February 27, 2019 21:02
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ
อาการดังกล่าว โดยรวมๆ แล้ว อาจจะยังไม่เข้ากับโรคใดๆ เป็นพิเศษนะคะ
>>สำหรับประจำเดือนเลื่อน
โดยปกติ รอบเดือนของเรา จะคลาดเคลื่อนอยู่ระหว่าง 21-35 วัน (บวกลบเจ็ดวันจากรอบก่อนๆ ) อยู่แล้วค่ะ ถ้ายังอยู่ในช่วงนี้ ก็ยังถือว่าปกติค่ะ แต่ถ้ามีความเครียด วิตกกังวล ซึ่งเกิดขึ้นได้ในคนทั่วไป ก็อาจทำให้คลาดเคลื่อนไปได้อีกค่ะ
ในกรณีประจำเดือนไม่มาตามปกติ หรือ ประจำเดือนขาดไป
-ถ้าคนไข้มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน การใช้ถุงยางอนามัย หรือการคุมกำเนิดวิธีอื่นๆไม่ถูกต้อง หรือ ผิดพลาด ก็อาจตั้งครรภ์ได้ เบื้องต้นแนะนำว่า ให้ตรวจการตั้งครรภ์ก่อนนะคะ โดยการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะด้วยตนเอง สามารถตรวจได้ตั้งแต่ 14 วันหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ
(การตรวจนั้น ต้องตรวจถุกต้องตามคำแนะนำและระยะเวลาที่เหมาะสมด้วยนะคะ จึงจะเชื่อถือได้ค่ะ)
-ถ้าคนไข้ไม่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เลยหรือตรวจการตั้งครรภ์แล้วไม่พบการตั้งครรภ์. ปัจจัยที่จะทำให้ประจำเดือนที่เคยมา แล้วไม่มา หรือผิดปกติ มีหลายอย่างค่ะ ตัวอย่าง เช่น
1.ความเครียด การอดอาหารนานๆ และการออกกำลังกายอยางหักโหมมากเกินไป ทำให้ประจำเดือนขาดได้ค่ะ พบได้บ่อยที่สุด
2.การใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาคุมกำเนิด แบบฉีด หรือยาบางอย่าง เช่น ยารักษาโรคทางจิตเวช
3.โรคทางระบบสืบพันธ์บางชนิด เช่น ถุงน้ำรังไข่ ( PCOS) อาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ หรือ การ ติดเชื้อ ทางเพศสัมพันธ์ อาจมำให้มีอาการปวดท้อง หรือ ตกขาว ที่ผิดปกติได้ ซึ่ง คใรไปพบแพทยืดพื่อตรวจร่างกาย
4.ฮอร์โมน ไทรอยด์ผิดปกติ ซึ่งจะต้องทีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ใจสั่น กินจุ น้ำหนักลด หรือ ฮอร์โมนจากรังไข่ผิดปกติ อาจทำให้ไม่เกิดการตกไข่ ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไม่มา หรือมาแบบกระปริบกระปรอย เป็นต้นค่ะ
5. โรคทางการกินที่ผิดปกติ (anorexia) ซึ่งเป็นโรคทางจิตเวชอย่างหนึ่ง หากอดอาหาร หรือทานอาหารไม่ถูกวิธีนานๆ จะทำให้ขาดประจำเดือนได้ค่ะ
ถ้าคนไข้มีอาการต่างๆที่ผิดปกติดังที่กล่าวไป แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายหรือตรวจภายในเพิ่มเติมนะคะ
หากประจำเดือนมาล่าช้ากว่าปกติ และไม่ได้เป็นมาติดต่อกันนานเกิน 3 ครั้ง ก็ให้รอดูอาการก่อนได้ค่ะ หากเกิน 3 เดือนประจำเดือนไม่มา แนะนำให้ไปตรวจร่างกาย และตรวจภายในเพิ่มเติมนะคะ
>>อาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง
เป็นอาการไม่เฉพาะเจาะจง สามารถเกิดได้จากสาเหตุหลายอย่าง เช่น
-การ ติดเชื้อ ที่ทางเดินอาหาร
-การพักผ่อนไม่เพียงพอ
-การทานน้ำไม่เพียงพอ
-ยาบางชนิด
-การทานเครื่องดื่มคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ
-โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
-การติดเชื้อตามระบบอื่นๆ
-ความเครียด วิตกกังวล
เป็นต้น
การรักษาเบื้องต้น เช่น การพักผ่อนให้เพียงพอ การรับประทานยาแก้อาเจียน งดชากาแฟ และคลายเครียด
ดังนั้น หากมีอาการคลื่นไส้อาเจียน เป็นมาก เวียนศรีษะ หน้ามืด เป็นลม หรือ ปวดท้องมาก แนะนำให้ไปพบแพทย์ค่ะ
>>นอกจากนี้ อาการท้องผูกสลับท้องเสีย ปวดท้อง อาจเเสดงถึงโรคได้หงายแบบ เช่น
-IBD
-ลำไส้อักเสบ
-การติดเชื้อพยาธิ หรือแบคทีเรียเรือรังได้
>>และ สุดท้าย หากคนไข้ไปพบแพทย์ ได้ทำการตรวจร่างกาย เช่น เอกเรย์ ตรวจเลือด หรือ การส่องกล้องทางลำไส้ ไม่พบความผิดปกติ ความเครียด หรือ อาการซึมเศร้า อาจเป็นสาเหตุให้มีอาการต่างๆ รวมๆกันได้ค่ะ
แนะนำให้ทำใจให้สบาย คลายเครียด พักผ่อนให่เพียงพอนะคะ
>>กรณีนี้ หากไปพบแพทย์ แนะนำให้พบอายุรแพทย์ก่อนค่ะ และหากมีความเครียด วิตกกังวลร่วม อาจพบจิตแพทยืพร้อมๆกันได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
เครียด สมองตื้อ ไม่ค่อยมีสติ ทำอะไรไม่รู้ตัวแล้วหลงลืมบ่อย เมนขาดมา2วันปกติเป็นคนมาไม่ตรงอยู่แล้วมีอาการท้องเสียสลับกับท้องผูก เบื่ออาหาร คลื่นไส้ปวดท้องร่วมด้วย เป็นโรคอะไรคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)