September 08, 2019 11:43
ตอบโดย
ปวริศ ยืนยง (นพ.)
สวัสดีครับสาเหตุต่างๆ ที่ทำให้ประจำเดือนไม่มาเช่น
1.ความผิดปกติที่ธาลามัส เช่น มีการทำงานของฮอร์โมนบางอย่างทำงานผิดปกติ หรือ เนื้องอก ซึ่งธาลามัสเป็นตัวควรคุม การทำงานของฮอร์โมนต่างๆครับ ถ้าทำงานผิดปกติจะส่งผลต่อต่อมใต้สมองได้ครับ
2.ความผิดปกติที่ต่อมใต้สมอง เช่น ผลิตฮอร์โมนที่ชื่อ prolactin มากไป จะทำให้มีน้ำนม เวลามีน้ำนม จะไม่มีประจำเดือน ครับ ซึ่งโรคนี้ต้องไปตรวจกับอายุรแพทย์เพื่อทำการ x ray คอมพิวเตอร์ สมองครับ
3.ความผิดปกติที่รังไข่ เช่น ถุงน้ำในรังไข่ จะมีประจำเดือนมาไม่ปกติ มาบ้างไม่มาบ้าง เพราะว่าในบ้างเดือนไข่ก็จะไม่ตก กลายเป็นถุงน้ำในรังไข่ ซึ่งพบได้บ่อยในเพศหญิงโรคนี้จะตรวจต้องไปตรวจกับ สูตินารีแพทย์ ครับ
4.ความผิดปกติที่ฮอร์โมนจากร่างกายตัวอื่นๆ เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ หรือไทรอยด์ต่ำ ซึ่งฮอร์โมนไทรอยด์ ต่ำไป สูงไป ก็จะทำให้ ประจำเดือนไม่มาได้ครับ เป็นต้นครับ
5.ความเครียด และ น้ำหนักตัวที่มากอาจจะทำให้ประจำเดือนผิดปกติได้ครับ
6.ผลข้างเคียงหลังจากการคุมกพเนิดด้วนการ ฉีดยาคุม ฝั่งยาคุม จะทำให้ประจำเดือนไม่ได้เช่นกัน อาจจะส่งผลได้นานหลายเดือน
ส่วนเรื่องเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ อาจจะเกิดจาก การมีปากมดลูกอักเสบ มีติ่งเนื้อในช่องคลอด เป็นต้นครับ
เพราฉะนั้นการที่น้ำหนัก 80 ถ้าสูง ประมาณ 160 ลงมา คิดง่ายคือ น้ำหนักตัวมากครับ แล้วความอ้วนก็เป็นสาเหตุได้เช่นกันครับ แนะนำว่าใหลดความอ้วนครับ และลองไปตรวจหาสาเหตุอื่นๆกับสูตินารีแพทย์ครับ เรื่องที่ทำให้มีเลือดออกผิดปกติ หลังมีเพศสัมพันธ์ และ ประจำเดือนไม่มาครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
ถ้าคนไข้ประจำเดือนไม่มาตามรอบ และตรวจการตั้งครรภ์ ไม่เจอการตั้งครรภ์ การที่ประจำเดือนไม่สม่ำเสมอ อาจจะเป็นจากสาเหตุอย่างอื่น
เช่น รังไข่ผิดปกติ, การตกไข่ที่ไม่สม่ำเสมอ, ความเครียด/วิตกกังวล, ฮอร์โมนในเลือดผิดปกติ
, น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป, ผลข้างเคียงของยาบางชนิด เป็นต้นครับ
แนะนำให้ลดน้ำหนัก และจดประจำเดือนไปพบสูตินรีแพทย์ เพื่อตรวจเพิ่มเติม ที่สำคัญพยายามหลีกเลี่ยงความเครียด เพราะความเครียดทำให้ประจำเดือนไม่สม่ำเสมอได้ครับ
ส่วนเรื่องตกขาวเป็นสีน้ำตาล เป็นได้จากหลายอย่างครับ
เช่น
- ตกขาวสีขาวปนเทา กลิ่นคล้ายคาวปลา อาจจะเกิดจากการสวดล้างช่องคลอด ทำให้แบคทีเรียบริเวณช่องคลอดไม่สมดุล
- ตกขาวสีเขียวปนเทา กลิ่นเหม็น มีฟองมาก และคัน อาจเกิดจากเชื้อปรสิต
-ตกขาวปนเลือด สามารถเป็นได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น ก่อนประจำเดือนมา อาจเป็นอาการปกติได้ เพราะมีการหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูก, ติดเชื้อในโพรงมดลูก มดลูกอักเสบ หรือเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่
เป็นต้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การที่ประจำเดือนขาดหายไปนานเป็นเวลาหลายเดือนโดยที่ไม่ได้เกิดจากการตั้งครรภ์นั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- มีระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ไม่มีการตกไข่
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
ซึ่งในกรณีนี้ก็จะต้องอาศัยการตรวจภายใน ตรวจเลือด และอัลตราซาวด์เพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติมก่อนครับ
หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจหาสาเหตุของการขาดประจำเดือนก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
หลังมีเพศสัมพันธ์กับแฟนมีตกขาวไหลออกมาเป็นสีน้ำตาลเป็นแบบนี้มา 2 ครั้ง ครั้งแรกไม่มีกลิ่น ไม่คัน ครั้งที่สองอาการเหมือนกันแต่ปวดท้องน้อยนิดหน่อยค่ะ ประจำเดือนไม่มา 4-5เดือนแล้วตรวจแล้วไม่ท้อง สาเหตุนี้จะเป็นโรคอะไรมั้ยคะ ปล.เกี่ยวกับความอ้วนมั้ยเพราะน้ำหนักขึ้นมาประมาณ30กว่าโลจาก 50เป็น80ค่ะภายในไม่กี่เดือน
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)