อาการหายใจลำบาก หรือหายใจติดขัด (dyspnea/ shortness of breath) เป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากต้องเข้าพบแพทย์ที่โรงพยาบาล อีกทั้งยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยต้องเรียกรถพยาบาลมารับมากที่สุดเช่นกัน
เมื่อคุณออกแรงมากเกินไปย่อมมีอาการหายใจติดขัดบ้างเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่ออาการหายใจลำบากเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดและกะทันหัน นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะทางการแพทย์ต่าง ๆ ได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ข้อมูลชุดนี้จะกล่าวถึงสาเหตุทั่วไปของ: อาการหายใจลำบากกะทันหัน อาการหายใจลำบากระยะยาว
คุณไม่ควรอ้างอิงข้อมูลเหล่านี้เพื่อการวินิจฉัยโรคด้วยตนเอง แต่ควรใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อเป็นความรู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการหายใจติดขัด
ควรไปพบแพทย์เมื่อไร?
คุณควรไปพบแพทย์ทันทีที่มีอาการหายใจลำบากหรือหายใจติดขัดอย่างกะทันหันเพื่อตรวจหาปัญหาที่หลอดลมหรือหัวใจของคุณ
แพทย์สามารถทำการประเมินร่างกายของคุณทางโทรศัพท์ หรือด้วยวิธีการเข้าพบตัวต่อตัวที่บ้านหรือสถานพยาบาลก็ได้ หากอาการหายใจติดขัดที่คุณประสบนั้นไม่รุนแรงหรือเป็นผลมาจากความวิตกกังวล คุณอาจต้องไปพบแพทย์ตามสถานพยาบาลแทน
หากคุณมีอาการหายใจลำบากมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ห้ามเพิกเฉยต่ออาการนี้เด็ดขาด ควรไปพบแพทย์เพื่อมองหาว่าคุณเป็นภาวะสุขภาพระยะยาวหรือไม่ เช่นภาวะอ้วน หอบหืด หรือโรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง (chronic obstructive pulmonary disease - COPD) เป็นต้น
แพทย์จะทำการสอบถามคุณเพื่อประกอบการวินิจฉัย เช่น: คุณมีอาการหายใจติดขัดแบบกะทันหันหรือค่อย ๆ เกิดขึ้น? มีสิ่งกระตุ้นใดที่คุณสังเกตเห็น? เช่นการออกกำลังกาย อาการรุนแรงแค่ไหน? เกิดขึ้นในช่วงที่คุณออกแรงหรือไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรอยู่? มีความเจ็บปวดขณะหายใจหรือไม่? มีอาการไอร่วมด้วยหรือไม่? มีท่าทางใดที่ทำให้อาการทรุดลงหรือไม่? เช่นอาการทำให้คุณไม่สามารถนอนราบได้
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ความรู้สึกที่คุณไม่สามารถหายใจได้เต็มปอดนั้นเป็นเรื่องน่ากลัว แต่แพทย์ที่ผ่านการฝึกฝนมาเพียงพอจะสามารถจัดการกับอาการเหล่านั้นได้ โดยคุณอาจจะได้รับออกซิเจนช่วยหายใจตามความจำเป็น
สาเหตุของอาการหายใจติดขัดกะทันหัน
อาการหายใจติดขัดกะทันหันมักเป็นผลมาจากภาวะสุขภาพอื่น ๆ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ปัญหาเกี่ยวกับปอดหรือหลอดลม
อาการหายใจติดขัดกะทันหันอาจเป็นการกำเริบของโรคหอบหืด (asthma) ที่ทำให้หลอดลมตีบแคบและทำให้ร่างกายผลิตเสมหะเหนียว ๆ ออกมามากขึ้นจนทำให้เกิดอาการหายใจวี้ดและไอ คุณอาจรู้สึกหายใจลำบากเพราะว่าอากาศทำการไหลผ่านหลอดลมได้ยากขึ้นนั่นเอง
แพทย์จะแนะนำให้คุณใช้อุปกรณ์ spacer ที่ใช้ร่วมกับยาพ่นรักษาโรคหอบหืด ซึ่งอุปกรณ์นี้จะทำให้ปอดได้รับยามากขึ้นจนบรรเทาอาการหายใจติดขัดลง
โรคปอดบวม (การอักเสบของปอด) ก็อาจเป็นสาเหตุของอาการไอและหายใจไม่ออกได้เช่นกัน โดยมากมักเกิดจากการติดเชื้อที่สามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ
หากคุณเป็น COPD อาการหายใจติดขัดมักจะเป็นสัญญาณของการทรุดลงของโรคนี้
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ
ผู้ป่วยโรคหัวใจสามารถเกิดภาวะหัวใจวายแบบที่ไม่แสดงอาการใด ๆ ก็ได้ เช่นความเจ็บปวดที่หน้าอก หรือความรู้สึกวิตกกังวลรุนแรง
ในกรณีเช่นนี้ อาการหายใจติดขัดจะเป็นเพียงอาการเดียวที่แสดงออกมาก่อนที่หัวใจจะวาย หากคุณหรือแพทย์คาดว่าคุณกำลังจะหายใจวายแบบที่ไม่แสดงอาการ พวกเขาจะให้ยาแอสไพรินกับคุณก่อนจัดให้คุณพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลทันที
ภาวะหัวใจล้มเหลวก็ทำให้เกิดอาการหายใจติดขัดเช่นกัน ภาวะนี้เป็นภาวะอันตรายถึงชีวิตที่ทำให้หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้ และมักจะเป็นเพราะกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอหรือแข็งเกินไปที่จะทำงานตามปกติได้ ภาวะนี้ยังทำให้เกิดการสะสมกันของของเหลวภายในปอดซึ่งจะทำให้เกิดอาการหายใจลำบากขึ้นมา
ด้วยการปรับเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตและการใช้ยาหรือผ่าตัด จะทำให้หัวใจสามารถสูบฉีดเลือดได้ดีขึ้น ซึ่งจะบรรเทาอาการหายใจติดขัดลง
อาการหายใจติดขัดอาจเกี่ยวพันกับปัญหาด้านอัตราการเต้นของหัวใจเช่นกัน อย่างเช่นภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (atrial fibrillation หรือ supraventricular tachycardia)
แพนิคหรือความกังวล
ภาวะแพนิค (panic) หรือความกังวลก็สามารถทำให้คุณหายใจเร็วหรือถี่ขึ้นเช่นกัน คุณสามารถปรับความเร็วการหายใจได้ด้วยการพยายามลดความเร็วขณะหายใจหรือหายใจใส่ถุงกระดาษเพื่อทำให้ภาวะเหล่านี้หายไปเอง แต่ควรจะปฏิบัติเช่นนี้เมื่อคุณมั่นใจว่าอาการหายใจติดขัดเป็นผลมาจากความกังวลจริง ๆ
สาเหตุที่ไม่ปรกติต่าง ๆ
มีดังต่อไปนี้: ปฏิกิริยาแพ้รุนแรง (anaphylaxis) ภาวะปอดรั่ว (pneumothorax): ความเสียหายที่บางส่วนของปอดจนทำให้เกิดการฉีกขาดเล็กน้อยบนพื้นผิวของปอด ซึ่งทำให้อากาศเข้าไปขังอยู่ในช่องว่างรอบปอด โรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด (pulmonary embolism): การอุดตันของเส้นเลือดภายในปอด โรคพังผืดในปอดชนิดไม่ทราบสาเหตุ (idiopathic pulmonary fibrosis - IPF): ภาวะปอดที่หายากและไม่เป็นที่ชัดเจนที่ทำให้ปอดเกิดแผล ภาวะน้ำในโพรงเยื่อหุ้มปอด (pleural effusion): การสะสมกันของน้ำข้าง ๆ ปอด ภาวะคิสโตซิส (diabetic ketoacidosis): ภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานที่ทำให้กรดเข้าไปสะสมในเลือดและปัสสาวะ
สาเหตุของอาการหายใจติดขัดระยะยาว
อาการหายใจติดขัดแบบระยะยาวมักเป็นผลมาจาก: ภาวะอ้วนหรือไม่แข็งแรง โรคหอบหืดที่ไม่ได้รับการควบคุม โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD): เป็นภาวะเสียหายที่ปอดจากการสูบบุหรี่มานานแรมปี ภาวะโลหิตจาง (anaemia): ระดับออกซิเจนในเลือดที่ต่ำจะทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดง (haemoglobin) มีน้อย ภาวะหัวใจล้มเหลว: ภาวะที่หัวใจของคุณไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้เนื่องจากกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอหรือแข็งเกินไป อาการหายใจติดขัดอาจเกี่ยวพันกับปัญหาด้านอัตราการเต้นของหัวใจเช่นกัน อย่างเช่นภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (atrial fibrillation หรือ supraventricular tachycardia)
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการหายใจติดขัดระยะยาวที่พบได้ไม่บ่อยนักมีดังนี้: โรคหลอดลมโป่งพอง (bronchiectasis): ภาวะปอดที่ทำให้หลอดลมขยายใหญ่จนผิดรูปจนทำให้เกิดอาการไอมีเสมหะเรื้อรัง โรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด (pulmonary embolism): การอุดกั้นซ้ำซากของหลอดเลือดภายในปอด ความเสียหายที่ปอดบางส่วนที่เกิดจากมะเร็งปอด ภาวะน้ำในโพรงเยื่อหุ้มปอด (pleural effusion): การสะสมกันของน้ำข้าง ๆ ปอด การตีบแคบของลิ้นหัวใจหลัก และจำกัดการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงร่างกาย การประสบกับภาวะแพนิคบ่อยครั้งจนทำให้เกิดอาการหายใจลึกและถี่