อาการเจ็บหน้าแข้ง คือ อาการเจ็บปวดบริเวณหน้าขาส่วนล่างที่เป็นท่อนขาระหว่างเข่ากับข้อเท้า อาการนี้มีอีกชื่อเรียกทางการแพทย์ว่า "ภาวะ Medial Tibial Stress Syndrome (MTSS)"
อาการเจ็บหน้าแข้งสามารถเกิดขึ้นได้บ่อยๆ กับผู้ที่มีกิจกรรมทางร่างกายระดับปานกลางถึงหนักเป็นประจำ เช่น การเล่นกีฬาเทนนิส ฟุตบอล หรือบาสเก็ตบอลเป็นเวลานานๆ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
อาการเจ็บหน้าแข้งเป็นภาวะบาดเจ็บสะสม (Cumulative Stress Disorder) ที่เกิดจากการถูกทุบ หรือมีแรงกดซ้ำๆ ที่กระดูก กล้ามเนื้อ และข้อต่อของขาส่วนล่างจนขัดขวางการฟื้นตัวกับการซ่อมแซมตามธรรมชาติของร่างกายลง
บางครั้งอาจพบอาการเจ็บหน้าแข้งที่มีความรุนแรงมากจนทำให้ดำเนินกิจกรรมอื่นๆ ไม่ได้เลย
อาการเจ็บหน้าแข้ง
ผู้ที่มีอาการเจ็บแข้ง มักจะมีอาการต่อไปนี้ร่วมอยู่ด้วย
- อาการปวดทื่อๆ ที่หน้าขาส่วนล่าง
- อาการปวดระหว่างออกกำลังกาย
- อาการปวดข้างๆ กระดูกหน้าแข้ง
- อาการปวดกล้ามเนื้อ
- อาการเจ็บปวดตามแนวด้านในขาส่วนล่าง
- อาการกดเจ็บหรือปวดเมื่อยตามแนวขาส่วนล่าง
- อาการบวมในขาส่วนล่าง หากมีจะไม่ค่อยรุนแรงมาก
- อาการชาและอ่อนแรงที่ขา
สาเหตุของอาการเจ็บหน้าแข้ง
อาการเจ็บหน้าแข้ง มักเป็นผลจากการที่เนื้อเยื่อ กระดูกและกล้ามเนื้อหน้าแข้งได้รับแรงในปริมาณมากเกินไป จึงทำให้กล้ามเนื้อบวมและเพิ่มแรงกดกระดูกมากขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการเจ็บปวดและการอักเสบข
บางครั้งอาจพบอาการเจ็บหน้าแข้งที่เป็นจากภาวะกระดูกร้าว โดยภาวะนี้เกิดจากแรงกระแทกต่อเนื่องจนทำให้เกิดรอยร้าวขึ้นที่กระดูกขา แต่ภาวะนี้สามารถหายได้เองจากการฟื้นตัวตามธรรมชาติของร่างกาย
เว้นแต่ร่างกายจะไม่ได้พักจนไม่มีเวลาพอจะฟื้นตัว ซึ่งอาจทำให้รอยร้าวเหล่านั้นมีมากขึ้นจนทำให้กระดูกหักในเวลาต่อมา
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
มีกิจกรรมมากมายที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่ออาการเจ็บหน้าแข้ง ได้แก่
- ความผิดปกติทางสรีรวิทยาของร่างกาย เช่น อาการเท้าแบน (Flat Foot)
- กล้ามเนื้อที่ต้นขาหรือบั้นท้ายอ่อนแรง
- ร่างกายขาดความยืดหยุ่น
- ใช้เทคนิคฝึกร่างกายที่ไม่เหมาะสม
- การวิ่งลงเนิน
- การวิ่งบนพื้นที่ไม่สม่ำเสมอ
- การวิ่งบนพื้นแข็ง เช่น บนถนนคอนกรีต
- การวิ่งหรือออกกำลังกายขณะสวมใส่รองเท้าที่เสื่อมสภาพ หรือไม่เหมาะสม
- การเล่นกีฬาที่มีการหยุดและดันร่างกายเร็วไป เช่น ฟุตบอล หรือสกีลงเนิน
เมื่อไรที่ควรไปพบแพทย์?
ควรไปพบแพทย์หากอาการเจ็บแข้งไม่ตอบสนองต่อการรักษาทั่วไป หรือหากพบอาการอื่นๆ ดังนี้
- มีอาการเจ็บปวดรุนแรงที่หน้าแข้งหลังจากล้ม หรือประสบอุบัติเหตุ
- เมื่อสัมผัสหน้าแข็งจะรู้สึกถึงความร้อนภายใน
- หน้าแข้งมีอาการบวมอย่างเห็นได้ชัด
- มีอาการเจ็บที่แข้งแม้ว่า กำลังพักผ่อนอยู่
การวินิจฉัยอาการเจ็บหน้าแข้ง
แพทย์จะสามารถวินิจฉัยอาการเจ็บหน้าแข็งได้ระหว่างการตรวจร่างกาย โดยจะมีการสอบถามเกี่ยวกับประเภทของกิจกรรมทางร่างกายที่เกิดขึ้น และความบ่อยที่ทำกิจกรรมนั้นๆ
หากแพทย์สงสัยว่า อาการเจ็บหน้าแข็งอาจเกิดจากภาวะกระดูกร้าว หรือภาวะอื่นๆ แพทย์ก็อาจพิจารณาให้มีการทดสอบเพิ่มเติม เช่น การถ่ายภาพ หรือการเอกซเรย์
การรักษาอาการเจ็บหน้าแข้ง
ปกติแล้วการรักษาอาการเจ็บแข้ง สามารถทำได้ด้วยการหยุดพักจากกิจกรรมทางร่างกายบางอย่างเพื่อให้ขาได้เวลาพักบ้าง โดยหลังการพักผ่อนไม่กี่ชั่วโมงหรือ 1-2 วันจะรู้สึกได้ทันทีว่าอาการเจ็บจะลดลง หรือเกือบหายเป็นปกติ
ระยะเวลาการพักฟื้นที่แนะนำ คือ ประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งในช่วงนี้สามารถออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดิน หรือว่ายน้ำได้บ้าง และควรปฏิบัติดังต่อไปนี้เพื่อให้อาการดีขึ้น
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- ยกขาให้สูง
- ประคบน้ำแข็งเพื่อลดอาการบวม
- รับประทานยาต้านอักเสบที่หาซื้อได้ทั่วไป เช่น Ibuprofen (Advil) หรือ Naproxen Sodium (Aleve)
- สวมใส่ผ้ารัดยาง
- ใช้โฟมนวดตัว (Foam Roller)
หากการรักษาด้วยวิธีดังกล่าวไม่ได้ผล หรือผู้ป่วยมีอาการเจ็บหน้าแข็งรุนแรงมาก และมีอาการต่อเนื่องหลายเดือน แพทย์อาจรักษาด้วยการการผ่าตัดหน้าแข้ง (Fasciotomy) ซึ่งจะมีการกรีดเข้าเนื้อเยื่อ Fascia ที่ปกคลุมกล้ามเนื้อน่อง เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดหน้าแข้งลงบ้าง
วิธีป้องกันอาการเจ็บหน้าแข้ง
วิธีป้องกันอาการเจ็บแข้งที่มีประสิทธิภาพที่สุด คือ การเสริมความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อน่องขากับกล้ามเนื้อสะโพก โดยเฉพาะส่วนกล้ามเนื้อขาหนีบ (Hip Abductors) และควรปฏิบัติดังต่อไปนี้
- สวมใส่รองเท้าที่พอดีและมีการรองรับที่ดี
- ใช้อุปกรณ์ช่วยรับแรงกระแทกต่าง ๆ
- เลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนักหบนพื้นผิวแข็งหรือไม่เรียบ
- วอร์มร่างกายก่อนออกกำลัง
- ยืดเส้นยืดสายร่างกายให้ถูกวิธี
- บริหารนิ้วเท้าเป็นประจำเพื่อช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อน่อง
- ไม่ฝืนออกกำลังกายขณะมีความเจ็บปวด
การออกกำลังกายอย่างไม่เหมาะสม หรือการหักโหมออกกำลังกายมากเกินไปสามารถทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ และอาจรุนแรงถึงขั้นกระดูกหัก ดังนั้นอย่าคิดว่า คุณจึงอยากฝืนออกกำลังกายมาก หรือในท่า และสถานที่ที่ไม่เหมาะสม เพราะอาจนำมาซึ่งอาการบาดเจ็บที่ต้องใช้เวลาในการรักษา
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจรักษา ผ่าตัด กระดูกและข้อ จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android
ทำไม่ ต้องอ้วนลงพุ่งค่ะ