August 19, 2019 00:22
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
อาการเลือดออกระหว่าง หรือ หลังมีเพศสัมพันธ์ ถ้าไม่ได้อยู่ในระหว่างการมีประจำเดือนของผู้หญิง เป็นอาการที่ไม่ปกติ และจะต้องหาสาเหตุครับ ซึ่งสาเหตุที่เป็นไปได้มีดังนี้ครับ
1.บาดแผลที่เกิดขึ้นขณะมีเพศสัมพันธ์ครับ อาจจะทำท่า ความรุนแรง หรือช่วงที่ทำช่องคลอดแห้ง ก็อาจจะมีเลือดออกได้ เลือดที่ออก อาจจะเล็กน้อย เช่น บาดแผลภายนอก หรือถ้ารุนแรงไปจนถึงช่องคลอดหรือป่กมดลูกฉีกขาด ก็อาจจะมีเลือดออกได้มาก
2.การ ติดเชื้อ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาจทำให้มีเลือดออก และตกขาวที่ผิดปกติได้ เช่น การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน หนองในแท้ หนองในเทียม ซิฟิลิส เป็นต้น คนไข้อาจจะมีเลือดออก ร่วมกับมีตกขาวสีผิดปกติ เช่นทสีเขียว สีเหลือง หรือตกขาวมีกลิ่นเหม็น อาจมีอาการแสบ คันช่องคลอด บางคน อาจมีปวดท้องน้อยหรือมีไข้ร่วมด้วย
3. ติ่งเนื้อในช่องคลอด / ปากมดลูก ( polyp) เมื่อโดนกระทบกระแทก อาจมีเลือดออกได้ง่าย
4. เนื้องอก ทั้งเนื้องอกที่เป็นมะเร็วและไม่เป็นมะเร็งในช่องคลอด หรือ ปากมดลูก
5. เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ อาจทำให้มีเลือกออกขณะ หรือหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ บางคนอาจมีอาการปวดประจำเดือนมากกว่าปกติด้วยครับ
6. ช่องคลอดแห้ง / ช่องคลอดอักเสบ อาจเกิดจาก ความไม่พร้อม/น้ำหล่อลื่นน้อย หรือ ขาดฮอร์โมนเพศ เช่น หลังผ่าตัดรังไข่ ผู้หญิงอายุมาก เป็นต้น
7.มีเส้นเลือดโป่งพองที่ปากมดลูกหรือปากมดลูกปลิ้น ครับ
ยังมีอีกหลายสาเหตุ ที่อาจพบได้ครับ ซึ่งต้องใช้การตรวจร่างกาย ตรวจภายใน และอาจจะต้องมีการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมครับ จึงแนะนำให้คนไข้ไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่ รพ นะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขอ ทราบชื่อ รพ ที่รักษาคะ อาการเดียวกัน
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ เป็นได้จากหลายอย่างครับ
เช่น
-ผนังช่องคลอดฉีกขาด
-ช่องคลอดอักเสบ/ติดเชื้อ
-แผลที่ช่องคลอด
-ประจำเดือนค้าง
-ช่องคลอดแห้ง
-ผลจากยาคุมกำเนิด
เป็นต้น
แนะนำหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน แล้วไปพบแพทย์สูตินรีเวชเพื่อตรวจร่างกาย และตรวจภายในเพิ่มเติมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์นั้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- มีการบาดเจ็บของช่องคลอดหรือปากมดลูกจากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง
- มีภาวะปากมดลูกปลิ้น ซึ่งเป็นภาวะปกติของผู้หญิงบางคน แต่ส่งผลให้มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ง่าย
- มีการอักเสบติดเชื้อของช่องคลอดหรืออุ้งเชิงกราน
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางอย่าง เช่น เริม หนองใน ซิฟิลิส
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ
- เนื้องอกมดลูก
- ติ่งเนื้อหรือมะเร็งที่ปากมดลูก
ถ้าหากมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์อยู่บ่อยๆหมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจภายในประเมินอาการให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ
เลือดออกทางช่องคลอดหลังมีเพศสัมพันธ์อาจคิดถึงได้หลายสาเหตุค่ะ เช่น
-มีเพศสัมพันธ์รุนแรงหรือนานเกินไป อาจทำให้เลือดออกจากช่องคลอดได้ เกิดจากมีการขูดระหว่างเนื้อเยื่อหรือเกิดจากช่องคลอดแห้งได้ ช่วงนี้ให้งดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนและอาจใช้เจลหล่อลื่นเมื่อมีเพศสัมพันธ์ในครั้งต่อไป แต่สาเหตุนี้เลือดมักไหลไม่นานและไหลเพียงเล็กน้อย
-ติดเชื้อภายในช่องคลอดหรืออุ้งเชิงกราน มีอาการตกขาวเยอะ มีกลิ่นหรือสีผิดปกติ คันระคายเคืองช่องคลอด มีเลือดออก มีหน่วงท้อง ปัสสาวะแสบขัด
-เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ มีอาการประจำเดือนกะปริบกะปรอย ปวดประจำเดือนมากและนาน เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์
-มีรอยโรคภายใน เช่น ติ่งเนื้อ เนื้องอกบริเวณช่องคลอด เซลล์ผิดปกติหรือโรคมะเร็ง เป็นต้น
-ฮอร์โมนแปรปรวน เช่น จากความเครียด การนอนดึก ความอ้วน เป็นต้น
กรณีนี้มีเลือดไหลยังไม่หยุด และเคยมีประวัติแบบนี้มาก่อนให้ไปพบสูตินารีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุดูค่ะ และจะได้ทำการรักษาที่เหมาะสมต่อไปค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.)
สาเหตุของเลือดออกภายหลังมีเพศสัมพันธ์นั้น พบได้หลายสาเหตุดังต่อไปนี้ เช่น
1.การได้รับบาดเจ็บบริเวณช่องคลอดและมดลูก จากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง
2.การติดเชื้อบริเวณอวัยวะเพศ เช่น การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
3.ติ่งเนื้อบริเวณปากมดลูก
4.ก้อนเนื้อ เนื้องอกที่มดลูก
5.ประจำเดือนหรือเลือดที่ยังค้างอยู่ภายหลังหมดประจำเดือน
ฉะนั้น หากยังคงมีเลือดไหลเพิ่มขึ้น หรือ ตกขาวผิดปกติ ปัสสาวะแสบขัด ปวดท้องน้อย ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจภายในและหาสาเหตุทั้งการติดเชื้อ การอักเสบ และก้อนหรือติ่งเนื้อ เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
อนรรฆวี ฉง (พญ.)
สำหรับภาวะเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์เกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ
-ภาวะการบาดเจ็บภายหลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือภาวะช่องคลอดแห้ง ที่อาจเกิดแผลถลอกได้
-ภาวะช่องคลอดหรือปากมดลูกที่อักเสบเดิม อาจจะมีประวัติตกขาวสีเปลี่ยน กลิ่นเปลี่ยน ปวดท้องน้อยมาก่อน
-ภาวะก้อนเนื้อปากมดลูก/ก้อนเนื้อภายในช่องคลอดหรือรอยโรคอื่นๆ เช่น ภาวะการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ หนองใน ที่อาจก่อให้เกิดภาวะเลือดออกทางช่องคลอดได้
-ภาวะฮอร์โมนผิดปกติ เช่น การใช้ยาคุมกำเนิด ซึ่งสามารถก่อให้เกิดเลือดออกกระปริบกระปรอยได้
-ภาวะความผิดปกติของเลือด เช่น การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ/มีประวัติรับประทานยาละลายลิ่มเลือด/ยาต้านเกล็ดเลือด
-ภาวะมะเร็งปากมดลูกก็สามารถเป็นได้ค่ะ โดยอาจมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปากมดลูก เช่น การมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกตั้งแต่อายุน้อย มีคู่นอนหลายคน โดยจะเกิดจากเชื้อHPV(human papilloma virus)เป็นสาเหตุ ซึ่งส่วนม่กตะต้องอาศัยประวัติและการตรวจร่างกายเพิ่มเติมเพื่อการวินิจฉัยแต่จากอายุ30ปีซึ่งถือว่าอายุน้อยโอกาสเกิดมะเร็งจะค่อนข้างน้อย จึงทำให้นึกถึงภาวะการอักเสบ/ติดเชื้อ หรือภาวะการบาดเจ็บมากกว่า อย่างไรก็ตามหากไม่มีภาวะมะเร็งปากมดลูก หลังจากนี้แนะนำว่าตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกปีละครั้งเป็นอย่างน้อยเพื่อเป็นการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเพื่อความปลอดภัยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
พิมพกา ชวนะเวสน์ (สูตินรีแพทย์)
อาการ มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ (postcoital bleeding) เกิดได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ไม่มีอะไรอันตรายเลย เกิดจากปากมดลูกปลิ้น ออกมา (cervical eversion) เป็นธรรมชาติของบางคน หรือการบาดเจ็บเล็กน้อยของช่องคลอด ที่สามารถหายได้เอง จนสาเหตุ ที่ต้องรักษา คือ เซลล์ผิดปกติที่ปากมดลูก
ที่เรากลัวกัน ก็คือ เซลล์ผิดปกติที่ปากมดลูกค่ะ แบบนี้ต้องตรวจภายใน ป้ายเซลล์ที่ปากมดลูกไปตรวจค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
พอจะแนะนำ รพ ได้มั้ยคะ ว่ารักษา ที่ไหนได้ มีบัตรเอไอเอคะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สามารถไปพบแพทย์สูตินรีเวชในโรงพยาบาลที่สะดวกได้เลยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะคุณหมอ เมื่อคืนมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์เล็กน้อย ตอนเช้าจนถึงปัจจุบันก็ยังมีเลือดออกอยู่แต่ไม่เยอะค่ะ คาดว่าไม่ใช่ประจำเดือนนะคะ เพราะเพิ่งหมดไปเมื่ออาทิตย์ก่อน เดือนที่แล้วก็มีอาการแบบนี้ครั้งนึงค่ะ *** ประจำเดือนจะมาประมาณ ช่วงสิ้นเดือน วันที่30-1 มาประมาณ7-8 วัน *** ไม่ได้คุมกำเนิดค่ะ ยังไม่เคยมีบุตร ปัจจุบันอายุ 30 ปี ตอนนี้กังวลกลัวว่าจะเป็นโรคมะเร็ง หรือ โรคอะไรร้ายแรง
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)