August 31, 2019 16:55
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
การมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ใส่ถุงยางเเม้ไม่ได้หลั่ง/หลั่งนอก แต่ถ้ามีการสอดใส่อวัยวะเพศ มีโอกาสท้องครับ เนื่องจากขณะสอดใส่อาจมีอสุจิปนออกมากับน้ำหล่อลื่นฝ่ายชายได้ครับ
......
ถ้าประจำเดือนมาก็คือไม่ท้องครับ
กรณีสงสัยท้อง
โดยทั่วไปก็จะถือว่าตรวจพบว่าท้องได้ เมื่อประจำเดือนขาดครับ
...........
ถ้าจำประจำเดือนแม่น รู้รอบประจำเดือนตัวเองดี ก็จะง่ายครับ
เช่นถ้าเมนส์มาวันที่ 1 กพ. ปกติมาตรง 30 วัน
ถ้า 3 มีนา เมนส์ไม่มา ก็สามารถตรวจได้ครับ
............
แต่ถ้าจำไม่ได้ว่าเดือนก่อนเมนส์มาวันไหน
แนะนำว่าให้ตรวจถ้าเมนส์ไม่มาหลังจากมีเพศสัมพันธ์ กันไปแล้ว 2 สัปดาห์
เพราะว่าถ้าจะท้องได้ ก็คือต้องไข่ตกช่วงที่มีเพศสัมพันธ์กันพอดี ถ้านอกเหนือไปจากนั้น โอกาสท้องก็น้อยครับ
...........
ถ้าตรวจแล้วผลว่าไม่ท้อง แต่ยังสงสัย แนะนำให้รอ เพราะบางครั้งค่าของฮอร์โมนอาจจะยังไม่มากพอที่จะให้ผล positive ถ้ารอแล้วเมนส์ยังไม่มา อีกซักสัปดาห์ค่อยตรวจซ้ำ ไม่ควรรีบไปกินพวกยาขับเลือด-ยาสตรี เพราะถ้าเกิดท้องขึ้นมาแล้วจริงๆ ยาพวกนี้อาจจะมีผลต่อเด็กได้ครับ
...........
- ชุดตรวจมีหลากหลายครับ ในรายละเอียดอาจจะต่างกันบ้าง ให้ดูตามคำเเนะนำในกล่องน่าจะดีที่สุดแต่โดยทั้วไปก็คือให้ปัสสาวะใส่ภาชนะ จุ่มที่ทดสอบลงไประยะเวลาหนึ่ง เอาขึ้นมาตั้ง รอเวลา แล้วจึงอ่านผล
- วิธีการเก็บปัสสาวะตรวจก็มีผลต่อการแปลผลมาก
ผลจะแม่นที่สุดควรจะต้องเป็นปัสสาวะครั้งแรกตอนเช้าที่เพิ่งตื่นนอนมาเพราะจะเป็นปัสสาวะที่เข้มข้น ถ้ามี hCG อยู่ก็จะตรวจพบได้ง่ายกว่า
- ชุดตรวจส่วนใหญ่จะแสดงผลเป็นขีดๆ โดยขีดแรกเป็นเส้น control จะต้องขึ้นเสมอไม่ว่าจะท้องหรือไม่ ถ้าไม่ขึ้นแปลว่าที่ตรวจนั้นเสีย ส่วนขีดที่สองถึงจะเป็นตัวบอกว่ามี hCG อยู่
...........
ดังนั้น สองขีดคือท้อง
...........
ขีดเดียวคือไม่ท้อง ถ้าไม่มีซักขีดคือชุดตรวจเสียครับ
กรณีตรวจเเล้วไม่ท้อง
โดยปกติประจำเดือนสามารถมาเร็วมาช้าได้บวกลบ7วันครับ ถ้ายังไม่เกิน7วันหมอว่ายังรอไปก่อนได้ครับ
ปกติจะมาประมาณ2-6วัน ปริมาณประมาณ 20-60ml
.............
การที่ประจำเดือนมาไม่ตรงรอบหรือขาด อาจเกิดได้จากความเครียด ทำให้ระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ,การตั้งครรภ์ ,การฉีดยาคุมกำเนิดชนิดสามเดือน ,ยาฝังคุมกำเนิด หรือ ห่วงคุมเนิดชนิดฮอร์โมน ครับ
หรือเกิดได้จากโรคอื่นๆ กรณีที่ประจำเดือนขาดนานๆ หรือมาไม่สม่ำเสมอครับ เช่น โรคถุงน้ำรังไข่อาการคือ ประจำเดือนมักมาไม่สม่ำเสมอร่วมกับพบลักษณะของฮอรโมนเพศชาย(มีสิว มีขนเยอะ) หรือ บางครั้งความผิดปกติของต่อมใต้สมองซึ่งมีหน้าที่หลั่งฮอร์โมนมากระตุ้นรังไข่ก็ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ครับหากประจำเดือนขาดนานๆ ร่วมกับบีบหัวนมเเล้วมีน้ำนมไหลออกมา หรืออาจเกิดจากการตกไข่ผิดปกติจากสาเหตุของรังไข่เอง
อื่นๆ เช่น เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่(ช็อคโกเเลตซีสต์) อาการคือ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ เป็นต้นครับ
.............
หากเดิมประจำเดือนมาปกติ เเล้วประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ โดยที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ หรือตรวจเเล้วไม่ท้อง (ปกติประจำเดือนขาดก็ตรวจได้เเล้วครับว่าท้องหรือไม่) หรือ ไม่ได้มีความเครียดอื่นๆ ควรไปพบสูตินรีเเพทย์ครับ อาจพิจารณารับประทานยาคุมกำเนิดเพื่อปรับฮอร์โมน ร่วมกับหาสาเหตุด้วยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
ปกติประจำเดือนจะมาทุก 28-30 วัน (อยู่ในช่วง 21-35 วันได้ครับ) และแต่ละรอบ มีได้3-7วันครับ
ถ้าเลือดออกกระปริดกระปรอยไม่ตรงตามรอบเดือน อาจเป็นเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอดได้ครับ
โดยทั่วไปเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น ภาวะเครียด, การผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด, เริ่มมีประจำเดือนหรือใกล้หมดประจำเดือน, ติดเชื้อบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ ปากมดลูก อุ้งเชิงกราน, กินยาที่มีส่วนผสมของฮอร์โมน จนกระทั่ง มะเร็งในอวัยวะสืบพันธุ์ เช่น มะเร็งปากมดลูก หรือเยื่อบุโพรงมดลูก ,ภาวะแทรกซ้อนการตั้งครรภ์, แผลบริเวณอวัยวะเพศ เป็นต้นครับ
แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุ และอาจตรวจเพิ่มเติม เช่น ตรวจภายใน ป้ายน้ำ/ตกขาวทางช่องคลอดไปตรวจ ตรวจเลือด ตรวจอัลตราซาวน์ หรือขูดมดลูกไปตรวจถ้าจำเป็นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
การหลั่งข้างนอก ( withdrawal ) เป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพไม่ค่อยดีเมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆ ครับ
>>จากสถิติ ถ้าทำได้ถูกต้องเลยโอกาสจะตั้งท้องประมาณ 4% แต่โดยทั่วๆไป หรือตามความจริงแล้ว ขณะที่อวัยวะเพศชายสอดใส่ มักมีสเปิร์มออกมาพร้อมกับร้ำหล่อลื่นบ้างบางส่วนครับ ทำให้โอกาสจะตั้งครรภ์ในชีวิตจริงมีสูงถึง 22-27% ครับ
รอบเดือนของผู้หญิงปกติ จะมาประมาณ 3-7 วันครับ กรณีประจำเดือนมาน้อยกว่าปกติ (น้อยกว่า 2วัน หรือ มีเลือดประจำเดือนน้อยมาก หรือเป็นหยดเลือดเพียงเล็กน้อย) อาจมาจากหลายปัจจัยครับ
ตัวอย่างเช่น
1.ตั้งครรภ์ ผู้ที่ตั้งครรภ์อาจมีเลือดออกจากช่องคลอดแบบกะปริบกะปรอย ซึ่งอาจเป็นเลือดออก หลังจากที่ที่เกิดหลังการปฏิสนธิ เนื่องจากตัวอ่อนเคลื่อนไปยึดเกาะฝังตัวที่ผนังมดลูก โดยจะมีเลือดออกเพียง 1-2 วันเท่านั้น ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นเลือดประจำเดือนได้ อาจเกิดจากการคุมกำเนิดที่ผิดพลาด หรือไม่ได้คุมกำเนิดในขณะมีเพศสัมพันธ์ จึงควรตรวจการตั้งครรภ์หากพบอาการดังกล่าวครับ
2.ความเครียด
3.โรคทางระบบสืบพันธ์ เช่น ถุงน้ำรังไข่ (PCOS) ความผิดปกติของมดลูก ปากมดลูก เป็นต้น
4.ความผิดปกติของการสร้างฮอร์โมนเพศหญิง ไม่ว่าจะมาจากภายใน คือร่างกายของเราเอง หรือภายนอก เช่น การใช้ยาคุมกำเนิด ชนิดต่างๆ หรือการใช้ยาอื่นๆที่ส่งผลกระทบต่อการสร้องฮอร์โมนเพศ หรือ การตกไข่
5.การออกกำลำลังกายหรือทำงานหนักมากเกินไป พักผ่อนน้อย เป็นต้น
6.โรคประจำตัวอื่นๆ เช่น โรคไตเรื้อรัง anorexia การขาดสารอาหารอย่างรุนแรงเป็นต้น
เบื้องต้น แนะนำให้ไปตรวจร่างกายและตรวจภายในเพิ่มเติมนะครับ
นอกจากนี้ ถ้ามีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เช่น เคยมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ควรตรวจการตั้งครรภ์เป็นเบื้องต้นไว้ด้วยครับ
ส่วนการรักษาจะเป็นไปตามสาเหตุ เช่น การให้ฮอร์โมนเสริม การผ่าตัด เป็นต้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
สวัสดีครับ
เบื้องต้นหากมีประวัติมีเพศสัมพันธ์ในรอบเดือนที่ผ่านมาแล้วขาดประจำเดือน สงสัยว่าตั้งครรภ์ สามารถหาซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์ตามร้านขายยาทั่วไปมาทดสอบได้ด้วยตนเองครับ หากทดสอบการตั้งครรภ์อย่างถูกวิธี ผลการทดสอบมีความน่าเชื่อถือสูงมากครับ
________________________
สาเหตุของการขาดประจำเดือน เป็นได้หลายสาเหตุครับ เช่น
- กำลังตั้งครรภ์อยู่ เป็นสาเหตุที่พบบ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์
- การรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาต้านโรคซึมเศร้า ยาทางจิตเวช เป็นต้น
- ความเครียด, การออกกำลังกายที่หนักจนเกินไป, น้ำหนักตัวน้อยมาก (BMI < 18.5)
- การมีพังผืดในมดลูก (Asherman’s syndrome) มักจะสัมพันธ์กับประวัติที่เคยขูดมดลูกมาก่อน
- การมีระดับฮอร์โมนเพศชายที่สูงกว่าปกติ (Hyperandrogenism) มักสัมพันธ์กับการมีหน้ามัน สิวมาก มีขนขึ้นมากผิดปกติ เช่น โรค Polycystic ovarian syndrome (PCOS)
- การมีระดับฮอร์โมนเพศต่ำกว่าปกติ (Hypogonadism) เช่น รังไข่เสื่อม (Premature ovarian failure) ไม่มีการตกไข่ (Anovulation) เป็นต้น
- การเป็นโรคไทรอยด์
สาเหตุต่างๆที่ได้กล่าวไปเป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ซึ่งการวินิจฉัยต้องอาศัยการซักประวัติ และตรวจร่างกายเพิ่มเติมครับ ดังนั้นถ้าสงสัยหรือกังวลแนะนำให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจและให้การรักษาครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
มีประจำเดือนวันสุดท้ายคือวันที่5สค มีเซ็กแบบหลั่งนอกวันที่11สค วันนี้ประจำเดือนยังไม่มา แต่เมื่อวานมีเลือดเหมือนประจำเดือนไหลออกมา แต่วันนี้ไม่มี มีโอกาสตั้งครรภ์ไหมคะ?
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)