ปัญหาท้องอืดและอาหารไม่ย่อยอันน่ารำคาญนี้ เกิดจากปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนในร่างกายคุณแม่ผลิตออกมามากในช่วงเริ่มตั้งครรภ์ เพื่อคลายเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อเรียบทั่วร่างกาย รวมถึงระบบทางเดินอาหาร
ส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลง เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร และปวดท้อง โดยเฉพาะหลังจากรับประทานอาหารแต่ละมื้อ
ฝากครรภ์ คลอดบุตรวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 79 บาท ลดสูงสุด 65%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สาเหตุที่ทำให้คนท้องท้องอืด
1. เกิดจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนของคนท้อง เพื่อให้ร่างกายได้เตรียมความพร้อมสำหรับลูกน้อยค่ะ ในช่วงแรกท้องอืดเกิดจากระบบย่อยอาหารถูกรบกวน แล้วก็จะมีอาการอื่นๆ ตามมาเช่น แน่นท้อง และท้องผูก
2. เกิดจากการขยายตัวของมดลูก เมื่อกระเพาะอาหารที่เบียดด้วยมดลูก ทำให้ระบบย่อยอาหารไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ บางครั้งทำให้เกิดการหมักหมมในท้องจนเกิดแก๊สในท้อง
3. เกิดจากพฤติกรรมของคุณแม่เอง เช่น การเคี้ยวอาหารที่ไม่ละเอียด กินอาหารรสจัด อาหารทอด หรือผักผลไม้ที่ทำใ้เกิดแก๊สมาก
4. เกิดจากความผิดปกติอย่างอื่น เช่น โรคกระเพาะอาหาร ตับ โรคเบาหวาน และไทรอยด์
5. ทฤษฎีของสาเหตุของการย่อยรวมถึงการป้อนข้อมูลที่ผิดปกติจากเส้นประสาทรับความรู้สึกในลำไส้, การประมวลผลที่ผิดปกติของการป้อนข้อมูลจากประสาทสัมผัสและการกระตุ้นที่ผิดปกติของลำไส้โดยประสาทมอเตอร์
อาการ
อาการหลักของอาหารไม่ย่อยคือ อาการปวดท้องตอนบนหรือไม่สบาย เรอ คลื่นไส้ ท้องอืด รู้สึกอิ่มหลังจากกินอาหารเพียงเล็กน้อย (ต้นอิ่ม) อาการท้องอืด (บวม) และ บางครั้งอาเจียน อาการส่วนใหญ่มักถูกกระตุ้นจากการกิน
ฝากครรภ์ คลอดบุตรวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 79 บาท ลดสูงสุด 65%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
อาหารที่ทำให้คนท้องท้องอืด
1. แอปเปิ้ล: แม้ว่าแอปเปื้ลจะมีสรรพคุณในการย่อยอาหาร แต่ก็มีสารชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า เพกทิน ซึ่งจัดว่าเป็นสารประกอบคาร์โบไฮเดรตประเภทไฟเบอร์หรือเส้นใยอาหารที่ไม่ถูกย่อยโดยเอนไซม์ในระบบการย่อยอาหารของร่างกาย ในแอปเปิ้ลมีสารนี้อยู่ประมาณ 0.78% เลยทีเดียว ทำให้บางครั้งที่คุณแม่กินแอปเปิ้ลเข้าไปจะรู้สึกว่ามีแก๊สในท้องเยอะ
2. กะหล่ำปลี: คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอาการแน่นท้องอยู่แล้ว แนะนำให้หลีกเลี่ยงกะหล่ำปลี เนื่องจากกะหล่ำปลีเป็นผักที่ทำให้คุณแม่ท้องอืดมากขึ้น เพราะมันจะชะลอการย่อยอาหารและทำให้เกิดอาการเสียดท้องได้
3. ถั่ว: ถั่วเป็นอาหารที่ทำให้เกิดก๊าซอันดับต้นๆ คุณแม่คงได้ยินว่ากินถั่วแล้วตดเหม็นใช่ไหม ความจริงแล้วในถั่วมีน้ำตาลราฟฟิโนส ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เกิดแก๊ส อีกทั้งยังทำให้เกิดการชะลอการย่อยอาหาร หากคุณแม่อยากกินแนะนำให้ล้างน้ำให้สะอาดก่อน
4. แป้ง: แป้งที่ทำให้เกิดแก๊สมาก ได้แก่ แป้งจาก มันฝรั่ง ข้าวโพด ข้าวสาลี ยกเว้นข้าว
5. เครื่องดื่มที่มีแก๊ส: น้ำอัดลม โซดา และน้ำผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง
6. อาหารแปรรูป: ขนมขบเคี้ยว ซีเรียล น้ำสลัด อาหารเหล่านี้มีส่วนประกอบที่มีน้ำตาลที่หลากหลาย เช่น น้ำตาลฟรุคโตสและแลคโตส ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดแก๊สได้
7. ของทอด: อาหารทอด ของมัน หรืออาหารรสจัด ก็เป็นอีกหนึ่งประเภทที่ทำให้คุณแม่ท้องอืดได้
คุณแม่อาจมีอาการอาหารไม่ย่อยตลอดช่วงตั้งครรภ์ แต่ยังพอมีวิธีบรรเทาอาการให้ดีขึ้นอยู่บ้าง หรือลดความถี่ไม่ให้เป็นบ่อยเช่นเดิม ดังนี้
- สวมใส่เสื้อผ้าหลวมๆ และเบาสบาย ไม่รัดเอวหรือท้องจนแน่น
- แทนที่จะกินอาหาร 3 มื้อเช่นเดิม ให้ลองแบ่งมื้ออาหารออกเป็นมื้อเล็กหลายมื้อตลอดทั้งวัน และใช้เวลากินให้นานขึ้น รวมถึงเคี้ยวอาหารให้ละเอียดกว่าที่เคย
- หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดแก๊สในระบบทางเดินอาหารหรือทำให้ย่อยยาก เช่น โซดา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ซึ่งควรหลีกเลี่ยงอยู่แล้วระหว่างตั้งครรภ์) เนื้อสัตว์แปรรูป อาหารรสจัด ของทอด และอาหารที่มีไขมันสูง
- ห้ามสูบบุหรี่ (แน่นอน คุณต้องหยุดให้ได้ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์)
- รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในระดับเหมาะสมตามเกณฑ์ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เสมอ
คนท้องท้องอืดควรทำอย่างไรดี?
- พยายามทานอาหารที่ย่อยง่าย กินผักและผลไม้ที่มีใยอาหารเยอะๆ หลีกเลี่ยงผักและผลไม้ที่มีแก๊ส เพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นค่ะ
- พยายามแบ่งอาหารออกเป็นหลายๆ มื้อ เนื่องจากคนท้องเมื่อท้องโตขึ้นจะเหลือพื้นที่ในกระเพาะอาหารไม่มาก ทำให้กินได้นิดเดียวก็อิ่ม ดังนั้นคุณแม่จึงต้องทานอาหารที่ย่อยง่าย และควรเคี้ยวให้ละเอียดจะได้ย่อยง่าย
- อย่าปล่อยให้ท้องว่าง เมื่อท้องว่างจะทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร และอย่าทานอาหารรสจัด
- เวลาจะก้มตัว ให้งอเข่าลงก่อนแทนการค้อมเอวก้มลงทั้งตัว
- เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ ให้รออย่างน้อย 1 ชั่วโมงแล้วค่อยนอนหรือเอนหลัง
- จัดท่านอนให้ส่วนบนของร่างกายอยู่สูงกว่าส่วนล่าง โดยอาจใช้หมอนหนุนหลายใบ
- รับประทานยาลดกรดในกระเพาะอาหารตามปริมาณที่แพทย์แนะนำ
อย่างไรก็ตาม หากคุณแม่ทำตามคำแนะนำแล้วอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย ยังไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาหรือให้วินิจฉัยอาการอย่างละเอียด
ตัวอย่างยาแก้ท้องอืดสำหรับคนท้อง
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจฝากครรภ์ คลอดบุตร จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกการอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android