเพาะปัสสาวะ?
เมื่อเชื้อโรคเข้าไปอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ ถ้ามีการถ่ายปัสสาวะทุกครั้งที่รู้สึกปวด ก็สามารถขับเอาเชื้อโรคนั้นออกมาได้ ไม่เกิดการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะ แต่ถ้าอั้นปัสสาวะอยู่นาน เช่น เวลารถติด หรือเดินทางไปต่างจังหวัด (ไม่สามารถเข้าห้องน้ำ หรือกลัวห้องน้ำสาธารณะไม่สะอาด) หรือนอนกลางคืนแล้วขี้เกียจลุกเข้าห้องน้ำ หรือทำอะไรเพลินจนลืมเข้าห้องน้ำ เชื้อโรคที่เข้าไปในกระเพาะปัสสาวะจึงมีเวลานานพอที่จะแบ่งตัวเจริญแพร่พันธุ์ จนทำให้เกิดการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะ เกิดอาการขัดเบาขึ้นมาได้
อาการขัดเบาคืออะไร?
อาการขัดเบา คือ ถ่ายปัสสาวะกะปริบกะปรอย รู้สึกปวดขัด หรือแสบร้อนเวลาถ่ายปัสสาวะ มักจะต้องเข้าห้องน้ำทุกชั่วโมงหรือชั่วโมงละหลายครั้ง มีอาการคล้ายถ่ายไม่สุดอยู่ตลอดเวลา
บางคนอาจมีอาการปวดตรงบริเวณท้องน้อย (หัวหน่าว) ร่วมด้วย ปัสสาวะมักจะออกใส ๆ แต่บางคนอาจขุ่น หรือมีเลือดปน มักไม่มีไข้ ยกเว้นถ้ามีกรวยไตอักเสบร่วมด้วย จะมีไข้สูง หนาวสั่น ปัสสาวะขุ่น ปวดเอวร่วมด้วย ในเด็กเล็กอาจมีอาการปัสสาวะรดที่นอน และอาจมีไข้ เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย อาการมักเกิดขึ้นหลังจากการอั้นปัสสาวะนาน ๆ หรือมีการสวนปัสสาวะ