กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD
ทีมแพทย์ HD
ตรวจสอบความถูกต้องโดย
ทีมแพทย์ HD

อาการท้องอืดและอาหารไม่ย่อยระหว่างตั้งครรภ์ ทำอย่างไรให้ดีขึ้น

เผยแพร่ครั้งแรก 18 ก.พ. 2019 อัปเดตล่าสุด 27 พ.ย. 2020 ตรวจสอบความถูกต้อง 22 ก.พ. 2019 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
อาการท้องอืดและอาหารไม่ย่อยระหว่างตั้งครรภ์ ทำอย่างไรให้ดีขึ้น

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • ปัญหาท้องอืดอาหารไม่ย่อย เกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนผลิตออกมามากในช่วงเริ่มตั้งครรภ์ เพื่อคลายกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย รวมถึงระบบทางเดินอาหาร ส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลง 
  • สาเหตุที่ทำให้คนตั้งครรภ์ท้องอืดมีอีกหลายอย่าง เช่น  เกิดการขยายตัวของมดลูก การเคี้ยวอาหารที่ไม่ละเอียด กินอาหารรสจัด อาหารทอด โรคกระเพาะอาหาร ตับ โรคเบาหวาน และไทรอยด์
  • ตัวอย่างอาหารที่ทำให้ท้องอืด เช่น แอปเปิ้ล กะหล่ำปลี ถั่ว แป้ง เครื่องดื่มที่มีแก๊ส อาหารแปรรูป ของทอด โดยบางชนิดอาจสารบางชนิดที่เอนไซม์ในระบบบ่อยอาหารย่อยได้ไม่ดี หรือทำให้เกิดแก๊ส 
  • คำแนะนำเบื้องต้นได้แก่ สวมใส่เสื้อผ้าหลวมๆ ไม่รัดจนแน่น แบ่งมื้ออาหารออกเป็นมื้อเล็กหลายมื้อตลอดทั้งวัน เลือกกินอาหารย่อยง่าย และอย่าปล่อยให้ท้องว่าง เพราะทำให้เกิดแก๊สได้ 
  • เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจฝากครรภ์ คลอดบุตร

ปัญหาท้องอืดและอาหารไม่ย่อยอันน่ารำคาญนี้ เกิดจากปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนในร่างกายคุณแม่ผลิตออกมามากในช่วงเริ่มตั้งครรภ์ เพื่อคลายเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อเรียบทั่วร่างกาย รวมถึงระบบทางเดินอาหาร 

ส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลง เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร และปวดท้อง โดยเฉพาะหลังจากรับประทานอาหารแต่ละมื้อ

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

สาเหตุที่ทำให้คนท้องท้องอืด

1. เกิดจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนของคนท้อง เพื่อให้ร่างกายได้เตรียมความพร้อมสำหรับลูกน้อยค่ะ ในช่วงแรกท้องอืดเกิดจากระบบย่อยอาหารถูกรบกวน แล้วก็จะมีอาการอื่นๆ ตามมาเช่น แน่นท้อง และท้องผูก

2. เกิดจากการขยายตัวของมดลูก เมื่อกระเพาะอาหารที่เบียดด้วยมดลูก ทำให้ระบบย่อยอาหารไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ บางครั้งทำให้เกิดการหมักหมมในท้องจนเกิดแก๊สในท้อง

3. เกิดจากพฤติกรรมของคุณแม่เอง เช่น การเคี้ยวอาหารที่ไม่ละเอียด กินอาหารรสจัด อาหารทอด หรือผักผลไม้ที่ทำใ้เกิดแก๊สมาก

4. เกิดจากความผิดปกติอย่างอื่น เช่น โรคกระเพาะอาหาร ตับ โรคเบาหวาน และไทรอยด์

5. ทฤษฎีของสาเหตุของการย่อยรวมถึงการป้อนข้อมูลที่ผิดปกติจากเส้นประสาทรับความรู้สึกในลำไส้, การประมวลผลที่ผิดปกติของการป้อนข้อมูลจากประสาทสัมผัสและการกระตุ้นที่ผิดปกติของลำไส้โดยประสาทมอเตอร์

อาการ

อาการหลักของอาหารไม่ย่อยคือ อาการปวดท้องตอนบนหรือไม่สบาย เรอ คลื่นไส้ ท้องอืด รู้สึกอิ่มหลังจากกินอาหารเพียงเล็กน้อย (ต้นอิ่ม) อาการท้องอืด (บวม) และ บางครั้งอาเจียน อาการส่วนใหญ่มักถูกกระตุ้นจากการกิน

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

อาหารที่ทำให้คนท้องท้องอืด

1. แอปเปิ้ล: แม้ว่าแอปเปื้ลจะมีสรรพคุณในการย่อยอาหาร แต่ก็มีสารชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า เพกทิน ซึ่งจัดว่าเป็นสารประกอบคาร์โบไฮเดรตประเภทไฟเบอร์หรือเส้นใยอาหารที่ไม่ถูกย่อยโดยเอนไซม์ในระบบการย่อยอาหารของร่างกาย ในแอปเปิ้ลมีสารนี้อยู่ประมาณ 0.78% เลยทีเดียว ทำให้บางครั้งที่คุณแม่กินแอปเปิ้ลเข้าไปจะรู้สึกว่ามีแก๊สในท้องเยอะ

2. กะหล่ำปลี: คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอาการแน่นท้องอยู่แล้ว แนะนำให้หลีกเลี่ยงกะหล่ำปลี เนื่องจากกะหล่ำปลีเป็นผักที่ทำให้คุณแม่ท้องอืดมากขึ้น เพราะมันจะชะลอการย่อยอาหารและทำให้เกิดอาการเสียดท้องได้

3. ถั่ว: ถั่วเป็นอาหารที่ทำให้เกิดก๊าซอันดับต้นๆ คุณแม่คงได้ยินว่ากินถั่วแล้วตดเหม็นใช่ไหม ความจริงแล้วในถั่วมีน้ำตาลราฟฟิโนส ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เกิดแก๊ส อีกทั้งยังทำให้เกิดการชะลอการย่อยอาหาร หากคุณแม่อยากกินแนะนำให้ล้างน้ำให้สะอาดก่อน

4. แป้ง: แป้งที่ทำให้เกิดแก๊สมาก ได้แก่ แป้งจาก มันฝรั่ง ข้าวโพด ข้าวสาลี ยกเว้นข้าว

5. เครื่องดื่มที่มีแก๊ส: น้ำอัดลม โซดา และน้ำผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง

6. อาหารแปรรูป: ขนมขบเคี้ยว ซีเรียล น้ำสลัด อาหารเหล่านี้มีส่วนประกอบที่มีน้ำตาลที่หลากหลาย เช่น น้ำตาลฟรุคโตสและแลคโตส ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดแก๊สได้

7. ของทอด: อาหารทอด ของมัน หรืออาหารรสจัด ก็เป็นอีกหนึ่งประเภทที่ทำให้คุณแม่ท้องอืดได้

คุณแม่อาจมีอาการอาหารไม่ย่อยตลอดช่วงตั้งครรภ์ แต่ยังพอมีวิธีบรรเทาอาการให้ดีขึ้นอยู่บ้าง หรือลดความถี่ไม่ให้เป็นบ่อยเช่นเดิม ดังนี้

  • สวมใส่เสื้อผ้าหลวมๆ และเบาสบาย ไม่รัดเอวหรือท้องจนแน่น
  • แทนที่จะกินอาหาร 3 มื้อเช่นเดิม ให้ลองแบ่งมื้ออาหารออกเป็นมื้อเล็กหลายมื้อตลอดทั้งวัน และใช้เวลากินให้นานขึ้น รวมถึงเคี้ยวอาหารให้ละเอียดกว่าที่เคย
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดแก๊สในระบบทางเดินอาหารหรือทำให้ย่อยยาก เช่น โซดา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ซึ่งควรหลีกเลี่ยงอยู่แล้วระหว่างตั้งครรภ์) เนื้อสัตว์แปรรูป อาหารรสจัด ของทอด และอาหารที่มีไขมันสูง
  • ห้ามสูบบุหรี่ (แน่นอน คุณต้องหยุดให้ได้ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์)
  • รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในระดับเหมาะสมตามเกณฑ์ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เสมอ

คนท้องท้องอืดควรทำอย่างไรดี?

  • พยายามทานอาหารที่ย่อยง่าย กินผักและผลไม้ที่มีใยอาหารเยอะๆ หลีกเลี่ยงผักและผลไม้ที่มีแก๊ส เพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นค่ะ
  • พยายามแบ่งอาหารออกเป็นหลายๆ มื้อ เนื่องจากคนท้องเมื่อท้องโตขึ้นจะเหลือพื้นที่ในกระเพาะอาหารไม่มาก ทำให้กินได้นิดเดียวก็อิ่ม ดังนั้นคุณแม่จึงต้องทานอาหารที่ย่อยง่าย และควรเคี้ยวให้ละเอียดจะได้ย่อยง่าย
  • อย่าปล่อยให้ท้องว่าง เมื่อท้องว่างจะทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร และอย่าทานอาหารรสจัด
  • เวลาจะก้มตัว ให้งอเข่าลงก่อนแทนการค้อมเอวก้มลงทั้งตัว 
  • เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ ให้รออย่างน้อย 1 ชั่วโมงแล้วค่อยนอนหรือเอนหลัง 
  • จัดท่านอนให้ส่วนบนของร่างกายอยู่สูงกว่าส่วนล่าง โดยอาจใช้หมอนหนุนหลายใบ 
  • รับประทานยาลดกรดในกระเพาะอาหารตามปริมาณที่แพทย์แนะนำ

อย่างไรก็ตาม หากคุณแม่ทำตามคำแนะนำแล้วอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย ยังไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาหรือให้วินิจฉัยอาการอย่างละเอียด

ตัวอย่างยาแก้ท้องอืดสำหรับคนท้อง

  • ยาเม็ด : air-x, แอนตาซิล
  • ยาชงดื่ม : อีโน (ได้ผลค่อนข้างดี)
  • ยาน้ำ : อะลัมมิลค์
  • ยาสมุนไพร : ขมิ้นชัน

เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจฝากครรภ์ คลอดบุตร จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกการอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


2 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Jay W. Marks, MD, Indigestion (Dyspepsia, Upset Stomach Pain) Symptoms, Relief Remedies, and Medicine (https://www.medicinenet.com/dy...)
Debra Gussman, How can I relieve bloating and indigestion? (https://www.babycenter.com/404...

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
ทารกมีอัตราการเต้นของหัวใจช้า อันตรายหรือไม่
ทารกมีอัตราการเต้นของหัวใจช้า อันตรายหรือไม่

เรื่องง่ายๆ ที่คุณแม่ทุกคนต้องใส่ใจเพราะอัตราการเต้นของหัวใจสัมพันธ์กับความปลอดภัยของลูกน้อย

อ่านเพิ่ม
อะไรคือสัญญาณการฉีกขาดในภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก?
อะไรคือสัญญาณการฉีกขาดในภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก?

เรียนรู้สัญญาณการตั้งครรภ์นอกมดลูกก่อนที่มันจะฉีกขาด

อ่านเพิ่ม
ทำความเข้าใจกับภาวะตั้งครรภ์ที่ไข่ที่ปฏิสนธิไม่ฝังตัว (Chemical Pregnancy) ใช่หรือไม่ใช่?
ทำความเข้าใจกับภาวะตั้งครรภ์ที่ไข่ที่ปฏิสนธิไม่ฝังตัว (Chemical Pregnancy) ใช่หรือไม่ใช่?

การตั้งครรภ์ที่เร็วเกินไปที่จะยืนยันด้วยวิธีการทางชีวเคมี

อ่านเพิ่ม