แตงโม ผลไม้สีแดงรสชาติหวานฉ่ำ คงเป็นของโปรดของใครหลายคน นอกจากความอร่อยแล้ว แตงโมยังเต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่ดีต่อร่างกาย เราลองมาดูกันว่า แตงโมมีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านไหนบ้าง
ทำความรู้จักแตงโม
แตงโม (watermelon) เป็นพืชล้มลุก อายุสั้นอยู่ในวงศ์เดียวกับฟักและแคนตาลูป เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปแอฟริกา มีรสชาติอร่อย ฉ่ำน้ำ สามารถนำมาปลูกได้ทั่วภูมิภาคในประเทศไทย เป็นพืชประเภทเถาเลื้อย แตงโมมีอยู่ 3 พันธุ์คือ แตงโมสายพันธุ์ธรรมดา แตงโมสายพันธุ์ไม่มีเมล็ด และแตงโมสายพันธุ์กินเมล็ด
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
คุณค่าทางโภชนาการ
แตงโมดิบ 100 กรัม มีพลังงาน 30 กิโลแคลอรี่ ประกอบไปด้วยโปรตีน 0.16 กรัม เส้นใย 0.4 กรัม ไขมัน 0.15 กรัม น้ำตาล 6.2 กรัม คาร์โบไฮเดรต 7.55 กรัม แคลเซียม 7 มิลลิกรัม แมกนิเซียม 10 มิลลิกรัม วิตามินเอ 28 ไมโครกรัม วิตามินซี 8.1 มิลลิกรัม กรดฟอลิก 3 ไมโครกรัม ธาตุเหล็ก 0.24 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 11 มิลลิกรัม สังกะสี 0.10 มิลลิกรัม และวิตามินบี 1 0.033 มิลลิกรัม
ประโยชน์ของแตงโม
แตงโมนอกจากมีรสชาติที่หวานอร่อยแล้ว ยังมีสารอาหารที่ช่วยทำให้สมองผ่อนคลาย ลดความเครียด ทานแล้วไม่ต้องกลัวอ้วน แถมยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้มีสุขภาพดี ซึ่งประโยชน์ของแตงโมเราก็มีมาฝากเพิ่มเติมดังนี้
1.ทำให้สมองผ่อนคลาย
ในแตงโมนั้นมีธาตุโพแทสเซียมสูง ทำให้ระดับความดันโลหิตเป็นปกติ เมื่อทานแตงโมเข้าไป จะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย สมองสดชื่น และช่วยให้อารมณ์ดีได้
2.ช่วยควบคุมน้ำหนัก
แตงโมมีรสชาติหวาน แต่มีปริมาณแคลอรี่ต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนักหรือผู้ที่กำลังลดความอ้วน แตงโมยังมีสรรพคุณช่วยลดการสะสมของไขมันที่จับอยู่ตามหลอดเลือดภายในร่างกายได้อีกด้วย
3.บำรุงสายตา
ในแตงโมมีปริมาณวิตามินเอสูง ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา ทำให้การมองเห็นดีขึ้นได้
4.ป้องกันมะเร็ง
แตงโมประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ มีไลโคปีนและเบต้าแคโรทีน รวมถึงวิตามินซีสูงซึ่งซ่อนอยู่ในเนื้อแตงโมสีแดง ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสารสำคัญที่มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งได้หลายชนิด เช่น โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งทางเดินอาหารและยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเนื้องอกชนิดร้ายแรงจากร่างกายของสัตว์ทดลองได้อีกด้วย
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
5.ล้างสารพิษ
แตงโมนั้นเต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ที่ช่วยบำรุงร่างกาย เนื่องจากแตงโมเป็นพืชที่ฉ่ำน้ำ การทานแตงโมจึงช่วยล้างสารพิษออกจากร่างกายได้
6.รักษาหวัด
ในแตงโมมีวิตามินซีสูง ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายสูงขึ้น ช่วยป้องกันหวัด และบรรเทาอาการหวัดให้ดีขึ้นได้
7.ป้องกันการติดเชื้อ
ในแตงโมมีวิตามินเอ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกาย เมื่อร่างกายมีปริมาณวิตามินเอสูง ก็จะลดอาการเจ็บป่วยจากการติดเชื้อลงได้
8.เสริมสมรรถภาพทางเพศ
ในแตงโมมีสารชนิดหนึ่ง ที่มีฤทธิ์ช่วยแก้อาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ให้ผลได้เหมือนกับไวอากร้า ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ส่งผลให้ระบบหมุนเวียนของเลือดดีขึ้น จึงมีเลือดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะเพศมากขึ้น
9.ลดการอักเสบ
แตงโมเป็นผลไม้ที่มีโคลีนซึ่งเป็นกรดอะมิโนอีกหนึ่งชนิดที่มีส่วนช่วยในกระบวนการเรียนรู้ จดจำ และกระบวนการเคลื่อนไหวในร่างกาย โดยโคลีนถือเป็นสารสื่อประสาทชนิดหนึ่ง นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติช่วยลดการดูดซึมไขมัน จึงช่วยลดความเสี่ยงจากการอักเสบในส่วนของเนื้อเยื่อชนิดต่างๆ ที่เกิดจากไขมันเลวในเลือดลงได้
10.สร้างความสดชื่นให้ร่างกาย
เนื่องจากแตงโมเป็นผลไม้ที่ประกอบไปด้วยน้ำมากกว่า 90% บวกกับรสชาติที่หวานฉ่ำอร่อย ทานแล้วจึงช่วยเพิ่มความสดชื่น ช่วยดับกระหายคลายร้อน เป็นผลไม้ที่ช่วยเติมความสดชื่นให้แก่ร่างกายได้เป็นอย่างดีนั่นเอง
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
11.ดีต่อระบบย่อยอาหาร
ด้วยความที่แตงโมเป็นผลไม้ฉ่ำร้อนซึ่งมีน้ำเป็นส่วนประกอบปริมาณมาก บวกกับมีกากใยอาหารค่อนข้างสูง จึงมีส่วนช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และยังส่งผลกระตุ้นการขับถ่ายให้ทำงานดีขึ้นได้ด้วย
12.ซ่อมแซมเนื้อเยื่อในร่างกาย
จากผลการวิจัยได้เปิดเผยว่า น้ำแตงโมมีสารซิทรูลีน (Citrulline) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่เป็นสารตั้งต้นเพื่อสร้างกรดอะมิโนอื่นๆ ที่มีความจำเป็นต่อความต้องการร่างกาย โดยสารนี้จะทำหน้าที่เกี่ยวกับการหลั่งของโกรทฮอร์โมน ซึ่งมีบทบาทช่วยกระตุ้นการสร้างและทำหน้าที่ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อตามส่วนต่างๆ ภายในร่างกาย ส่งผลทำให้ร่างกายมีการเจริญเติบโตที่แข็งแรงและช่วยควบคุมการทำงานของร่างกายให้เป็นไปอย่างปกติยิ่งขึ้น
13.ลดอาการปวดกล้ามเนื้อ
หลังจากออกกำลังกายการกินแตงโมจะช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อลงได้ ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการทดลองโดยให้อาสาสมัครทานแตงโมวันละ 1,560 กรัม เป็นเวลาติดต่อกัน 3 สัปดาห์ พบว่าปริมาณของอาร์จีนินหรือกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายในเลือดอาสาสมัครเพิ่งขึ้นสูงถึง 22% และเมื่อให้นักกีฬาได้ดื่มน้ำแตงโม 500 มิลลิลิตรหรือดื่มน้ำแตงโมที่เติมสารซิทรูลีนก่อนไปออกกำลังกาย 1 ชั่วโมง ผลปรากฎว่าน้ำแตงโมทั้งแบบสดและแบบที่ผสมสารมีส่วนช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจในช่วงฟื้นตัว และยังช่วยลดอาการปวดตามกล้ามเนื้อหลังจากออกกำลังกายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
14.ลดคอเลสเตอรอล ดีต่อสุขภาพหัวใจ
ไลโคปีนที่พบจากในแตงโม เป็นสารที่มีคุณสมบัติช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดลงได้และยังช่วยลดความดันโลหิต นอกจากนี้ ไลโคปีนยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันการออกซิเดชั่นของไขมัน ที่อาจมีผลทำให้เกิดอันตรายต่อหัวใจ ซึ่งมีผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฟลอริดาพบว่า แตงโมมีกรดอะมิโนซิทรูลีนในปริมาณสูง ซึ่งหากร่างกายได้รับปริมาณสารชนิดนี้ประมาณ 4,000 มิลลิกรัมต่อวัน จะสามารถลดความดันโลหิตลงได้ภายใน 6 สัปดาห์เลยทีเดียว โดยกรดอะมิโนซีทรูลีนยังมีบทบาทช่วยกระตุ้นร่างกายให้สามารถผลิตไนตริกออกไซต์ ส่งผลทำให้หลอดเลือดเกิดการขยายตัวมากขึ้น ทำให้การไหลเวียนเลือดที่จะเข้าไปสูบฉีดหัวใจเพิ่มขึ้นสูง จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพหัวใจต่างๆ ลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
15.ลดความดันโลหิต
ทางด้าน American Journal of Hypertension ได้ทำการศึกษาพบว่า สารสกัดจากในแตงโมมีส่วนช่วยลดความดันโลหิตในผู้ป่วยที่เป็นโรคอ้วนลงได้ ตลอดจนถึงผู้สูงอายุที่ป่วยด้วยโรคดังกล่าวซึ่งมีภาวะความดันโลหิตสูงระดับ 1 โดยสามารถลดความดันโลหิตลงได้อย่างมีนัยยะสำคัญนั่นเอง
16.ป้องกันโรคหอบหืด
แตงโมมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่น่าสนใจด้วยกันหลายอย่างทีเดียว โดย 1 ในนั้นก็มีฤทธิ์ที่สามารถต่อต้านการแข็งตัวของหลอดเลือด ช่วยในการขยายตัวของหลอดเลือดและกระตุ้นให้สามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติ และเนื่องจากแตงโมอุดมไปด้วยวิตามินซีสูง ซึ่งเป็นวิตามินที่ช่วยสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง จึงสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคหอบหืดได้ด้วยนั่นเอง
17.กระตุ้นร่างกายให้สร้างโปรตีน
แม้แตงโมจะไม่ได้มีส่วนประกอบของโปรตีนก็ตาม แต่กรดอะมิโนจากในน้ำแตงโมกลับมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างโปรตีนในกล้ามเนื้อขึ้นได้อย่างไม่มีผลกระทบต่อระบบการไหลเวียนโปรตีนในเลือด ด้วยเหตุนี้ ทางด้านการแพทย์จึงมักนิยมนำแตงโมมาผลิตเป็นส่วนผสมของอาหารเสริมโปรตีนในผู้สูงอายุ หรือใช้ในผู้ที่มีภาวะร่างกายขาดสารอาหารในกลุ่มโปรตีน
ไอเดียการใช้แตงโมเพื่อสุขภาพ
ด้วยเพราะแตงโมเป็นผลไม้ที่มากด้วยคุณประโยชน์มากมาย แตงโมเรียกว่าดีทั้งในส่วนเนื้อและเนื้อติดเปลือกด้วยซ้ำ สำหรับการกินแบบปกติแล้ว เรายังสามารถนำมาใช้เพื่อสุขภาพภายนอกได้เพิ่มเติมดังนี้
1.ใช้รักษาแผล
เปลือกแตงโมนำมารักษาแผลได้ โดยการนำเปลือกมาล้างให้สะอาด แล้วนำไปตากให้แห้ง นำมาบดเป็นผล แล้วนำมาทาแผล จะทำให้แผลหายเร็วขึ้น
2.ลดอาการเจ็บคอ
ให้นำเปลือกแตงโมไปต้มให้เดือด ใส่น้ำตาลทรายลงไป นำมาดื่มเมื่อมีอาการ
3.บำรุงผิวพรรณ
แตงโมมีสรรพคุณในการบำรุงความงามได้ โดยนำแตงโมมาหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ นำมาวางบนผ้าขาว แล้วนำมาแปะไว้บนใบหน้า ประมาณ 15 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด แตงโมจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า ลดความมันบนใบหน้า และบรรเทาอาการผิวไหม้แดดได้เป็นอย่างดี
ไอเดียการกินแตงโมเพื่อสุขภาพ
แตงโมเต็มไปด้วยแร่ธาตุ สามารถนำมาใช้ทำเป็นของหวานและของคาวได้ อีกทั้งยังเหมาะสำหรับทำเป็นเครื่องดื่มแสนอร่อย ซึ่งไอเดียการกินแตงโมเพื่อสุขภาพ เราก็มีมาฝากดังนี้
1.สลัดแตงโม
เริ่มจากหั่นแตงโมกับแตงกวาเป็นรูปลูกเต๋า หั่นหอมหัวแดง สับใบมิ้นท์ พาสลีย์ ขูดชีสเฟต้า เตรียมไว้ นำแตงกวา แตงโม มาผสมกับหอมแดง ใส่ใบมินต์ พาสลีย์ ชีสเฟต้า ใส่ถั่วพิสตาซิโอ คลุกเคล้าให้ส่วนผสมเข้ากัน ใส่น้ำมันมะกอก เกลือป่น น้ำส้มสายชูหมัก และพริกไทย คนให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟได้เลย เป็นเมนูสลัดแตงโมลดน้ำหนักที่กินแล้วไม่ทำให้อ้วนแน่นอน
2.น้ำแตงโม
นำเนื้อแตงโมมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แกะเมล็ดออก ใส่แตงโมลงไปในเครื่องปั่น เติมน้ำเชื่อม เกลือป่น และน้ำมะนาว ใส่น้ำแข็งลงไปในโถปั่น ปั่นจนได้เนื้อละเอียด เทใส่แก้ว ตกแต่งให้สวยงาม นำมาดื่มดับกระหายคลายร้อนและเพิ่มความสดชื่นได้เลย
3.ไอศกรีมแตงโม
เตรียมเนื้อแตงโมแกะเมล็ด เตรียมไอศครีมรสมะนาว จากนั้นนำเนื้อแตงโมใส่ลงไปในโถปั่น ใส่น้ำตาลลงไป ปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน นำไปแช่เย็นทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง นำออกจากตู้เย็น ผสมช็อกโกแลตชิพลงไป จากนั้นนำส่วนผสมมาใส่ในพิมพ์ นำไปแช่แข็งอีก 2 ชั่วโมง เอาออกจากตู้เย็น ตักไอศกรีมรสมะนาวลงไปทับ ใส่ไม้ไอศกรีมลงไป นำเข้าแช่แข็ง จนไอศกรีมเซตตัว นำออกทานได้เลย
4.วุ้นแตงโม
นำแตงโมมาผ่าครึ่ง ตักเนื้อแตงโมออก เก็บเปลือกเอาไว้ เอาเนื้อแตงโมใส่ลงไปปั่นในเครื่องปั่น จนเนื้อเริ่มละเอียด กรองเอาเฉพาะน้ำ นำหม้อขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำเปล่าและน้ำตาลลงไปในหม้อ ผสมจนน้ำตาลเริ่มละลาย ยกลงจากเตาใส่น้ำแตงโมลงไป ใส่เจลาตินผสมให้เข้ากัน นำส่วนผสมที่ได้เทลงไปในเปลือกแตงโม นำไปแช่เย็น 4 ชั่วโมง เมื่อเริ่มเซตตัว ตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ยกขึ้นเสิร์ฟ
ข้อควรระวัง
ถึงแม้แตงโมจะมีสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพหลายอย่าง แต่ผู้ป่วยโรคกระเพาะ ลำไส้อักเสบ ม้ามไม่แข็งแรง และผู้หญิงหลังคลอด ควรหลีกเลี่ยงการทานแตงโม นอกจากนี้ ยังมีข้อควรระวังที่ควรรู้เพิ่มเติมอีกคือ
- การรับประทานแตงโมมากเกินไปอาจมีผลกระทบต่อการทำงานของลำไส้ เนื่องจากสารไลโคปีนจะทำให้เกิดอาการท้องอืด หรือแม้แต่กระทั่งการเป็นโรคท้องร่วง
- เนื่องจากแตงโมมีสารโพแทสเซียมสูง ซึ่งอาจเป็นผลต่อการทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือด เพราะร่างกายได้รับแคลเซียมมากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลให้การทำงานของหัวใจเป็นไปอย่างผิดปกติ
- แม้แตงโมจะมีส่วนช่วยควบคุมความดันได้ แต่การทานแตงโมมากเกินไปก็จะทำให้ความดันโลหิตในร่างกายต่ำลง จากสารหลายชนิดที่อยู่ในแตงโม
- เนื่องจากแตงโมประกอบไปด้วยน้ำปริมาณมาก ซึ่งหากทานมากเกินไปก็อาจทำให้ร่างกายได้รับน้ำมากขึ้นตาม ส่งผลทำให้เกิดการขับปัสสาวะออกมาปริมาณมากได้ด้วยนั่นเอง และหากมีอาการท้องเสียอยู่ หากทานแตงโมก็จะยิ่งช่วยกระตุ้นให้ระบบขับถ่ายทำงานมากขึ้น โดยอาจจะกระตุ้นทำให้อาการท้องเสียหนักขึ้นกว่าเดิมได้นั่นเอง
แตงโมเต็มไปด้วยแร่ธาตุและวิตามิน มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องร่างกายจากมลภาวะรอบตัว เป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังลดน้ำหนัก เพราะแคลอรีต่ำ ลดไขมันได้ อีกทั้งยังมีส่วนบำรุงและป้องกันโรคได้หลายชนิด นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับการนำมาทำเป็นเมนูอาหารหวานได้หลายแบบ กินแล้วชื่นใจ คลายร้อน ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพเต็มๆ คำอย่างแท้จริง