ดีท็อกซ์ (Detox) เป็นวิธีการล้างพิษชนิดหนึ่ง คนส่วนใหญ่เมื่อพูดถึงกระบวนการนี้จะนึกไปถึงการดีท็อกซ์ลำไส้ เพื่อล้างพิษ เอาสิ่งสกปรกต่างๆ รวมไปถึงเชื้อโรคที่ให้โทษต่อร่างกายออกไป
แต่จริงๆ แล้ว ดีท็อกซ์ไม่ใช่แค่การกำจัดพิษจากส่วนของลำไส้เท่านั้น แต่หมายถึงการนำเอาสารพิษต่างๆ ออกจากร่างกาย ลดการสะสมและคั่งค้างของของเสียและสารพิษ ซึ่งเป็นตัวการทำลายสุขภาพ และความเจ็บป่วยต่างๆ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
วิธีการกำจัดสารพิษออกจากร่างกายมีหลากหลายรูปแบบ แต่วิธีที่ได้รับความนิยม มีอยู่ 3 วิธี คือ การรับประทาน การสวนล้าง และการอดอาหาร
ความหมายของการ ดีท็อกซ์
การดีท็อกซ์ (Detox) ย่อมาจาก Detoxification หมายถึง กระบวนการนำเอาสารพิษออกจากร่างกายด้วยวิธีที่เร็วที่สุด เชื่อกันว่า ช่วยให้สารพิษที่ตกค้างอยู่ในร่างกายถูกกำจัด ป้องกันไม่ให้ร่างกายเสียสมดุล
เนื่องจากร่างกายของเราได้รับสิ่งแปลกปลอมทั้งจากสภาพแวดล้อมภายนอก กระบวนการสันดาปภายใน รวมถึงการรับประทานอาหาร การสูดดมเอาฝุ่นละออง สารพิษ เชื้อโรค และสิ่งที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพเข้าไปโดยไม่รู้ตัว
ทำให้เกิดการสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ นานวันเข้าร่างกายก็จะส่งสัญญาณเตือนออกมาเป็นความเจ็บป่วยนั่นเอง
อ่านต่อ: ดีท็อกซ์ ทำเพื่ออะไร มีผลดีและผลเสียแค่ไหน
ดีท็อกซ์มีกี่วิธี?
การดีท็อกซ์สารพิษออกจากร่างกายที่นิยมกันมี 3 วิธี ได้แก่
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
1. ดีท็อกซ์ด้วยการรับประทาน
เป็นวิธีการดีท็อกซ์ที่ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง เพราะเป็นการกำจัดสารพิษโดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อุดมไปด้วยสารที่ช่วยดีท็อกซ์ร่างกาย เช่น ผัก ผลไม้ หรือเน้นอาหารที่ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติและผ่านการปรุงแต่งน้อยที่สุด
พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารปนเปื้อน เช่น อาหารหมักดอง อาหารขัดขาว อาหารที่ผ่านการฟอกสี อาหารสำเร็จรูป
อ่านต่อ: 5 สุดยอดอาหารสำหรับดีท็อกซ์ (Detox) กำจัดพิษในร่างกาย
2. ดีท็อกซ์ด้วยการสวนลำไส้
การสวนลำไส้ เป็นการแพทย์ทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ช่วยกำจัดสารพิษตกค้างภายในลำไส้ และช่วยลดอาการท้องผูก ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดียิ่งขึ้น แต่จะต้องทำด้วยคนที่มีความรู้ เพราะเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อได้ง่าย
การสวนล้างลำไส้ แบ่งเป็น 2 ระดับ ดังนี้
- การสวนล้างระดับล่าง เป็นการล้างในช่วง 30 เซนติเมตรสุดท้ายของลำไส้ด้วยน้ำ 1-1.5 ลิตร ผสมกาแฟบริสุทธิ์สำหรับทำ Detox โดยเฉพาะ หรือสมุนไพร เช่น น้ำมะนาว น้ำส้มมะขาม ทำได้ทั้งที่บ้านและโรงพยาบาล
- การสวนล้างระดับบน เป็นการล้างทั่วทั้งลำไส้ใหญ่ยาว 150 เซนติเมตร ด้วยน้ำอุ่น 25 ลิตร ต้องใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่เรียกว่า เครื่องล้างลำไส้ (Colonic) ที่มีการคุมอุณหภูมิ แรงดัน และปริมาณของน้ำ รวมถึงต้องมีแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลระหว่างการทำเท่านั้น
อ่านต่อ: ดีท็อกซ์ (Detox) ล้างลำไส้ ล้างพิษ
Detox วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 631 บาท ลดสูงสุด 79%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
3. ดีท็อกซ์ด้วยการอดอาหาร
การอดอาหารเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดีท็อกซ์ เป็นการเลียนแบบพฤติกรรมการจำศีลของสัตว์ วิธีนี้จะช่วยพักระบบการย่อยอาหาร ลดการสะสมของเสียในลำไส้ โดยทั่วไปจะใช้เวลา 1-2 วัน ทดแทนด้วยการดื่มน้ำเปล่า หรือน้ำผักผลไม้
จริงๆ แล้ว การดีท็อกซ์มีทั้งข้อดีและข้อเสีย หากดีท็อกซ์ด้วยการสวนล้างพิษภายในลำไส้ก็แนะนำว่าต้องทำโดยคนที่มีความรู้ อุปกรณ์ต้องมีความสะอาด หลีกเลี่ยงการทำด้วยตัวเอง
ส่วนการอดอาหารจะต้องดูสภาพร่างกายของตัวเองด้วยว่าพร้อมหรือไม่ หากมีโรคประจำตัวที่ต้องรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ ก็ควรหลีกเลี่ยง เพราะเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอันตรายรุนแรงขึ้นมาได้
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจทำดีท็อกซ์ จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกการอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android
รวมบทความที่เกี่ยวข้องกับการดีท็อกซ์
- เคล็ดลับที่ควรรู้ก่อนเริ่มดีท็อกซ์
- ดีท็อกซ์ ทำเพื่ออะไร มีผลดีและผลเสียแค่ไหน
- 7 วิธีช่วยดีท็อกซ์สารพิษในร่างกายที่ใครๆ ก็ทำได้
- ดีท็อกซ์ (Detox) ล้างลำไส้ ล้างพิษ
- 5 สุดยอดอาหารสำหรับดีท็อกซ์ (Detox) กำจัดพิษในร่างกาย
- ตัวอย่างเมนูอาหารล้างพิษ (Detox)
- เครื่องดื่มล้างลำไส้ด้วยตัวเอง ภายใน 7 วัน
- ดีท็อกซ์ร่างกายด้วย 5 สมูทตี้จากแตงกวา
- น้ำหมักผักผลไม้ (Infused Water) หนึ่งในเครื่องดื่มดีท็อกซ์ยอดนิยม
- ชวนทำ 5 ชาช่วยดีท็อกซ์ลำไส้ใหญ่
- ชวนทำ 5 สูตรกรีนสมูทตี้ (Green Smoothie) ช่วยดีท็อกซ์ และลดน้ำหนัก