May 17, 2019 14:01
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
แนะนำพบเเพทย์ตรวจปัสสาวะครับ
....
ฟังจากอาการ น่าจะเป็น กระเพาะปัสสาวะ หรือ ท่อปัสสาวะอักเสบ
อาการคือ
- ขณะถ่ายปัสสาวะ มีอาการแสบบริเวณปลายท่อปัสสาวะ หรือบริเวณปากช่องคลอด
- ถ้ามีภาวะกระเพาะปัสสาวะอักเสบร่วมด้วย ก็จะมีอาการปัสสาวะบ่อยทั้งกลางวัน กลางคืน ปัสสาวะแสบ ปัสสาวะขัด กลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปัสสาวะแล้วรู้สึกว่าไม่สุดต้องไปปัสสาวะอีกแม้เพิ่งปัสสาวะเสร็จ
- บางคนอาจจะมีอาการปวด หรือแสบบริเวณท้องน้อยร่วมด้วยทั้งตอนปวดและไม่ปวดปัสสาวะครับ
ปัจจัยเสี่ยง เช่น
1.มีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้ง และหลายครั้งในเวลาอันสั้น
2.ดื่มน้ำน้อย
3.กลั้นปัสสาวะนาน ๆบ่อยๆ
4.ผู้ที่เคยรับการผ่าตัด หรือการรักษาด้วยการฉายแสงบริเวณกระเพาะปัสสาวะและอวัยวะเพศมาก่อนครับ
......
การรักษา คือการรับประทานยาฆ่าเชื้อครับ เช่น Ciprofloxacin
ร่วมกับ การป้องกันคือ
- ดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน
- ดูแลความสะอาดบริเวณปลายท่อปัสสาวะและอวัยวะเพศ
- มีกิจกรรมทางเพศอย่างเหมาะสม โดยหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ควรไปปัสสาวะและทำความสะอาดบริเวณท่อปัสสาวะ รวมถึงอวัยวะเพศครับ
- ไม่ควรกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานานเกินไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
อาการของคนไข้ เหมือนมีการ ติดเชื้อ ทางเดินปัสสาวะนะครับ เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ กรวยไตอักเสบ เป็นต้น
>>อาการคือ จะรู้สึกปัสสาวะไม่สุด ปวดปัสสาวะตลอดเวลา ปัสสาวะแสบขัด บางคนอาจมีการปัสสาวะเป็นเลือดร่วมด้วย หรือบางคนอาจทีไข้ หนาวสั่น ปวดหลัง ซึ่งโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะนี้ สามารถเกิดได้ทั้งจากเชื้อไวรัส และ แบคทีเรีย ครับ
>>ข้อแนะนำเบื้องต้น คือ ควรได้รับการตรวจร่างกาย เพิ่มเติม อาจจะต้องตรวจปัสสาวะ และได้รับยาฆ่าเชื้อครับ ช่วงนี้แนะนำว่าให้ดื่มน้ำมากๆ และงดกลั้นปัสสาวะนะครับ
>>โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ถ้าเป็นไม่มาก ก็อาจจะเป็นเพียงกระเพาะปัสสาวะอักเสบ แต่หากคนไข้ไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ชอบกลั้นปัสสาวะ เป็นต้น และไม่รักษา อาจทำให้ลุกลามไปถึง กรวยไตและไตได้ครับ
>>>>นอกจากนี้ อาจจะยังมีโรคอื่นๆ ที่อาจเกิดอาการเดียวกันได้ เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม หรือ นิ่วในทางเดินปัสสาวะ ก็ทำให้ปวดได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
อาการของคนไข้ เหมือนมีการ ติดเชื้อ ทางเดินปัสสาวะนะครับ เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ กรวยไตอักเสบ เป็นต้น
>>อาการคือ จะรู้สึกปัสสาวะไม่สุด ปวดปัสสาวะตลอดเวลา ปัสสาวะแสบขัด บางคนอาจมีการปัสสาวะเป็นเลือดร่วมด้วย หรือบางคนอาจทีไข้ หนาวสั่น ปวดหลัง ซึ่งโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะนี้ สามารถเกิดได้ทั้งจากเชื้อไวรัส และ แบคทีเรีย ครับ
>>ข้อแนะนำเบื้องต้น คือ ควรได้รับการตรวจร่างกาย เพิ่มเติม อาจจะต้องตรวจปัสสาวะ และได้รับยาฆ่าเชื้อครับ ช่วงนี้แนะนำว่าให้ดื่มน้ำมากๆ และงดกลั้นปัสสาวะนะครับ
>>โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ถ้าเป็นไม่มาก ก็อาจจะเป็นเพียงกระเพาะปัสสาวะอักเสบ แต่หากคนไข้ไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ชอบกลั้นปัสสาวะ เป็นต้น และไม่รักษา อาจทำให้ลุกลามไปถึง กรวยไตและไตได้ครับ
>>>>นอกจากนี้ อาจจะยังมีโรคอื่นๆ ที่อาจเกิดอาการเดียวกันได้ เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม หรือ นิ่วในทางเดินปัสสาวะ ก็ทำให้ปวดได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
มีอาการเพิ่มเติมคือมีตุ่มเล็กๆที่บริเวรปากอวัยวะเพศค่ะ คาดว่าจะเกิดจากการแพ้ผ้าอนามัยค่ะ แต่ไม่หายสักทีค่ะ
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
หากอาการไม่หาย ควรประเมินเพิ่ทเติมครับ อาการอาจไม่ได้เกิดจากการแพ้ผ้าอนามัยเพียงอยางเดียวครับ
แผล/ตุ่มที่อวัยวะเพศสามารถเป็นได้หลายอย่างครับ ซึ่งควรจะต้อง ได้รับการซักประวัติ และตรวจร่างกายอย่างละเอียด โดยเฉพาะประวัติเพศสัมพันธฺที่ไม่ได้ป้องกันครับ
ตัวอย่างเช่น
-กลุ่มโรคติดค่อทางเพศสัมพันธ์
1.เริมที่อวัยวะเพศ เกิดจากเชือไวรัส herpes ลักษณะจะเป็นตุ่มน้ำใส เมื่อแตกออกตะแสบ และอาจมีการติดเชื้อซ้ำซ้อนได้
2.แผลริมแข็ง มักไม่เจ็บ เกิดจากเชื้อซิฟิลิส ถ้าปล่อยไว้ จะหายเอง แต่เชื้อซิฟิลิส ตะยังควอยู่ รอวันที่จะทำให้เกิดผลแทรกซ้อนต่อระบบอื่นๆที่สำคัญได้ ถ้าไม่รีบรักษาครับ
3.แผลริมอ่อน เกิดจาก แบคทีเรีย ชื่อ Haemophilus Ducreyi มักมีอาการแสบ มีหนอง คนไข้จะเจ็บ แสบแผลมากครับ
4.หูดหงอนไก่ เป็นการติดเชื้อไวรัส เป็นก้อนหรือติ่งเนื้อ ลักษณะผิวอาจเรียบหรือขรุขระ สีอาจจะสีชมพู
สีน้ำตาล สีเนื้อ พบบริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก ปาก และช่องคอครับ
การรักษาหูดหงอนไก่ มีหลายวิธีครับ ทั้งแบบใช้ยา และการผ่าตัด
1.การใช้ยา เช่น TCA , 5% imiquimod เป็นต้น ใช้ทาบริเวณหูด เพื่อให้เนื้อนั้นฝ่อไปครับ
2.การจี้เย็น และการผ่าตัด ใช้ในกรณีที่หูดมีขนาดใหญ่มาก หรือใช้ยาแล้วไม่ได้ผลครับ
นอกจากนี้ การรักษาโรคหูด ยังต้องรักษาคุ่นอนด้วยค่ะ ไม่เช่นนั้นแล้ว จะทำให้โรคหูด กลับมาเป็นซ้ำๆ ได้ครับ
กลุ่มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธฺนี้ การรักษาคล้ายกัน คือ การให้ยาฆ่าเชื้อ และการรักษาสุขอนามัยทางเพศ การรักษาความสะอาดอยู่เสมอครับ
-กลุ่มโรคอื่นๆ
1.การติดเชื้อที่ผิวหนัง
2.ผิ่นแพ้ เช่น การแพ้ยา เป็นต้น
3.โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตนเอง (autoimmune)
ดังนั้น เมื่อมีตุ่มที่อวัยวะเพศ จะเห็นว่า สามารถเป็นได้หลายอย่าง แนะนำให้คนไข้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายเพิ่ทเติมเพื่อให้การรักษาอย่างเฟมาะสมตามสาเหตุครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขอบคุณค่ะ
รู้สึกหน่วงที่กระเพาะปัสสาวะ มีความรู้สึกปวดปัสสาวะตลอดเวลา เวลาปัสสาวะใกล้จะเสร็จจะเสียวแปลบที่อวัยวะเพศ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)