น้ำเต้ามีชื่อที่ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า (Lagenaria siceraria (Mol.) Standl. เป็นพืชจำพวกเถาล้มลุกอยู่ในวงศ์ Cucurbitaceae เช่นเดียวกับฟักและฟักทอง มีขนอ่อนสีขาวปกคลุมอยู่ทั่วไปเช่นเดียวกับใบ เปลือกแข็งผิวเรียบ ตรงกลางมีไส้ และมีเมล็ดเรียงอยู่ข้างใน เนื้อนุ่มชุ่มน้ำ มีรสชาติขมอ่อนๆ นิยมใช้ผลอ่อนของน้ำเต้ามาประกอบอาหารได้หลายเมนู เช่น แกงเลียง แกงส้ม ผัดน้ำมัน และต้มเป็นผักจิ้มน้ำพริก นอกจากนี้น้ำเต้ายังมีสรรพคุณทางยาหลายอย่างอีกด้วย
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
น้ำเต้านั้นมีอยู่หลายสายพันธุ์ เช่น น้ำเต้าที่ลักษณะเป็นน้ำเต้าทรงเซียนนั้นเรียกกันว่า "น้ำเต้าพื้นบ้าน" นิยมนำมาทำเป็นเครื่องประดับ อีกชนิดมีลักษณะผลคล้ายกับน้ำเต้าพื้นบ้าน แต่เนื้อต้น และใบมีรสขม นิยมมาใช้ทำเป็นยา เรียกว่า "น้ำเต้าขม" หรือถ้าหากผลรียาวเหมือนงาช้างจะเรียกว่า "น้ำเต้างาช้าง"
คุณค่าทางโภชนาการของผลน้ำเต้าอ่อน
น้ำเต้า 100 กรัม ให้พลังงาน 10 แคลอรี มีคุณค่าทางโภชนาการดังนี้
- คาร์โบไฮเดรต 2.2 กรัม
- โปรตีน 0.3 กรัม
- ไขมัน 0 กรัม
- ใยอาหาร 1.7 กรัม
- น้ำ 96.8 %
- วิตามินบี 1 0.02 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 2 0.04 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 3 0.1 มิลลิกรัม
- วิตามินซี 12 มิลลิกรัม
- ธาตุแคลเซียม 14 มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก 0.1 มิลลิกรัม
- ธาตุฟอสฟอรัส 1 มิลลิกรัม
ที่มา: ตารางแสดงคุณค่าอาหารไทยในส่วนที่กินได้ 100 กรัม กองโภชนาการ กรมอนามัย
สรรพคุณของน้ำเต้า
ส่วนต่างๆ ของน้ำเต้ามีสรรพคุณดังนี้
- ใบ มีรสเย็น โขลกคั้นน้ำ ทาแก้ฟกช้ำบวม แก้โรคผิวหนัง แก้เริม งูสวัด พุพอง ดับพิษไข้ พิษอักเสบ ปรุงเป็นยาเขียว แก้ตัวร้อน ร้อนใน กระหายน้ำ วิธีใช้คือนำใบแห้งประมาณ 1 กำมือนำมาชงกับน้ำร้อนเป็นชา ดื่มแทนน้ำตลอดวัน แต่ไม่ควรรับประทานติดต่อกันเกิน 7 วันเนื่องจากใบมีรสเย็น อาจทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดลงจนทำให้เสียสมดุลร่างกายได้
- ราก แพทย์แผนไทยจะใช้น้ำเต้าขม เป็นยาแก้ดีแห้ง (บำรุงน้ำดี) ขับน้ำดีให้ตกลำไส้ และช่วยเจริญอาหาร
- เนื้อในผล นำมาประกอบอาหาร มีสรรพคุณในการลดระดับน้ำตาลในเลือดและควบคุมโรคเบาหวาน นอกจากนี้งานวิจัยที่ประเทศอินเดียยังพบว่า สารสกัดจากผลน้ำเต้าสามารถยับยั้งการเพิ่มปริมาณของคอลเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ และไขมันชนิดไม่ดี (Low Density Lipoprotein: LDL) ในเลือดได้ มากไปกว่านั้น สารสกัดชนิดนี้ยังช่วยเพิ่มปริมาณของไขมันชนิดดี (High-Density Lipoprotein: HDL) ในหนูทดลองได้อีกด้วย
- เมล็ด รสเย็นเมา ถ่ายพยาธิ แก้บวมน้ำ หรือใช้รากนำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้อาการบวมน้ำตามร่างกายก็ได้เช่นกัน
ข้อควรระวังในการบริโภคน้ำเต้า
แม้น้ำเต้าจะมีสรรพคุณมากมาย แต่มีข้อควรระวังเช่นกัน ดังนี้
- การรับประทานผลน้ำเต้าสุกจะทำให้อาเจียน มีอาการปวดท้อง ท้องเดิน จึงให้ใช้ผลอ่อนเป็นยาแทน
- การรับประทานผลน้ำเต้าเป็นเวลานาน อาจมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดที่ลดลง ดังนั้นควรรับประทานอาหารในครบทั้ง 5 หมู่ ในอัตราส่วน ที่เหมาะสมเพื่อรักษาระดับน้ำตาลให้สมดุล