เจ็บคอค่ะ กินน้ำก็แสบ เจ็บบริเวณในคอ ด้านนอกคลำๆเอาก็เจ็บค่ะ เหมือนมีจุดขาวๆในฝั่งสองฝั่ง ในคอมีตุ่มแดงเลยค่ะ บนเพดานปากก็เจ็บค่ะ แบบนี้เป็นอะไรคะ

สวัสดีค่ะ
อาจคิดถึงคออักเสบ (Pharyngitis) ได้ค่ะ ซึ่งคออักเสบยังรวมไปถึงการอักเสบในบริเวณใกล้เคียงด้วย เช่น ต่อมทอนซิล ลิ้นส่วนหลัง เพดานปาก มักเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเป็นส่วนใหญ่ โดยมักมีอาการ เช่น เจ็บคอ เป็นไข้ คอแดง ตาแดง คัดจมูก น้ำมูกไหล ไม่อยากอาหาร ไอ จาม ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว เป็นต้น โดยถ้าติดเชื้อไวรัสมักเป็นอยู่เพียง 4-7 วันโดยไม่ต้องรับประทานยาปฏิชีวนะ สามารถทานยาบรรเทาอาการ เช่น ยาแก้ปวดพาราเซตามอลหรือยากลุ่มNSAIDs ยาลดน้ำมูก ยาอมแก้เจ็บคอที่มีส่วนผสมของยาชา หรือดื่มน้ำเย็น น้ำแข็ง ไอศกรีมอาจช่วยลดการระคายเคืองเจ็บคอแบบไม่รุนแรงได้ชั่วคราวเนื่องจากทำให้เกิดความรู้สึกชา หรือกลั้วคอด้วยน้ำอุ่นผสมเกลือ โดยใช้เกลือปริมาณครึ่งช้อนผสมลงในน้ำอุ่น 1 ถ้วย และสามารถเติมน้ำผึ้งช่วยกลบรสเค็มได้ นอกจากนี้ก็นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้มากๆ

แต่ถ้ามีจุดขาวๆที่ต่อมทอนซิลด้วย เจ็บคอรุนแรง อาจคิดถึงการติดเชื้อของแบคทีเรียได้ มักจะมีอาการเพิ่มเติมจากติดเชื้อไวรัส เช่น มีจุดหรือแผ่นสีขาวหรือสีเทาบริเวณลำคอ ทอนซิลโตและมีจุดสีขาว ต่อมน้ำเหลืองบริเวณลำคอโต เจ็บ อ่อนเพลียมาก เจ็บคอมากจนอาจกลืนไม่ได้ เจ็บรุนแรงและนานเกิน 7 วัน กรณีนี้ควรไปพบแพทย์ แพทย์จะจ่ายยาปฏิชีวนะและควรทานยาให้ครบเพื่อไม่ให้เกิดการดื้อยาค่ะ

สวัสดีครับ
อาการดังกล่าว นึกถึงการติดเชื้อครับ เช่น คออักเสบ หรือ ทอลซิลอักเสบครับ
ซึ่งสามารถเกิดได้ทั้งจากเชื้อไวรัส และเชื้อ แบคทีเรียครับ
โดยคนไข้ อาจมีอาการร่วม เช่น ไข้ ไอ น้ำมูก อ่อนเพลีย
>>การรักษา คือ แนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ สามารถทานยาแก้ปวดลดไข้ได้ และหากมีไข้สูง เจ็บคอมาก แนะนำให้ไปพบแพทย์ เพื่อตรวจร่างกายเพิ่มเติม อาจต้องใช้ยาฆ่าเชื้อ เพื่อรักษาร่วมด้วยครับ
>>โดยหากรักษาตามอาการไม่ดีขึ้นโดยใช้ยาพื้นฐาน เช่น การทานน้ำ ยาอมแก้เจ็บคอ จาพ่นบรรเทาอาการเจ็บคอ ยาพาราเซตามอลไปแล้ว ให้ไปพบแพทย์ครับ
**ไม่แนะนำให้ซื้อยากินเองนะครับ โดยเฉพาะยาฆ่าเชื้อ เนื่องจาก
1) การวินิจฉัยอาจผิดพลาด เนื่องจากไม่ได้ตรวจร่างกาย เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
2)ยาฆ่าเชื้อมีหลายชนิด รักษาเชื้อที่แตกต่างกัน การให้ยาที่ไม่ตรงกับเชื้อ นอกจากจะไม่ได้เป็นการกำจัดเชื้อแล้ว ยังก่อให้เกิดเชื้อดื้อยาในตัวคนไข้ ต่อไปจะเลือกใช้ยาฆ่าเชื้อได้ยาก เมื่อมีอาการป่วยจริงๆครับ
3) ยาทุกชนิด มีผลข้างเคียง หลังจากได้ยา อาจต้องมีการแนะนำ และตรวจติดตามทุกครั้ง จึงจะมีประสิทธิภาพในการรักษาครับ