อยากทราบว่าอาการโรคเครียดเป็นอย่างไรคะ ตอนนี้รู้กังวลมีสภาวะนอนไม่หลับไม่เต็มอิ่ม ใครพูดอะไรสะกิดใจนิดหน่อยก็ร้องไห้ออกมาเลย อยากรู้ว่าเข้าข่ายจะเป็นโรคเครียดมั้ยคะ

สวัสดีครับ สำหรับอาการนอนไม่หลับไม่เต็มอิ่ม ร้องไห้ง่าย อาจจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ ถ้ามีอาการดังต่อไปนี้ มากกว่า 2 สัปดาห์
1.มีอารมณ์ซึมเศร้าเป็นส่วนใหญ่ของทั้งวัน เกือบทุกวัน โดยอาจจะมีอารมณ์ต่างๆ เช่น รู้สึกแย่ รู้สึกว่างเปล่า ไม่มีความหวัง หรือมีผู้สังเกตเห็นอารมณ์ซึมเศร้านี้ เช่น ร้องไห้บ่อย

2.ความสนใจต่อสิ่งต่างๆและกิจกรรมต่างๆ รอบตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่ของทั้งวัน เกือบทุกวัน

3.น้ำหนักลดอย่างมีนัยสำคัญโดยไม่ได้อดอาหาร หรือน้ำหนักขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (กล่าวคือน้ำหนักเปลี่ยนแปลงไปมากกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักเดิมในระยะเวลา 1 เดือน) หรือมีความอยากอาหารที่เปลี่ยนไปเกือบทุกวัน

5.นอนไม่หลับ หรือนอนหลับมาก เกือบทุกวัน

6.มีความผิดปกติแสดงออกทาง psychomotor เช่น ดูเชื่องช้าลง หรือดูไม่อยู่นิ่ง

7.อ่อนเพลียหรือหมดพลังเป็นส่วนใหญ่ของทั้งวัน เกือบทุกวัน

8.มีความรู้สึกว่าตนเองด้อยค่า หรือมีความรู้สึกผิดที่มากเกินปกติ เป็นส่วนใหญ่ของทั้งวัน เกือบทุกวัน

9.ความสามารถในการคิด หรือมีสมาธิลดลง เกือบทุกวัน

10.มีความคิดเกี่ยวกับความตาย การฆ่าตัวตายโดยที่ไม่ได้วางแผน มีการพยายามฆ่าตัวตายอยู่บ่อยๆ

แนะนำถ้ามีอาการดังที่กล่าวไป ควรลองทำแบบทดสอบดูครับ ตามลิ้งด้านล่าง

http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html

ถ้าได้คะแนนมากกว่า 7 ขึ้นไปแนะนำให้ลองไปพบจิตแพทย์ครับ เพราะสามารถเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ

สวัสดีครับ
โรคเครียดเป็นคำที่ค่อนข้างกว้างครับ ซึ่งอาจหมายถึงได้ทั้งการที่ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับความเครียดได้ (Adjustment disorder) ไปจนถึงการเป็นโรคซึมเศร้า

ถ้ามีอาการร้องไห้อยู่บ่อยๆสิ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนคืออาจเป็นอาการของโรคซึมเศร้าได้ครับ

อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
และถ้าหากอาการที่เป็นเหล่านี้ส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ

ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ

http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html

ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น

ถ้าหากสงสัยว่าตนเองอาจเป็นโรคซึมเศร้าได้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือควรไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ

โรคเครียด กับ ซึมเศร้า อาการไม่แตกต่างกันมากนักนะคะ
อาการของโรคเครียด ได้แก่ ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อหลังไหล่ นอนไม่หลับ/หลับยาก เบื่อหน่าย เบื่ออาหาร/ทานได้เยอะขึ้น หงุดหงิด กระสับกระส่าย ท้อแท้ ไม่อยากพบใคร ขี้รำคาญ โดยอาการจะเป็นต่อเนื่องนานกว่า 1 เดือน

คนปกติจะสามารถปรับตัวกับความเครียดได้ภายในระยะเวลา 2 สัปดาหื-1 เดือน หากเกิน 1 เดือน ปรับตัวไม่ได้ มีอาการรุนแรงมากขึ้น ก็จะนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าต่อไปได้ค่ะ

ซึ่งภาวะซึมเศร้า จะต้องมีอาการ เบื่อ ท้อแท้ เศร้า อ่อนเพลีย หงุดหงิดใจ ขาดสมาธิ รู้สึกไร้ค่า อยากตาย มีปัญหาการกิน การนอนหลับ อาการเหล่านี้ต้องเป็นต่อเนื่องเกือบทุกวัน นานเกิน 2 สัปดาห์ ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นซึมเศร้าได้สูง

ในกรณีที่มีความเครียด เบื้องต้นแนะนำให้ออกกำลังกาย หากิจกรรมที่ผ่อนคลายมาทำ หาที่ปรึกษาพูดคุยระบายปัญหาออกมา
แต่หากปรับตัวไม่ได้จริงๆ ก็ต้องพบจิตแพทย์นะคะ ประเมินอาการอื่นๆเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาตามแนวทางที่เหมาะสมต่อไปนะคะ

สวัสดีครับ

โรคเครียดนั้นโดยปกติแล้วอาจจะหมายถึงสภาวะที่สภาพจิตใจมีการตอบสนองต่อสิ่งเร้า หรือเรื่องราวต่างๆในชีวิตประจำวันได้แปลกไปจากที่เคย และส่งผลให้การทำงาน การเรียน หรือแม้กระทั่งการใช้ชีวิตประจำวันของเราเป็นไปได้ไม่ดีอย่างที่เคย ซึ่งอาการนอนไม่หลับ วิตกกังวล และมีความเปราะบางทางด้านจิตใจเองก็เป็นสัญญาณที่อาจจะบ่งบอกได้ว่าตัวคุณเอง มีภาวะความเครียดหรืออาจจะเป็นเรื่องอื่นๆเข้ามากระทบกระเทือนจิตใจจนทำให้เกิดอาการดังที่กล่าวมาก็ได้ครับ

ซึ่งหากคุณลองทบทวนดูจุดเปลี่ยนที่เริ่มเกิดอาการนี้ และลองสาเหตุของอาการที่เกิดขึ้นไม่ได้ ก็อยากแนะนำว่าให้ลองเข้าพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อพูดคุยถึงที่มาที่ไปของอาการเหล่านี้นะครับ มิฉะนั้นแล้วการนอนไม่หลับ การมีภาวะวิตกกังวล อาจจะนำไปสู่โรควิตกกังวลและโรคซึมเศร้าในอนาคตได้ครับ การเข้ารับบริการจากผู้เชี่ยวชาญถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีในการป้องกัน และเยียวยาพักผ่อนจิตใจตั้งแต่เนิ่นๆนะครับ

นอกจากการเข้าพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาแล้ว การหันกลับมาดูแลตนเองให้มากขึ้นก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญเช่นกัน โดยคุณสามารถลองทำกิจกรรมที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง หาเวลาให้ตนเองรู้สึกสงบ สนุก หรือผ่อนคลาย และอาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง ทานอาหารให้ครบหมู่ ออกไปทานของอร่อยๆบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้ตึงเครียดในตนเองลดน้อยลงได้ คล้ายๆกับการพักฟื้นให้สภาพจิตใจของตนเองค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น โดยหากค่อยๆเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตัวเองไปจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวได้ครับ

สุดท้ายนี้หากรู้สึกว่าต้องการจะพูดคุยกับใครซักคนหนึ่งในเรื่องของอารมณ์และความคิดที่เกิดขึ้น สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณจะสามารถโทรเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ซึ่ง ข้อเสียคืออาจจะต้องมีการรอสายที่นานในบางช่วงเวลาครับ

ถ้าอาการพึ่งเริ่มเป็น 2 วันอาจจะยังไม่เข้ากับการวินิจฉัยโรคซึมเศร้าครับ ซึ่งการจะบอกว่าเป็นโรคซึมเศร้าควรมีอาการอย่างน้อย 2 สัปดาห์ครับ

เบื่องต้น ถ้าอาการเริ่มมีใน 2 วัน อาจจะเกิดจากความเครียดที่ร่างกายต้องเจอในแต่ละวันครับ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนครับ

แนะนำว่าถ้ามีอาการเกิน 2 สัปดาห์ควรลองทำแบบทดสอบดูครับ