Ciprofloxacin (ไซโปรฟลอกซาซิน)

Ciprofloxacin (ไซโปรฟลอกซาซิน) เป็นยาปฏิชีวนะที่ใช้สำหรับรักษาอาการติดเชื้อจากแบคทีเรียหลากหลายชนิด เช่น การติดเชื้อที่ผิวหนัง กระดูก และข้อต่อ การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ยานี้มีผลข้างเคียงค่อนข้างรุนแรง จึงมักจะนำมาใช้ก็ต่อเมื่อไม่สามารถรักษาด้วยยาปฏิชีวนะชนิดอื่นที่ปลอดภัยกว่าได้

ตัวอย่างยี่ห้อยา Ciprofloxacin ที่มีจำหน่ายในประเทศไทย

ยา Ciprofloxacin ที่มีจำหน่ายในประเทศไทยมีหลากหลายยี่ห้อ ได้แก่ Cifloxin, Cifran, Cinfloxine, Cipon, Ciprobay, Ciprocep, Ciprogen, Ciproxin, Ciproxyl, Cobay, Hippro, Hippro Forte, Ificipro, Pharproxin, Poli-Cifloxin, Uroxin, Vesprocin, Ciflex, Ciflo, Ciflolan, Cifloxno, Cifolox, Ciloxan, Cipflocin, Cipro I.V., Ciprobid, Ciprofex, Ciprofin, Ciprofloxacin-antibiotic, Ciprofloxacin Injection Fresenius Kabi, Ciprohof, Ciprom-M, Ciproxan, Ciproxin-500, Ciproxin-T.M., Cyflox, Enoxin, Floxcipro 500, Forexin, Optal-Pro, Proflox และ Xyrocin-250

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ

หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

กด

รูปแบบของยา Ciprofloxacin

Ciprofloxacin มีจำหน่ายในรูปแบบต่อไปนี้

• ยาเม็ดสำหรับรับประทาน ประกอบด้วย Ciprofloxacin ขนาด 250 และขนาด 500 มิลลิกรัม 
• ยาสำหรับฉีด ประกอบด้วย Ciprofloxacin ที่มีความเข้มข้น 100 มิลลิกรัม ในยาฉีด 50 มิลลิลิตร 
• ยาสำหรับหยอดหู

กลไกการออกฤทธิ์ของยา Ciprofloxacin

Ciprofloxacin เป็นยาปฏิชีวนะในกลุ่มฟลูออโรควิโนโลน (Fluoroquinolone) มีฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการสังเคราะห์ DNA ผ่านการยับยั้งเอนไซม์ดีเอ็นเอ ไจเรส (DNA gyrase) และเอนไซม์โทพอยโซเมอเรส 4 (Topoisomerase IV) 

ซึ่งเป็นเอนไซม์ทั้ง 2 ตัวนี้ เป็นเอนไซม์สำคัญในกระบวนการเพิ่มจำนวนของ DNA ของแบคทีเรีย ยานี้จึงช่วยลดการเพิ่มจำนวนของแบคทีเรียนั่นเอง

ข้อควรระวังในการใช้ยา Ciprofloxacin

• ไม่ใช้ยาในผู้ป่วยที่แพ้ยานี้ หรือแพ้ยาในกลุ่มควิโนโลน (Quinolone)
• ไม่ใช้ยาในผู้ป่วยที่กำลังใช้ยาทิซานิดีน (Tizanidine)
• การใช้ยา Ciprofloxacin อาจมีผลข้างเคียงเป็นอาการมึนงงหรือง่วงซึม ในระหว่างที่ใช้ยาจึงไม่ควรขับรถหรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้เครื่องจักร จนกว่าจะแน่ใจว่ายาไม่ส่งผลให้รู้สึกมึนงงหรือง่วงซึม
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรืออยู่กลางแดดจ้า และทาครีมกันแดดหรือสวมเสื้อผ้าปกปิดให้มิดชิดเมื่อต้องออกไปตากแดด เนื่องจากตัวยามีผลข้างเคียงทำให้ผิวไวต่อแสงได้
• ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยา Ciprofloxacin หากมีอาการชัก หรือโรคลมชัก มีโรคระบบประสาทส่วนกลาง โรคภาวะพร่องเอนไซด์ G6PD มีภาวะการเต้นของหัวใจผิดจังหวะแบบ QT interval prolongation ได้รับปลูกถ่ายไต หัวใจ ปอด หรือป่วยเป็นโรคตับ และโรคไต

ข้อบ่งใช้ของยา Ciprofloxacin

Ciprofloxacin ชนิดยาฉีดเข้าหลอดเลือดดำ 

• รักษาการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง และการติดเชื้อที่ผิวหนัง ปริมาณการใช้ยาในผู้ใหญ่ ครั้งละ 400 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง หรือวันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 7-14 วัน โดยให้ยาแบบ infusion นานกว่า 60 นาที
• รักษาต่อมลูกหมากอักเสบจากการติดเชื้อ ปริมาณการใช้ยาในผู้ใหญ่ ครั้งละ 400 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 28 วัน โดยให้ยาแบบ infusion นานกว่า 60 นาที
• รักษาการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ชนิดมีภาวะแทรกซ้อน ปริมาณการใช้ยาในผู้ใหญ่ ครั้งละ 200-400 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 7-14 วัน โดยให้ยาแบบ infusion นานกว่า 60 นาที
• รักษาและป้องกันการติดเชื้อแอนแทรกซ์หลังจากการสูดดมเชื้อ ปริมาณการใช้ยาในผู้ใหญ่ ครั้งละ 400 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 60 วัน โดยให้ยาแบบ infusion นานกว่า 60 นาที
• รักษาการติดเชื้อที่กระดูกและข้อ ปริมาณการใช้ยาในผู้ใหญ่ ครั้งละ 400 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง หรือวันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 4-12 สัปดาห์ โดยให้ยาแบบ infusion นานกว่า 60 นาที

Ciprofloxacin ชนิดยาเม็ดรับประทาน สามารถรับประทานก่อน หรือหลังอาหาร และขณะท้องว่างได้ แต่ควรรับประทานเป็นเวลาเดียวกันทุกวัน

• รักษาการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง การติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจส่วนบน และการติดเชื้อที่ผิวหนัง ปริมาณการใช้ยาในผู้ใหญ่ รับประทานครั้งละ 500-750 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 7-14 วัน
• รักษากรวยไตอักเสบ ชนิดไม่มีภาวะแทรกซ้อน ปริมาณการใช้ยาในผู้ใหญ่ รับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 7 วัน ในกรณีที่มีภาวะแทรกซ้อน ให้รับประทาน 500-750 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลาอย่างน้อย 10 วัน
• รักษาต่อมลูกหมากอักเสบจากการติดเชื้อ ปริมาณการใช้ยาในผู้ใหญ่ รับประทานครั้งละ 500-750 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 2-4 สัปดาห์ หากมีอาการแบบเฉียบพลัน และ 4-6 สัปดาห์ สำหรับอาการแบบเรื้อรัง
• รักษาไทฟอยด์ ปริมาณการใช้ยาในผู้ใหญ่ รับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 7 วัน
• รักษาอาการท้องเสีย ปริมาณการใช้ยาในผู้ใหญ่ รับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 1-5 วัน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของเชื้อที่เป็นสาเหตุของอาการท้องเสีย
• รักษาการติดเชื้อที่กระดูกและข้อ ปริมาณการใช้ยาในผู้ใหญ่ รับประทานครั้งละ 500-750 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ใช้ยาติดต่อกันนานสุดไม่เกิน 3 เดือน
• รักษากระเพาะปัสสาวะอักเสบ ชนิดไม่มีภาวะแทรกซ้อน ปริมาณการใช้ยาในผู้ใหญ่ รับประทานครั้งละ 250-500 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 3 วัน สำหรับชนิดมีภาวะแทรกซ้อน ให้รับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 7 วัน
• รักษาและป้องกันหลังจากการได้รับเชื้อแอนแทรกซ์ผ่านการสูดดม ปริมาณการใช้ยาในผู้ใหญ่ รับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง จนครบ 60 วัน หลังจากได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ Bacilus anthracis
• รักษาการติดเชื้อในช่องท้อง ปริมาณการใช้ยาในผู้ใหญ่ รับประทานครั้งละ 500-750 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 5-14 วัน

ข้อปฏิบัติเมื่อลืมรับประทานยา Ciprofloxacin

หากลืมรับประทานยาให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้ โดยไม่ต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า ในกรณีที่ใกล้ถึงเวลารับประทานยาครั้งถัดไป ให้ข้ามไปรับประทานยาในมื้อถัดไปได้เลย โดยไม่ต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ

หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

กด

ผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา Ciprofloxacin

Ciprofloxacin อาจก่อให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง กลืนลำบาก ปวดศีรษะ มึนงง สับสน นอนไม่หลับ สั่น ง่วงซึม ฝันร้าย เห็นภาพหลอน ไวต่อแสง ยาตกผลึกในปัสสาวะ ค่าไนโตรเจนในกระแสเลือด (BUN) สูงขึ้น ค่าการทำงานของตับผิดปกติ หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตต่ำ บวมน้ำ วูบ ส่งผลต่อเส้นเอ็น รวมถึงผลข้างเคียงจากการฉีดยา ทำให้มีอาการปวดบริเวณที่ฉีด 

ส่วนผลข้างเคียงที่รุนแรง ได้แก่ อาการแพ้ยาอย่างหน้าบวม ปากบวม คอบวม ลมพิษ หายใจลำบาก อาการท้องเสียที่เกิดจากการติดเชื้อ Clostridium difficile (CDAD) 

การได้รับยาเกินขนาดจนอาจก่อให้เกิดอาการมึนงง ปวดศีรษะ สั่น หนื่อย ชัก เห็นภาพหลอน สับสน ไม่สบายท้อง และส่งผลต่อการทำงานของตับและไต หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

ข้อมูลการใช้ยา Ciprofloxacin ในสตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร 

Ciprofloxacin จัดอยู่ในกลุ่มยาประเภท C สำหรับใช้ในการตั้งครรภ์ คือควรระมัดระวังการใช้ยาในสตรีมีครรภ์และสตรีที่กำลังให้นมบุตร ก่อนใช้ยานี้ควรพูดคุยกับแพทย์ถึงประโยชน์และอันตรายจากการใช้ยา 

ประเภทของยา Ciprofloxacin ตามข้อมูลจากองค์การอาหารและยา ประเทศไทย

ยา Ciprofloxacin จัดอยู่ในกลุ่มยาอันตราย จำหน่ายเฉพาะในร้านขายยาแผนปัจจุบันที่มีเภสัชกรชั้นหนึ่งเป็นผู้จ่ายยาเท่านั้น

การเก็บรักษายา Ciprofloxacin

ควรเก็บรักษายา Ciprofloxacin ชนิดเม็ดสำหรับรับประทานในที่อุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียส สำหรับยาฉีด ควรเก็บยาไว้ที่อุณหภูมิ 5 ถึง 30 องศาเซลเซียส และเก็บให้พ้นจากแสงแดด

ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพผู้หญิง และผู้ชายทุกวัย เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจต่างๆ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android