ผักแขยง เป็นพืชที่ขึ้นตามคันนา นาข้าว บริเวณที่ชื้นแฉะและริมคูน้ำ ผักชนิดนี้จัดเป็นผักพื้นบ้านที่สำคัญของภาคอีสาน เนื่องจากมีรสชาติอร่อย เหมาะสำหรับนำมาปรุงอาหาร และยังมีสรรพคุณทางยามากมายอีกด้วย
ชื่อวิทยาศาสตร์ Limnophila aromatica (Lam.) Merr.
ชื่อวงศ์ PLANTAGINACEAE
ชื่ออังกฤษ Rice paddy herb
ชื่อท้องถิ่น ผักพา จุ้ยหู่โย้ง สุ่ยฝูโหยง ผักกะแยง ผักกะออม มะออม ผักลืมผัว ควันเข้าตา อีผวยผาย
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ผักแขยงเป็นพืชล้มลุกอายุ 1 ปี มีขนาดเล็ก สูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร ลำต้นสีเขียว ภายในกลวงเห็นข้อปล้องชัดเจน ลำต้นมีกลิ่นฉุนรุนแรง ใบเป็นใบเดี่ยวขนาดเล็ก ออกเป็นคู่ตรงข้ามกันหรืออาจมี 3 ใบ ออกอยู่รอบๆ ข้อ ใบรูปรีหรือรูปหอก ยาว 1.5-5 เซนติเมตร กว้าง 1-2 เซนติเมตร ไม่มีก้านใบ ฐานใบจะหุ้มลำต้นเอาไว้ ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย ด้านบนของใบมีต่อมเล็กๆ มากมาย ดอกเป็นดอกเดี่ยว ออกตรงซอกใบหรือออกเป็นช่อ มีกลีบเลี้ยงสีเขียว 5 กลีบ กลีบดอกสีแดง ชมพูอ่อน หรือม่วง
คุณค่าทางโภชนาการของผักแขยง
ผักแขยง 100 กรัม ให้พลังงาน 26 แคลอรี มีคุณค่าทางโภชนาการดังนี้
- โปรตีน 1.2 กรัม
- ไขมัน 0.5 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 4.2 กรัม
- ใยอาหาร 1.2 กรัม
- วิตามินบี 1 0.85 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 2 0.12 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 3 0.44 มิลลิกรัม
- วิตามินซี 10 มิลลิกรัม
- แคลเซียม 10 มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก 2.7 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 3.3 กรัม
ที่มา: สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
สรรพคุณของผักแขยง
ส่วนต่างๆ ของผักแขยงมีสรรพคุณทางยาดังนี้
- ตามตำรายาพื้นบ้าน จะใช้ผักแขยงทั้งต้นและส่วนรากเป็นยาแก้พิษไข้ แก้ไข้หัวลม (ไข้ที่เกิดช่วงฤดูฝน มีอาการไข้ร่วมกับอาการวิงเวียน คลื่นไส้ อาเจียน) ก่อนนำมาใช้ให้ล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาตำให้ละเอียดคั้นเอาแต่น้ำกิน
- ผักแขยงมีรสเผ็ดร้อน กลิ่นหอมฉุน จึงสามารถนำมารับประทานแบบสดๆ เป็นยาขับลมและบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยทำให้เจริญอาหาร ลดอาการเบื่ออาหาร
- ต้นสดนำมาคั้นเอาน้ำทาบริเวณที่มีอาการคัน กลาก และฝี
- แพทย์พื้นบ้านทางภาคอีสาน จะใช้ผักแขยงทั้งต้นเป็นยาช่วยขับน้ำนมของสตรี โดยนำผักแขยงทั้งต้นต้มในน้ำเดือด รับประทานก่อนวันละ 3 ครั้ง ติดต่อกัน 7-15 วัน
การนำผักแขยงมาปรุงอาหาร
ทั้งต้น ยอดอ่อน และใบอ่อน สามารถรับประทานเป็นผักสดร่วมกับลาบ ก้อย แจ่ว น้ำพริก ส้มตำ ซุปหน่อไม้ หรือนำไปเป็นเครื่องปรุงรสและแต่งกลิ่นช่วยดับกลิ่นคาวสำหรับ ต้มส้ม แกงหน่อไม้ แกงอ่อมต่างๆ
ข้อห้ามและข้อควรระวังในการรับประทานผักแขยง
มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า ผักแขยงมีสารแคลเซียมออกซาเลตในปริมาณสูง ซึ่งสารชนิดนี้จะเข้าไปสะสมและกลายเป็นนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น ไต กระเพาะปัสสาวะ เป็นต้น จึงไม่ควรรับประทานมากเกินไป และไม่ควรรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน