February 28, 2019 20:02
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การที่มีความคิดในแง่ลบต่อตนเอง ร้องไห้บ่อยๆ เบื่ออาหาร และมีความคิดอยากฆ่าตัวตายอยู่บ่อยๆนั้นอาจเป็นอาการที่เสี่ยงต่อเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ
อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ
http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html
ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าให้ลองเปิดใจเล่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นให้คุณพ่อคุณแม่รับฟังดูก่อน เผื่อในกรณีที่ท่านเข้าใจก็จะได้ให้ความช่วยเหลือในการไปพบจิตแพทย์ได้ครับ
แต่ถ้าหากท่านไม่เข้าใจจริงๆก็ยังสามารถไปพบจิตแพทย์ด้วยตัวเองได้เช่นกันครับ ในตอนนี้หมออยากให้คุณให้ความสำคัญกับความรู้สึกของตัวเองเป็นหลัก และเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการให้เร็วที่สุดก่อน
นอกจากนี้ก็ยังสามารถโทรไปที่สายด่วนสุขภาพจิตเบอร์ 1323 เพื่อขอคำปรึกษาได้อีก 1 ช่องทางครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
จากเรื่องที่เล่ามาก็จะเห็นได้ว่ามีอาการหลายอย่างที่ค่อนข้างตรงกับเรื่องของภาวะโรคซึมเศร้านะครับ ซึ่งตรงนี้เมื่อเริ่มมีเรื่องของความคิดต้องการฆ่าตัวตายเข้ามาด้วยก็เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงครับ แต่อย่างไรก็ตามจะต้องแจ้งไว้นะครับว่า ความคิด อารมณ์ หรือพฤติกรรมที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของหนูนะครับ การเกิดความคิดเหล่านี้ และอารมณ์ด้านลบต่างๆนั้นเกิดมาจากหลากหลายสาเหตุรวมกัน ดังนั้นสิ่งสำคัญก็คือการมุ่งมั่นกับการพยายามควบคุมความคิด อารมณ์ และการดูแลตนเองของหนูให้อารมณ์มั่นคงที่สุดนะครับ โดยวิธีการนั้นหลักๆเลยผมอยากจะแนะนำให้หนูลองเข้าพบกับนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์เพื่อที่หนูจะได้รับการระบายความเศร้าหรือความเครียดตรงนี้ออกมานะครับ
อย่างไรก็ตามนอกจากการเข้าพบกับผู้เชี่ยวชาญแล้ว การดูแลตนเองก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นกันนะครับ การทานอาหารหรือการนอนหลับที่เพียงพอจะมีส่วนในการควบคุมอารมณ์ และในเบื้องต้นอยากให้ลองใช้เวลาให้กับตัวเราเองเพื่อทำกิจกรรมที่ชอบทำหรือทำแล้วมีความสุขโดยอาจจะเป็นในเรื่องของ การออกกำลังกาย การดูหนัง ฟังเพลง ซึ่งหากหนูมีกิจกรรมเหล่านี้ทำเป็นกิจวัตรแล้ว อารมณ์โดยรวมหรือจิตใจของหนูก็จะค่อยๆมีความมั่นคงมากขึ้นได้
ในส่วนของความคิดฆ่าตัวตาย หากมีความคิดเหล่านี้เข้ามาเยอะๆ หรือว่าคิดว่าตนเองมีแนวโน้มที่เราจะทำร้ายตนเองหรือฆ่าตัวตาย สิ่งแรกที่หนูควรจะต้องทำก็คือโทรติดต่อหาคนสนิทที่ไว้ใจได้ให้มาช่วยเหลือเนื่องจากหนูมีความคิดแบบนี้เกิดขึ้น นอกจากนั้นหนูสามารถติดต่อไปที่สมาคมสะมาริตันส์ได้ที่เบอร์ 02-713-6793 เวลาทำการ 12:00-22:00 ซึ่งการบริการจะเป็นการให้คำปรึกษาผ่านโทรศัพท์เช่นเดียวกันครับ หรือสุดท้ายแล้วหากไม่สามารถติดต่อไปที่ทั้งสอง หนูสามารถติดต่อกู้ภัยฉุกเฉิน 1669 เพื่อให้นำตัวหนูไปที่โรงพยาบาลใกล้เคียงได้ครับ
นกรณีที่ไม่ได้มีทุน หรือมีข้อจำกัดในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการเข้ารับบริการจากผู้เชี่ยวชาญ หนูสามารถลองตรวจสอบสิทธิประกันสังคมของตนเองดูได้เลยนะครับ จากลิ้งค์ด้านล่างนี้
http://eservices.nhso.go.th/eServices/mobile/login.xhtml
เมื่อรู้ว่าตนเองมีสิทธิประกันสังคมอยู่ที่ใด ก็ให้เริ่มเข้าไปติดต่อที่คลีนิกหรือโรงพยาบาลที่มีสิทธิอยู่ก็จะทำให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากครับ แต่หากโรงพยาบาลหรือคลีนิกนั้นไม่มีจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาอยู่ ทางคลีนิกสามารถออกใบส่งตัวให้ตัวน้องไปรับบริการได้จากโรงพยาบาลที่มีจิตแพทย์อยู่โดยใช้สิทธิประกันสุขภาพที่มีอยู่ครับทำให้เสียค่าใช้จ่ายที่น้อยหรือแทบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลยครับ แต่ก็อาจจะต้องระวังไม่ไปคลีนิกนอกเวลาที่อาจจะต้องทำให้มีค่าใช้จ่ายพิเศษเพิ่มขึ้นครับ หากมีคำถามอื่นๆ ก็สามารถสอบถามเข้ามาได้นะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณนะคะสำหรับคำแนะนำและคำปรึกษาขอบคุณที่ตอบคำถามหนู❤️🙏
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
บางครั้งการตกอยู่ในสภาวะที่กดดันอย่างต่อเนื่องทำให้สารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ และหากเราไม่สามารถปรับตัวต่อความเครียดความกดดันนั้นได้ ภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์-1เดือน ก็อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้
ซึ่งหากสงสัยเกี่ยวกับอาการของโรคซึมเศร้า สามารถเช็คอาการด้วยการทำแบบประเมินซึมเศร้าด้วยตัวเองดูก่อนนะคะ โดยในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7 วัน 1 คะแนน
≥7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวผิดหวัง
7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
จากนั้นรวมคะแนน หากได้มากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ค่ะ แนะนำให้พบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม การรักษาที่ถูกต้องตามแนวทางโรคจะช่วยให้อาการดีขึ้น ปรับตัวได้มากขึ้น ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติอีกครั้งนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หนูอยากทราบขั้นตอนในการเข้าไปพบจิตแพทย์น่ะค่ะ🙏
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
ในขั้นตอนของการเข้าพบจิตแพทย์ ก่อนอื่นเลยลองตรวจสอบนะครับว่าโรงพยาบาลที่เราจะไปโดยสามารถดูได้จากลิสด้านล่างนี้ได้ครับ
https://www.honestdocs.co/list-psychiatric-hospital
หลังจากนั้นอาจจะต้องตรวจสอบเวลาการตรวจให้บริการ และเริ่มต้นก็ไปให้เช้าหน่อยเพื่อที่จะได้ไม่ต้องรอคิวนาน หากโรงพยาบาลไหนมีบริการให้นัดหมาย หรือมีเบอร์โทรศัพท์ให้ติดต่อก็สามารถติดต่อเข้าไปก่อนก็ได้ครับ หลังจากนั้นกระบวนการก็จะคล้ายกับการพบหมอฝ่ายกาย ก็คือต้องเจอฝ่ายคัดกรอง และรับการวัดความดัน วัดส่วนสูง น้ำหนักจากพยาบาล จากนั้นเมื่อได้พูดคุยกับจิตแพทย์แล้ว จิตแพทย์อาจจะส่งเราไปยังแผนกอื่นๆ เช่นแผนกจิตวิทยาเพื่อทำแบบประเมินทางสุขภาพจิตได้ครับหากว่าจิตแพทย์ที่คุณเจอคิดว่าเป็นสิ่งจำเป็น หลังจากนั้นสุดท้ายก็มักจะเป็นการร่วมกันตัดสินใจในเรื่องของการรักษา ว่าจะ admit หรือไ่ม่ หรือว่าหมอจะสั่งยาตัวไหนให้ทานบ้างครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ค่ะขอบคุณนะคะ❤️
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
ขั้นตอนการไปพบจิตแพทย์ แนะนำให้หนูไปรับบริการใน รพ.ตามสิทธิ์การรักษาพยาบาลของหนูนะคะ ขั้นแรกติดต่องานเวชระเบียนเจ้าหน้าที่จะถามเคร่าๆว่ามีอาการอย่างไร จากนั้นจะทำประวัติให้หนูพบแพทย์ที่แผนกจิตเวช
ขั้นตอนที่แผนกจิตเวช เริ่มแรกจะมีการซักประวัติอาการ ทำแบบประเมินอาการ แล้วส่งพบจิตแพทย์ ตรวจ วินิจฉัยและให้การรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมค่ะ หนุไม่ต้องกังวลนะคะ หากสงสัยประเด็นไหนสามารถถามคุณหมอหรือพยาบาลได้เลยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะหนูสงสัยว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า เริ่มจากที่หนูคิดมากกับคำพูดคนอื่นหนูเก็บมาคิดตลอดแค่นิดเดียวหนูก็เก็บมาคิดและโทษด่าตัวเอง หนูถูกคนในครอบครัวต่อว่าเปรียบเทียบต่างๆเป็นเพราะหนูขี้เกียจด้วยค่ะช่วงแรกหนูเข้าใจที่ผู้ใหญ่ต่อว่าแต่หลังๆมาหนูรับไม่ไหวหนูเหนื่อยมากหนูพยายามที่จะทำให้ตัวเองดีขึ้นแต่ก็ไม่เห็นว่าอะไรจะเปลี่ยนไปมีแต่แย่ลงหนูรู้สึกห่างจากครอบครัวหนูอยากอยู่คนเดียวไม่ค่อยออกไปทานข้าวกับครอบครัวอยู่แต่ในห้อง ไปโรงเรียนหนูก็พยายามยิ้มหัวเราะแต่ในใจเหนื่อยมากเลยค่ะ รู้สึกว่าตายไปคงดีกว่านี้ หนูคิดที่จะทำหลายรอบมากค่ะแต่ไม่สำเร็จ เพื่อนๆชอบบอกว่าหนูอ่อนแอหนูร้องไห้ง่าย หนูอยากไปพบคุณหมอแต่ไม่รู้จะบอกพ่อแม่ยังไง จากกีฬาที่หนูเล่นหนูก็ไม่อยากเล่นเพราะเหนื่อยและท้อว่าทำไม่ดีซักที อีกอย่างพ่อและแม่ทะเลาะกันบ่อยมากๆเกือบทุกครั้งที่เห็นกันหนูรู้สึกไม่ดีหนูเก็บมาคิดและคิดว่าตัวเองเป็นสาเหตุนั้นที่ทำให้เขาทะเลาะกัน😭
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)