July 05, 2019 13:06
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
อาการปวดประจำเดือน มีสาเหตุการเกิดสองแบบ ได้แก่
>>แบบแรก คือ เกิดจากการหดตัวของมดลูก เพื่อขับเลือดประจำเดือน สามารถเกิดได้เป็นปกติครับ โดยอาการอาจจะเกิดขึ้น ก่อนมีประจำเดือน 1-2 วัน และในช่วงการมีประจำเดิอน โดยเฉพาะ 12-72 ชมแรกครับ
อาการปวด จะปวดแบบบีบๆ เหนือหัวหน่าว บางคนอาจร้าวไปหลังได้ด้วย และร่างกาย อาจหลั่งสารความเจ็บปวดออกมา ทำให้มีอาการตามระบบร่วมด้วย เช่น ปวดศรีษะ คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศรีษะ ท้องเสียถ่ายเหลว เป็นต้นครับ
>>แบบที่สอง คือ การปวดประจำเดือนทีมีสาเหตุมาจากความผิดปกติขอวระบบสืบพันธ์สตรีอื่นๆ เช่น
- เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่
- เนื้องอก ในมดลูก
- -โรคของรังไข่ เช่น ชอคโกแลตซีส ถุงน้ำรังไข่ PCOS เป็นต้น
- การติดเชื้อ เป็นต้น
ผู้ป่วยอาจประสบปัญหา เช่น ปวดมากจนรบกวนการเรียน / การทำงาน ปวดจนพักไม่ได้ ปวดนานไม่หาย ปวดข้างใดข้างหนึ่งของท้องน้อยมากกว่าปกติ คลำได้ก้อนหรือ มีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์ มีบุตรยาก หรือมีตกขาวผิดปกติได้ครับ
คำแนะนำเบื้องต้น เมื่อมีประจำเดือนและมีอาการปวดประจำเดือนคือ
1.ทานน้ำมากๆ
2.ยาแก้ปวดที่ช่วยได้ เช่น mefenamic acid หรือ ponstan , diclofenac , ibuprofen , พาราเซตามอล เป็นต้น
3.การประคบอุ่น หรือ การใช้ถุงน้ำร้อน
4.พักผ่อนมากๆ
5.พยายามไม่มีเพศสัมพันธ์ขณะมีประจำเดิอน เนื่องจากเพิ่มความเสี่ยงการติดเชื้อต่างๆได้ง่ายครับ
หากมีอาการผิดปกติ ที่หมอกล่าวไป ที่อาจมีความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติที่จะทำให้เกิดอาการปวดประจำเดือนแบบที่สอง ได้แก่ ปวดมากจนรบกวนการเรียน / การทำงาน ปวดจนพักไม่ได้ ปวดนานไม่หาย มีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์ มีบุตรยาก หรือมีตกขาวผิดปกติ ให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย ตรวจภายใน หรือส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมครับ
การรักษาจะเป็นไปตามสาเหตุครับ เช่น การให้ยาปรับฮอร์โมน การผ่าตัด เป็นต้นครับ
>>>เมื่อมีประจำเดือน เลือดที่ออกมา อาจมีลักษณะเป็นเนื่อเยื่อ หรือ เป็นลิ่มเลือดได้ เนื่องจากการหลุดลอกของเนื้อเยื่อมดลูกครับ
อาการนี้ สามารถพบได้ในช่วงประจำเดือนวันแรกๆ ไม่อันตราย หากไม่มีอาการอื่นผิดปกติ เช่น ปวดท้องมาก ตกขาวผิดปกติ เลือดออกมากกว่าปกติ หรือ สงสัยว่ามีการตั้งครรภ์อยู่ก่อนแล้วครับ
อย่างไรก็ตาม หากลิ่มเลือดมามาก ให้ระมัดระวัง อาการของอาการประจำเดือนมามาก ครับ
อาการประจำเดือนมามาก หมายถึง ประจำเดือนที่
1)ใช้ผ้าอนามัยมากกว่า 1 แผ่นใหญ่ต่อชั่วโมง
2)ประจำเดือนมามากกว่า 10 วัน
3)มีอาการที่เกิดขึ้นจากภาวะมีเลือดออก เช่น หน้ามืด เป็นลม ซีดลง ต้องเติมเลือด เป็นต้น
>>ซึ่งเมื่อคนไข้ มีประจำเดือนมามาก เป็นสิ่งที่ต้อวหาสาเหตุค่ะ ซึ่งสาเหตุมีหลากหลาย ได้แก่
1.สาเหตุที่ระบบสืบพันธุ์ เช่น เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ ก้อนเนื้อในมดลูก เป็นต้น
2.ฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ไทรอยด์ ฮอร์โมนเพศ
3.ระบบการแข็งตัวของเลือด เช่น เกล็ดเลือดต่ำ การทำงานของเกล็ดเลือดผิดปรกติ เป็นต้น
ดังนั้น คนไข้ หากคนไข้มีอาการที่เข้าได้กับประจำเดือนมามาก ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
เวลาเป็นประจำเดือนทุกครั้ง ปวดท้องมาก เวลาถ่ายมีอาการหน่วงๆเอว ก้นกบมาก และเวลามีประจำเดือน จะมีก้อนเลือด แต่ไม่ใช่ก้อนเลือดสีสด แต่จะเป็นก้อนเลือดแบบเยื้อๆหน่อย อยากทราบว่าอันตรายไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)