August 27, 2019 01:18
ตอบโดย
พิมพกา ชวนะเวสน์ (สูตินรีแพทย์)
ลักษณะของตกขาวปกติ จะมีลักษณะแตกต่างกันไปตามแต่ละช่วงของรอบเดือน
โดยช่วงก่อนไข่ตก (2 สัปดาห์ก่อนประจำเดือนมา) จะมีลักษณะเป็นมูกยืดๆ สีใส
หลังไข่ตก จะเปลี่ยนเป็นลักษณะสีขาวคล้ายแป้ง
อย่างไรก็ตาม ตกขาวปกติ จะไม่ทำให้มีอาการคัน ระคายเคือง หรือแสบช่องคลอด ไม่มีกลิ่นเหม็น และไม่มีอาการอื่น เช่น ปวดท้องน้อย หรือเป็นไข้ ร่วมด้วย
ถ้าตกขาวมีอาการผิดไปจากนี้ ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งมีหลายสาเหตุ จะมีลักษณะตกขาวต่างๆ กับไป เช่น
ตกขาว เหมือนแป้ง เป็นก้อน คล้ายคราบนมเด็ก คันมาก เกิดจากเชื้อรา
ตกขาว สีเหลือง กลิ่นเหม็น ปวดท้อง มีไข้ เกิดจาก อักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
ตกขาวสีขาว เทา กลิ่นคล้ายปลา เกิดจาก ไม่สมดุลย์ของแบคทีเรียในช่องคลอด
ซึ่งการรักษา จะรักษาตามสาเหตุ
เพราะฉะนั้น ถ้ามีลักษณะตกขาวผิดปกติไป ควรพบแพทย์ เพื่อตรวจภายในค่ะ จะได้รักษาตรงสาเหตุ
ประจำเดือนปกติ จะมีลักษณะดังนี้ค่ะ
1. มาสม่ำเสมอ ทุก 24-35 วัน โดยส่วนใหญ่ จะมาทุก 28 - 30 วันค่ะ
2. มาครั้งละ 3-7 วันค่ะ
3. ใช้ผ้าอนามัย วันละ ประมาณ 2-3 แผ่นค่ะ
4. มีอาการปวดท้องน้อยได้เล็กน้อย ช่วงวันแรกๆ ไม่ปวดรุนแรง
เลือดที่ออกรอบนี้ลักษณะไม่เหมือนประจำเดือนปกติค่ะ
เป็นเลือดออกกระปริบกระปรอย ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ
อันดับแรก ต้องเช็ดดูว่า ตั้งครรภ์หรือไม่ ??
ถ้าตั้งครรภ์ จะเป็นลักษณะของเลือดออกผิดปกติ จากภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ไตรมาสแรกค่ะ เช่น แท้ง ท้องนอกมดลูก
ถ้าไม่ตั้งครรภ์ เกิดได้จาก
- ความผิดปกติที่ปากมดลูก เช่น เซลล์ผิดปกติ ติ่งเนื้อที่ปากมดลูก
- ความผิดปกติ ในโพรงมดลูก เช่น เซลล์ผิดปกติ ติ่งเนื้อในโพรงมดลูก
- ความผิดปกติของฮอร์โมน เช่น ไข่ไม่ตก ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มีเลือดออกกระปริบกระปรอย
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
รอบเดือนของผู้หญิงปกติ จะมาประมาณ 3-7 วันครับ กรณีประจำเดือนมาน้อยกว่าปกติ (น้อยกว่า 2วัน หรือ มีเลือดประจำเดือนน้อยมาก หรือเป็นหยดเลือดเพียงเล็กน้อย) อาจมาจากหลายปัจจัยครับ
ตัวอย่างเช่น
1.ตั้งครรภ์ ผู้ที่ตั้งครรภ์อาจมีเลือดออกจากช่องคลอดแบบกะปริบกะปรอย ซึ่งอาจเป็นเลือดออก หลังจากที่ที่เกิดหลังการปฏิสนธิ เนื่องจากตัวอ่อนเคลื่อนไปยึดเกาะฝังตัวที่ผนังมดลูก โดยจะมีเลือดออกเพียง 1-2 วันเท่านั้น ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นเลือดประจำเดือนได้ อาจเกิดจากการคุมกำเนิดที่ผิดพลาด หรือไม่ได้คุมกำเนิดในขณะมีเพศสัมพันธ์ จึงควรตรวจการตั้งครรภ์หากพบอาการดังกล่าวครับ
2.ความเครียด
3.โรคทางระบบสืบพันธ์ เช่น ถุงน้ำรังไข่ (PCOS) ความผิดปกติของมดลูก ปากมดลูก เป็นต้น
4.ความผิดปกติของการสร้างฮอร์โมนเพศหญิง ไม่ว่าจะมาจากภายใน คือร่างกายของเราเอง หรือภายนอก เช่น การใช้ยาคุมกำเนิด ชนิดต่างๆ หรือการใช้ยาอื่นๆที่ส่งผลกระทบต่อการสร้องฮอร์โมนเพศ หรือ การตกไข่
5.การออกกำลำลังกายหรือทำงานหนักมากเกินไป พักผ่อนน้อย เป็นต้น
6.โรคประจำตัวอื่นๆ เช่น โรคไตเรื้อรัง anorexia การขาดสารอาหารอย่างรุนแรงเป็นต้น
เบื้องต้น แนะนำให้ไปตรวจร่างกายและตรวจภายในเพิ่มเติมนะครับ
นอกจากนี้ ถ้ามีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เช่น เคยมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ควรตรวจการตั้งครรภ์เป็นเบื้องต้นไว้ด้วยครับ
ส่วนการรักษาจะเป็นไปตามสาเหตุ เช่น การให้ฮอร์โมนเสริม การผ่าตัด เป็นต้นครับ
ส่วนอาการตกขาว
ผู้หญิงโดยปกติ ก็สามารถมีตกขาวได้ครับ ตกขาวมีสองแบบครับคือ ตกขาวที่ปกติ กับตกขาวที่ไม่ปกติ
1.ตกขาวที่ปกติ เป็นอิทธิพลจากฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิงครับลักษณะตกขาว จะเป็นสีขาวคล้ายมูก บางครั้งเหลืองปริมาณไม่มาก ลักษณะจะไม่เหมือนหนองนะครับ เป็นการหลุดลอกของบริเวณผิวเยื่อบุช่องคลอดครับ
2.ตกขาวที่ผิดปกติ คือตกขาวที่มีปริมาณมาก ลักษณะสีขาว/เหลืองเหมือนนมบูด อาจพบร่วมกับอาการคันช่องคลอดได้ หรือตกขาวมีสีต่างๆ เช่น เป็นน้ำสีเหลือง สีเขียว มีกลิ่นเหม็นหรือไม่มีกลิ่น แสบหรือเจ็บช่องคลอด บางคนอาจปวดท้องมีไข้ได้
>>>ซึ่งถ้าตกขาวของคนไข้ ไม่ได้คัน ไม่เจ็บ ไม่ทากจนต้องใช้ผ้านามัย ก็อาจเป็นตกขาวที่ปกติครับ
>>>หากมีอาการผิดปกติดังทีหมอกล่าวไป แนำนำให้ไปตรวจร่างกายกับแพทย์เพิ่มเติมครับ
>>>อนึ่ง สิ่งที่แนะนำเป็นพื้นฐานเสมอ คือ การรักษาสุขอนามัยทางเพศครับ
-สำหรับการดูแลสุขอนามัยที่ดีของบริเวณอวัยวะเพศ คือ การรักษาความสะอาดอยู่เสมอครับ
-เวลาล้าง ล้างด้วยน้ำสะอาดก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์หรือการสวนล้างช่องคลอดใดๆ หรือใช้สบู่อ่อนๆล้างรอบนอกอวัยวะเพศก็เพียงพอ
-ไม่แนะนำให้สวนล้างบ่อยๆ เนื่องจากช่องคลอดจะเสียสมดุลแบคทีเรียที่มีอยู่ตามปกติ และจะเป็นเชื้อราได้ง่าย
- ทำความสะอาดหลังปัสสาวะและหลังจากมีเพศสัมพันธ์
-เวลาเช็ดอวัยวะเพศหลังขับถ่าย ควรเช็ดจากหน้าไปหลัง
-กางเกงในไม่ควรคับ และแห้งไม่อับชื้น
- มีคู่นอนแค่คนเดียว และถ้าหากมีความเสี่ยงเกี่ยวกับการเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ ควรป้องกันทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เช่น การใส่ถุงยางอนามัย ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
อาการประจำเดือนที่บอกไปมีความเสี่ยงตั้งครรภ์สูงไหมค่ะ ประจำเดือนที่ออกมามันเกิด2วันอะค่ะเหมือนมาประจำเดือนปกติระก้หมดไปอะค่ะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
การที่มีประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอนั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- มีปัญหาการตกไข่ที่ไม่สม่ำเสมอ
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- รังไข่ผิดปกติ เช่น การมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่
- ความเครียด/วิตกกังวล/อารมณ์แปรปรวน
- การออกกำลังกายที่หนักไป
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยไป
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- ตั้งครรภ์
เป็นต้นครับ
ถ้ามีความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ อาจลองตรวจการตั้งครรภ์ และแนะนำให้พักผ่อนมากๆ หลีกเลี่ยงความเครียด/ออกกำลังกายหักโหม พยายามลดน้ำหนัก ดีที่สุดอยากให้พบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัด เพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปกติประจำเดือนจะมาวันที่12ของทุกเดือนค่ะแต่เลื้อนมาวันที่16แต่ประจำเดือนมาน้อยมากค่ะไม่เต้มผ้าอนามัยตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้ายพอเหม้นหมดเหมือนเริ่มมีอาการคันในช่องคลอดค่ะและเริ่มมีกลิ่นคาวเหม้นตอนแรกก้นึกว่าประจำเดือนยังไม่หมดก้ใส่ผ้าอนามัยมาตลอดมาสังเกตุดูเปนน้ำสีเหลืองๆเหลวนึดๆค่ะอยากทราบว่าเปนเพราะอะไรค่ะเปนมาได้1-2อาทิตแร้วค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)