สวัสดีค่ะ เคยผ่าตัดเนื้องอกที่หน้าอกมาได้ปีกว่าแล้ว แต่ตอนนี้มีอาการเจ็บหน้าอกตรงแผลที่ผ่า ยืดอกสุดไม่ได้และยกแขนข้างที่ผ่าไม่ได้เพราะเจ็บแบบจี้ดๆ กดตรงแผลผ่าตัดก็มีอาการเจ็บค่ะ อยากทราบว่าสาเหตุเกิดจากอะไรคะ อันตรายไหม และมีวิธีรักษาอย่างไรบ้างคะ ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับ สำหรับอาการเจ็บหน้าอก สามารถเป็นได้หลายอย่างครับ เช่น  
1.หัวใจขาดเลือด จะเจ็บ แน่นๆใต้หน้าอก นานเกิน 10 นาที อาจจะปวดร้าว ไปแขน หรือกรามซ้ายได้ครับ  
2.กล้ามเนื้อและกระดูกอ่อนอักเสบ จะปวด เป็นบางจุด สามารถระบุได้ชัดเจนเมื่อขยับแขน เคยทำงานหนักมาก่อนที่จะปวด การรักษา คือการกินยาแก้ปวด และนอนพักครับ  
3.กรดไหลย้อน คือ จะเจ็บแสบ ที่กลางหน้าอก หายใจไม่ออก  
4.ภาวะวิตกกังวล ตื่นเต้น จะเกิดจากปัญหาทางจิตใจ ได้ครับ
5.ผนังหลอดเลือดแดงใหญ่เกิดการฉีกขาด หรือ เรียกว่า aortic dissection ครับ ซึ่งจะมีอากาาเจ็บปวดอย่างมาก เหมือนมีดแทง จะปวดทะลุไปหลัง ปวดมาก กินยาแก้ปวดยังไงก็ไม่หาย สาเหตุมักจะเกิดจาก ความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นภาวะที่อันตรายมาก การรักษาคือ การใส่ขดขวด เข้าไปปิดรูที่เกิดการฉีกขาด เป็นต้นครับ

เนื่องจากอาการเจ็บอกมีได้หลายอย่าง ไม่สามารถยืนยันได้ครับว่าเจ็บหน้าอกจากอะไร เบื้องต้นแนะนำว่าควรไปตรวจเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลครับ

แต่ในกรณีที่เป็นมะเร็งเต้านม ต้องดูด้วยครับว่าระยะไหน รักษาอย่างไรไป

แนะนำว่าควรไปตรวจที่โรงพยาบาลเพิ่มครับ

อาจเกิดได้จากผังผืด fibrosis จากแผลผ่าตัดเดิม ก้อนเนื้องอกที่อาจเกิดใหม่อรงมทั้งกล้ามเนื้ออักเสบ บริเวณนั้นครับ ฉะนัเนแนะนำให้คนไข้ไปพบศัลยแพทย์เพื่อประเมินแผล ตรวจร่างกาย เพื่อหาก้อนเนื้ออื่นๆ ที่อาจเกิดซ้ำ รวมทั้งตรวจเอกซเรย์ อัลตร้าซาวน์ ครับ เพื่อรับการรักษาและหาสาเหตุที่เหมาะสมครับ

ภาวะที่มีอาการเจ็บบริเวณแผลผ่าตัดยืดอกได้ไม่สุด ยกแขนข้างที่ผ่าไม่ได้ เกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งแบ่งตามสาเหตุได้คร่าวๆ
-ภาวะพังผืดกล้ามเนื้อ ภายหลังการผ่าตัดอาจมีการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ ซึ่งทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้ออักเสบ ซึ่งหากไม่ได้ทำกายภาพในระยะหลังผ่าตัดแรกๆ อาจจะมีพังผืดเกิดขึ้น ซึ่งการตัดเต้านมจะมีการรบกวนกล้ามเนื้อบริเวณนั้นๆ เช่น กล้ามเนื้อที่ช่วยการกางแขน ซึ่งอาจจะทำให้กางแขนได้ไม่สุด เป็นต้น
-ภาวะเส้นประสาทบาดเจ็บ ภายหลังการผ่าตัด อาจมีการบาดเจ็บของเส้นประสาท ทั้งการบาดเจ็บชั่วคราวและการบาดเจ็บถาวร ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอาการชาบริเวณหน้าอกข้างที่ผ่าตัด หรืออาจชาไปจนถึงแขนก็ได้ โดยมาอาการชาถ้าผ่านไปประมาณ 1 ปี อาการจะไม่ดีขึ้นมาก เนื่องจากเส้นประสาทค่อนข้างฟื้นฟูได้เต็มที่แล้ว อาจจะต้องอาศัยการกายภาพเพิ่มเติม
-ภาวะการบาดเจ็บของต่อมน้ำเหลือง ภายหลังการผ่าตัดเต้านมมักมีการตัดน้ำเหลืองบริเวณข้างเคียงออกไป ซึ่งบางครั้งอาจทำให้เกิดภาวะน้ำเหลืองไม่สามารถวิ่งได้ดีและมีการคั่ง โดยมากมักมีอาการร่วมด้วยคือแขนบวม
- ภาวะการดึงรั้งของผิวหนัง เนื่องจากให้ประวัติร่วมมีแผลเป็นที่มีพังผืด อาจจะทำให้ผิวหนังค่อนข้างตึงยังไม่ยืดหยุ่นมากพอทำให้การเคลื่อนของแขนและบริเวณทรวงอกมีการจำกัด เป็นต้น
โดยมากการรักษาจะรักษาตามสาเหตุที่เป็นเช่น หากมีพังผืดกล้ามเนื้อ อาจจะต้องทำกายภาพร่วมกับรับประทานยาลดอาการอักเสบในบางครั้ง หากเป็นเส้นประสาทอาจมียาลดอาการชา เช่น Gabapentinเพื่อช่วยลดอาการชาหรือเสียวแปล๊บบริเวณหน้าอก ซึ่งการหาสาเหตุต้องอาศัยการตรวจร่างกายเพิ่มเติม แนะนำพบแพทย์ใกล้บ้านเพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องค่ะ